x close

เจด้า ณ ลำเลียง ดาวดวงใหม่ที่พร้อมเปล่งประกายแล้ว!







เจด้า ลูกสาวเจ เจตริน


เจด้า ณ ลำเลียง ดาวดวงใหม่ที่พร้อมเปล่งประกายแล้ว! (Lisa)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram jjayda

          เปล่งประกายทายาทศิลปินดังตามรอย "คุณพ่อเจ-เจตริน วรรธนะสิน" และ "คุณแม่จีน่า-จิดาภา ณ ลำเลียง" ไปแล้วสำหรับสาวน้อยหน้าใส "เจด้า ณ ลำเลียง" ที่แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะมีภาพความเคลื่อนไหวของเจด้าผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อบันเทิงประปราย แต่มาปีนี้ที่เธออายุ 14 ปีและกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตครบรอบ 20 ปีของคุณพ่อร่วมกับน้องชายทั้งสามคน เรียกว่าความน่ารักสดใสของเจด้าคว้าเอาหัวใจแฟน ๆ จนมีแฟนคลับมากมาย โด่งดังขึ้นภายในเวลาไม่นาน จนค่ายดังอย่างโพลีพลัสไม่รอช้า คว้าสาวน้อยคนเข้าสังกัดไปเรียบร้อยโรงเรียน "คุณนิด-อรพรรณ" กันไปแล้ว

          แม้ว่าตอนนี้เธอจะกลับไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ไม่นานนี้เธอจะกลับมามีผลงานในวงการบันเทิงบ้านเราแน่ ๆ แต่จะอยู่ยาวหรือไม่… ต้องรอไฟเขียวจากผู้ปกครองเสียก่อน ซึ่งงานนี้คุณแม่จีน่าที่ให้สัมภาษณ์แทนน้องเจด้าที่ยังไม่ค่อยเข้าใจภาษา ไทยดีนักก็ให้คำตอบที่แฟน ๆ ของน้องเจด้าในเมืองไทย…ได้เฮกันแน่ค่ะ

กลับมาเมืองไทยครั้งนี้เพื่อพาน้องมาทำงานเลยเหรอคะ

          คุณแม่จีน่า : เปล่าค่ะ คืองานมาทีหลัง พอดีเราจะกลับมาเยี่ยมญาติที่เมืองไทยบ่อย ๆ อยู่แล้วพอมาปีนี้มีคอนเสิร์ตของคุณพ่อด้วย (คอนเสิร์ต 20 ปี เจ-เจตริน) แล้ว เจต้า เค้าอยากทำ เราก็ตามใจค่ะ

น้องเจต้านมีแววเรื่องการแสดงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ

          คุณแม่จีน่า : เจต้าชอบเต้นระบำตั้งแต่เด็กเลย แววเค้ามาตั้งแต่ขวบครึ่ง พอเค้าได้เห็นการแสดงในโทรทัศน์ก็ชอบ ก็เต้นตามเราก็เลยรู้ว่าเค้าชอบ ก็เลยพาไปเรียนพอมาตอนนี้เค้าก็มาชอบเล่นละคร

คุณแม่พาเค้าไปเรียนอะไรบ้างคะ

          คุณแม่จีน่า : คือ เจด้าสนใจเองก่อน ก่อน 3 ขวบคุณแม่ พาเจด้าไปเรียนเต้นบัลเลต์ แต่เจด้าไม่ชอบเลย ร้องไห้ไม่ยอมเรียน พอเค้าอายุได้ 6 ขวบ เจด้าก็มาบอกเองว่าอยากเรียนบัลเลต์ เราก็เลยพาไปเรียนอีกครั้ง จากนั้น เค้าก็อยากเรียนเองมาตลอด คุณแม่ก็มีหน้าที่แค่ไปส่งเค้าก็เรียนบัลเลต์ แจ๊ซ คอนเทมโพรารี่

ตอนอยู่ที่อเมริกา คุณแม่กับน้องเจด้าใช้ชีวิตยังไงบ้าง


          คุณแม่จีน่า : ตอนนี้เจด้าอายุ 14 ปีแล้ว คือคุณแม่ก็ทำงาน เจด้าก็เรียน มีบ้างที่เจด้าได้ไปถ่ายแบบกับคุณแม่ ถ้าว่างเราสองคนชอบไปทะเล แล้วแถวบ้านเรามีภูเขา เราก็ชอบไปปีนเขา ชอบไปเที่ยวภูเขา และถ้ามีเวลาก็จะไปเที่ยวนิวยอร์ก มีทริปที่แบบสนุกสนาน ไปดูพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ช้อปปิ้งบ้าง ก็ทำอะไรสนุก ๆ กันสองคนแบบผู้หญิงค่ะ

การเรียนของเจด้าที่อเมริกาเป็นยังไงบ้างคะ

          คุณแม่จีน่า : ตอนนี้เจด้าอยู่เกรด 9 (ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็ม.3) เขาชอบทำกิจกรรม ถ้าไม่ใช่เรื่องเต้นก็จะเป็นการวาดรูป เค้าชอบวาดรูปมาตั้งแต่ 9 ขวบ เราจะเห็นเลยว่าเค้าสนใจด้านนี้มาก ๆ แล้วก็ชอบเล่นเปียโน ชอบหลายอย่างเลย เจด้าเป็นคนที่ครีเอทีฟมาก ๆ จริง ๆ แล้วเจด้ามีตารางเต็มมาก ๆ เค้าอยากเรียนไปหมด คือคุณแม่ต้องขับรถไปส่งเจด้าแล้วคุณแม่ก็ไปทำงานก่อนจะกลับมารับเต็มไปหมดเลยวันนึง (หัวเราะ) ตารางชีวิตของเจด้าเต็มมาก ๆ (หัวเราะ) เพราะเค้าชอบเยอะไปหมด

อยู่ที่อเมริกาคุณแม่จีน่าทำอะไรบ้าง

          คุณแม่จีน่า : ก็จะทำธุรกิจ รับงานถ่ายแบบ แล้วก็ดูแลลูก แค่นี้ก็เต็มไปหมด ไม่มีเวลาแล้วค่ะ (หัวเราะ)

คุณแม่สอนเจด้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : สอนค่ะ ด้วยความที่คุณพ่อเจด้าเป็นคนไทย คุณแม่ก็จะพยายามสอนให้เจด้า "สวัสดีค่ะ" ต้องอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ และก็ต้องสุภาพ โดยส่วนตัวเค้าจะเรียบร้อย พูดเบา ๆ แล้วเค้าก็จะใจดีกับทุก ๆ คนค่ะ

แล้วข้อดีของความเป็นอเมริกันล่ะคะ

          คุณแม่จีน่า : เค้าจะกล้าแสดงออก ถ้าตลกหรือชอบอะไรเค้าก็จะหัวเราะเสียงดังมาก หากชอบหรือคิดอะไรก็แสดงออก เหมือนยังมีความคิดเป็นเด็กหน่อยค่ะ เหมือนเด็กไทยรุ่นใหม่ที่ก็มีแบบนี้ด้วย ตอนนี้คำก็ชอบอยู่กับเพื่อน และเล่น Facebook และ Instagram ค่อนข้างสนุกเลย เหมือนวัยรุ่นเดี๋ยวนี้ทั่ว ๆ ไปนะคะ เพราะเค้าก็เข้าสู่วัยรุ่นแล้วค่ะ

มีแพลนจะให้เค้ากลับมาอยู่ที่เมืองไทยมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : เจด้ากลับมาแล้วเค้าชอบ คุณแม่ก็กำลังดูอยู่ค่ะ จริง ๆ อยากให้เค้าเรียนจบก่อน ถ้าเค้าชอบ เราก็ไม่ได้บังคับ แต่เร็วที่สุดก็คงจะเป็นปีหน้า เพราะปีนี้ไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยนโรงเรียนแล้ว เราต้องมีเวลาหาโรงเรียนที่ดีให้เค้า และคุณแม่ต้องไปพบอาจารย์เพื่อคุยเรื่องเรียนต่าง ๆ ก็กำลังคิดอยู่ค่ะ

โดยส่วนตัวคุณแม่อยากให้น้องเข้าวงการมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : แล้วแต่เจด้าเลยค่ะ คุณแม่คิดให้ไม่ได้เราจะไม่บังคับให้เค้าทำอะไร ถ้าเค้าชอบเราก็สนับสนุน แล้วแต่เค้า แม่ไม่ใช่คนที่จะต้องนำทุกอย่าง จริง ๆ จะให้เจด้าเป็นนางแบบที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ได้ แต่เจด้าเค้าไม่อยากทำ บางทีคุณแม่ก็เห็นว่าเจด้ามีโอกาสที่ดี คุณแม่ก็จะบอกว่า "เจด้าควรจะทำ" แต่ถ้าเค้าไม่อยากทำ คุณแม่ก็จะไม่บังคับ เพราะทุกอย่างมันคือตัวเค้า ต้องให้เจด้าคิดและตัดสินใจเอง

เวทีคอนเสิร์ต 20 ปี ของคุณพ่อเจ-เจตริน เป็นเวทีแจ้งเกิดน้องเจด้าไปเลย

          คุณแม่จีน่า : เจด้าเค้าชอบเต้นระบำ และชอบเต้ามานานแล้ว แล้วนี่เป็นงานของคุณพ่อเค้าด้วย ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เค้าจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและน้องชายของเค้า ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ดี และเราก็ยินดี เจด้าสนุกมาก ดีใจที่มีคนชอบเจด้าเยอะมากค่ะ

หลังจากคอนเสิร์ตเจด้าดังมาก คุณแม่เป็นห่วงมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : เป็นห่วงนะ เพราะเจด้าไม่ค่อยได้เจอคนเยอะขนาดนี้ ตอนนี้เค้าเป็นที่สนใจมาก เวลาไปเดินช้อปปิ้งก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปด้วย เมื่อก่อนถ้ากลับมาก็มีแค่คนมองเฉย ๆ หรือไม่มีคนสนใจเลย เค้าเห็นคุณแม่เป็นแบบนี้มาตลอด แต่เค้าไม่เคยเจอคนมาทำแบบนี้ ซึ่งเค้าก็รับมือกับมันได้ เราก็โอเค. แต่บางทีคุณแม่ก็ต้องบอกว่าเจด้าอย่าถ่ายรูปเยอะโดยเฉพาะการถ่ายรูปตัวเองลงเฟซบุ๊ก หรือที่ใดก็ได้ที่มันจะเกิดปัญหา เพราะตอนนี้เจด้าเป็นที่สนใจแล้ว ก็ต้องระวังให้มากขึ้น

คุณแม่จำได้มั้ยว่าตอนที่เจด้าทำงานในวงการครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง

          คุณแม่จีน่า : (หัวเราะ) จำได้ค่ะ ครั้งแรก ๆ ตอนนั้นเจด้าอายุขวบครึ่ง เค้าไม่อยากถ่ายรูปวิ่งหนีตลอด ตอนนั้นยังใส่แพมเพิร์สอยู่เลย มีอยู่รูปหนึ่งที่ถ่ายให้นิตยสารในเมืองไทยคู่กับคุณแม่ เจด้าไม่อยากถ่ายเลย หน้าบึ้ง คุณแม่ต้องเอาขนมกับลูกกวาดมาล่อ แล้วต้องคอยบอก "เอ้าแคนดี้...เอ้ายิ้ม" ตลกมากค่ะ กว่าจะถ่ายเสร็จเหนื่อยมากค่ะ (หัวเราะและยิ้มขำ)

วันที่เจด้ามายืนโพสและยิ้มหน้ากล้องเองได้ คุณแม่รู้สึกยังไงบ้างคะ

          คุณแม่จีน่า : ดีใจ ภูมิใจมาก ที่เขาทำเองได้ เวลาที่เค้ายิ้มหน้าหวานและสวยมาก เวลาเราดูเค้าสวย เราก็ภูมิใจมากค่ะ

ได้สอนอะไรเจด้าเกี่ยวกับการทำงานในวงการมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : สอนค่ะ แม่สอนเยอะเลย บางทีเจด้าก็จะมาถามว่า "คุณแม่ไอทำไม่เป็นเลย ต้องทำยังไง" คุณแม่ก็จะสอนว่าต้องยิ้มยังไง ยิ้มแบบไหน บางทีต้องยิ้มเห็นฟัน บางทีต้องยิ้มไม่เห็นฟัน แต่ตาต้องหวานตลอดเวลา ตอนแรกเค้าก็ไม่รู้ ก็จะบอกให้เค้ามองหน้าคุณแม่และทำตาม เจด้าก็จะพยายามเลียนแบบหน้าตาเราจนเค้าสามารถทำเองได้ ตอนนี้เค้าเก่งแล้วทำเองได้ คุณแม่ก็ภูมิใจ

หากกลับมาเมืองไทยครั้งหน้าคิดว่าจะมาอยู่ถาวรเลยมั้ยคะ

          คุณแม่จีน่า : ก็ยังไม่ได้คิดขนาดนั้น ต้องดูก่อนว่าเจด้าจะยังอยากทำอะไร แค่ไหน ตอนนี้คุณแม่ต้องสอนภาษาไทยเค้าก่อน เพราะเจด้าไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย (หลายคนอยากสัมภาษณ์เจด้าเองบ้าง) สัมภาษณ์ได้ แต่เจด้าไม่เข้าใจภาษาไทยเท่าไหร่ ก็จะลำบาก ต่อไปถ้าเค้าเข้าใจภาษาไทยมากกว่านี้ ก็คุยได้ค่ะ ตอนนี้เค้าต้องกลับไปเรียนหนังสือให้จบก่อนแล้วปีหน้าค่อยเจอกันใหม่ค่ะ (ยิ้ม)

         นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะทำให้แฟน ๆ ที่เมืองไทยได้รู้จัก น้องเจด้า ณ ลำเลียง กันมากขึ้น แม้ว่าครั้งนี้เราจะรู้เรื่องราวของสาวน้อยหน้าใสที่ถูกจับตาจากคุณแม่จีน่ากันไปก่อน แต่เชื่อว่าหากกลับมาครั้งหน้า แฟน ๆ คงมีเซอร์ไพรส์ได้เห็นน้องเจด้าในละครโทรทัศน์ และพูดภาษาไทยเก่งขึ้นแน่ ๆ เพราะทางต้นสังกัดโพลีพลัส ที่เจต้าเซ็นสัญญานั้น เค้าเตรียมปั้น และผลักดันดาวดวงใหม่ดวงนี้กันสุดตัวกันเลยค่ะ





คุณแม่จีน่าฝากบอก!

           คุณแม่จีน่าอยากฝาก Lisa บอกต่อคือ "น้องเจด้า" ไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย แต่ใช้ชื่อจริงว่า "เจด้า ณ ลำเลียง" เลย ไม่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า "จิดาริน" ตามที่เสิร์ชหาได้ในอินเทอร์เน็ต ที่เห็นว่ามีชื่อนั้นคือการโพสต์ผิด ๆ ต่อกันยาวมานานหลายปี และทุกวันนี้ก็ยังมีการเข้าใจผิดกัน และลงเครดิตของน้องในหลาย ๆ ข่าวว่า "จิดาริน" อยู่ รบกวนช่วยเปลี่ยนเป็น "เจด้า" กันด้วยนะคะ...

คุณพ่อเจ-เจตริน ฝากถึง!


• อยากให้น้องเจด้าเข้าวงการมั้ยคะ

           จริง ๆ อยากให้เรียนหนังสือก่อน แต่ก็ไม่ได้ห้ามถ้าเค้าอยากจะทำงานตรงนี้ เท่าที่ปรึกษากันคุณแม่ของเขา ตอนนี้ก็ฝากลูกสาวไว้กับ พี่นิด-อรพรรณ วัชรพล ผมกับพี่นิดเองก็คุยกับบ่อยอยู่เหมือนกันว่าฝากลูกด้วยนะครับพี่ พี่นิดก็น่ารักมากที่ดูแลลูกผม ตอนนี้ก็อยู่ในสังกัดโพลีพลัส เล่นละครเรื่อง "ศีล 5" โดยเล่นคู่กับ กันต์ กันตถาวร เวลาที่เข้าฉากกัน กันต์ก็จะส่งรูปมาให้ผมดู ผมก็บอกเขาว่าฝากน้องด้วยนะ ดูลูกพี่ดี ๆ ด้วย (หัวเราะ) ไม่ได้หวงอะไรครับ ลูกผมยังเด็ก อายุ 14 ปีเอง ผมไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องงานของลูกเลย ก็ปล่อยให้พี่นิดและคุณแม่คำดูแล

• เป็นห่วงอะไรเจด้ามากที่สุดในตอนนี้
          
           ในฐานะพ่อต้องบอกว่าเป็นห่วงตลอดเวลา แต่ไม่ได้ไปห้ามถ้าเขาอยากทำอะไร อยู่ที่โน่น (อเมริกา) ก็ให้คุณแม่เค้าดูแล แต่อย่างมาเมืองไทย ผมก็ดูแลเขาเรื่องที่อยู่อาหารการกิน ที่เหลือจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับเขา ส่วนเรื่องอนาคตก็ให้เขาเลือกเองครับ ผมก็คุยกับเขาว่าถ้าอยากจะมาอยู่เมืองไทยก็ได้นะ เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามที่เขาอยากจะเป็นดีกว่า ตอนนี้เขายังเด็กมาก สิ่งหนึ่งที่ผมคุยกับเขาตลอดคืออยากให้เขาเรียนหนังสือ อยากให้เขาไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราวก่อนดีกว่า ตรงนี้ก็ถือเป็นพาร์ตไทม์ เป็นงานอดิเรกสนุก ๆ ให้เขาทำตอบช่วงปิดเทอม ให้มาเมืองไทยแบบคุ้ม ๆ

           ส่วนเรื่องที่เจด้าอยากอยู่เมืองไทยเลย ผมก็คุยกับเขาเรื่องนี้เหมือนกัน เขาก็คงคิดอยู่ ยิ่งได้มาเจอน้องชายด้วย เขาก็คงสนุกเพราะอยู่กับคนละที่ แต่ใจผมอยากให้เขาเรียนอะไรอยู่ที่โน่นดีกว่า เพราะถ้ามาอยู่เมืองไทยจะต้องมาทำงานหนักเปล่า ๆ เดี๋ยวจะพาลไม่ได้เรียนเอา แต่ก็แล้วแต่ลูกอยู่ที่เขามากกว่าครับ

           ไม่ห้าม ไม่บังคับ และพร้อมจะดูแลเอาใจช่วยกับขนาดนี้ เรียกว่าไฟเขียวทั้งคุณพ่อและคุณแม่ แฟนคลับของน้องเจด้าเตรียมเฮกันได้... เราได้ดาวดวงใหม่ทายาทศิลปินดังมาประดับวงการเพิ่มแน่นอนค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

หนังสือ Lisa Vol.13 No.32 24 กันยายน 2555


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจด้า ณ ลำเลียง ดาวดวงใหม่ที่พร้อมเปล่งประกายแล้ว! อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2555 เวลา 15:57:05
TOP