เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณสระผมกันบ่อยแค่ไหนคะ .. วันละครั้ง วันเว้นวัน สามวันครั้ง หรือว่าสัปดาห์ละครั้ง ? แล้วเคยสังเกตดูสุขภาพเส้นผมของคุณบ้างไหมว่ามันเป็นอย่างไร มันค่อย ๆ บางลง เส้นเล็กลีบ รวมถึงพบปัญหาผมหงอกขาวมาเยือนก่อนวัยหรือเปล่า บางทีนี่อาจเป็นเพราะคุณสระผมบ่อยเกินไปก็ได้นะ รู้ไหมว่าคนสมัยก่อนน่ะ เขาสระผมกันเดือนละครั้งเท่านั้นเอง !!
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าเราไม่ได้จะจูงใจสาว ๆ ให้หันมาสระผมกันเดือนละครั้งเหมือนคนสมัยก่อน เพราะเข้าใจว่าสังคมและสภาพแวดล้อนนั้นแตกต่างไปจากยุคสมัยเดิมเป็นอันมาก แต่เราอยากชี้ให้คุณเห็นว่า สิ่งที่คุณคิดว่าน่าจะดีต่อสุขภาพผม ความจริงแล้วมันมันอาจเป็นภัยที่แฝงตัวมาเงียบ ๆ ก็ได้ ลองมาดูข้อมูลเรื่องการสระผมที่ว่าจากเว็บไซต์ organicauthority กันดีกว่าค่ะ
การเอาใจใส่สภาพเส้นผมด้วยการสระผมด้วยแชมพูผสมสารบำรุงต่าง ๆ นานา (ที่ราคาของแชมพูก็มักอัพขึ้นไปด้วย ตามชื่อสูตรบำรุงที่พิศดารมากขึ้น) ที่บอกว่า ยิ่งสระผมยิ่งสวยดั่งต้องมนต์ อาจจะเป็นการโกหกคำโต คนอเมริกันสระผมกันเฉลี่ยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง และสถิตินี้เพิ่มเป็นสองเท่าสำหรับคนยุโรป ซึ่งนับเป็นการสระผมที่มีความถี่มาก เมื่อเทียบกับสถิติ 100 ปีย้อนหลังลงไป ที่คนในศตวรรษนั้น สระผมกันราวเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น ตามการรายงานจาก เอ็นพีอาร์ หรือ สถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติของอเมริกา ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังพบว่าคนสมัยก่อนไม่ค่อยมีปัญหาผมบาง หรือว่าผมขาวหงอกเร็ว มากเท่ากับคนในยุคปัจจุบันเสียด้วย
ทั้งแพทย์ผิวหนังและเหล่าแฮร์สไตล์ลิสต์ ต่างบอกว่าคนสมัยนี้สระผมกันถี่เกินไป ชะล้างเอาน้ำมันหล่อเลี้ยงผมตามธรรรมชาติที่มีประโยชน์ออกไปเสียหมด และทำให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะด้วย ซึ่งทำให้เกิดปัญหารังแคตามมานั่นเอง ในขณะที่คนในบางพื้นที่ของโลก กลับนวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันมะพร้าวบ่อยกว่าการสระผมเสียอีก ซึ่งน้ำมันมะพร้าวนั้นมีคุณสมบัติเป็นแอนตี้ไวรัส ทำให้สามารถต่อต้านการทำงานของเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบางชนิดได้ ทั้งยังเชื่อว่าช่วยชะลอกระบวนการเกิดผมขาวด้วย
จึงน่าจะเป็นการดีถ้าคนสมัยนี้จะใส่ใจกับสุขภาพผมด้วยการยืดระยะห่างในการสระผมแต่ละครั้งออกไป อาจเว้นคราวละ 3-5 วัน, 1 สัปดาห์ หรือว่า 1 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของคุณ ในช่วงแรกคุณอาจรู้สึกว่าผมมัน เหนอะหนะหนังศีรษะ และคิดว่าอาการเช่นนี้คือสัญญาณที่บ่งให้คุณต้องรีบไปสระผม แต่แท้จริงแล้วกระบวนการเช่นนี้นับว่าเป็นปกติ เพราะหนังศีรษะพยายามสร้างน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยง เพื่อทดแทนกับน้ำมันส่วนที่ถูกสระชะล้างออกไป แม้จะรู้สึกมันมากในช่วงแรก แต่หนังศีรษะก็จะค่อย ๆ ปรับเข้าสู่สมดุลที่พอดีได้เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกพิเศษ ที่สามารถทำให้หนังศีรษะรู้สึกสะอาดสดชื่นขึ้นได้โดยไม่ต้องสระผม ด้วยการใช้ "แชมพูแห้ง" ส่วนผสมหลักในแชมพูแห้งคือเบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต ซึ่งจะช่วยให้ดูดซับสิ่งสกปรก และความมันส่วนเกินออกจากหนังศีรษะได้ นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการมีผมสวยเช่นกัน โดยสามารถใช้วิธีสระแห้งสลับไปกับการสระผมแบบปกติ เพื่อยืดเวลาการสระผมกับแชมพูให้นานออกไปได้
รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนสระผมบ่อยเกินความจำเป็น ลองมาขยับเว้นเพิ่มระยะห่างในการสระผมแต่ละครั้งดูดีไหม อาจเว้นคราวละ 2-3 วัน, 5 วัน, 1 สัปดาห์ (อย่างไรก็ตามกระปุกดอทคอมคิดว่าไม่น่าจะเว้นไว้มากถึง 1 เดือนค่ะ ดูแล้วเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปสำหรับสภาพอากาศเช่นบ้านเรา) ยิ่งสาว ๆ ที่มีผมอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ลองรับวิธีนี้ไปพิจารณากันดูนะจ๊ะ
