ภาพ ก่อน - หลัง การศัลยกรรมปลูกถ่ายใบหน้าที่ซับซ้อนที่สุด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก capitalbay.com , alhusseyn51.blogspot.com

              "ตอนนี้ผมสามารถเดินไปบนท้องถนนได้ โดยที่ผู้คนไม่เหลียวหันกลับมาจ้องมองผมซ้ำได้แล้วครับ" นี่คือคำพูดของนาย ริชาร์ด ลี นอร์ริส วัย 37 ปี หลังพักฟื้นจากการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าที่ถือว่ายุ่งยากและซับซ้อนที่สุดในวงการแพทย์ไปเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา

              แหล่งข่าวต่างประเทศต่างรายงานถึงความสำเร็จของทีมแพทย์จาก ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแห่งแมรีแลนด์ ในการทำศัลยกรรมปลูกถ่ายใบหน้าของ นอร์ริส โดยได้รับใบหน้า ฟัน ขากรรไกร และลิ้นชุดใหม่ทั้งหมด เพื่อทดแทนใบหน้าที่เขาสูญเสียไปหลังได้รับอุบัติเหตุจากกระสุนปืนในปี 1997 ซึ่งทำให้เขาสูญเสียใบหน้าช่วงล่างตั้งแต่จมูกไปจนหมด และแทบจะเอาชีวิตไม่รอด

              นอร์ริส ได้รับการรักษาเพื่อช่วยชีวิตมาแล้ว 3 ครั้ง และรับการศัลยกรรมตกแต่งอีกนับไม่ถ้วน รวมทั้งการปลูกถ่ายเส้นประสาทบางส่วนจากบริเวณหนังศีรษะไปทดแทนที่ลำคอ จากนั้นจึงเข้าได้เข้าสู่กระบวนการผ่าตัดใบหน้าที่ได้ชื่อว่ายุ่งยากที่สุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รับใบหน้ามาจากผู้บริจาคร่างกายรายหนึ่ง ซึ่งอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของผู้บริจาครายนี้ ก็ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกถึง 5 รายในวันเดียวกัน

              การปลูกถ่ายใบหน้าครั้งนี้ นำทีมโดย ด็อกเตอร์โรดริเกซ ศาสตราจารย์ประจำภาคการศัลยกรรม และหัวหน้าทีมการศัลยกรรมพลาสติกเพื่อตกแต่งกะโหลกศีรษะ ร่วมกับเหล่าแพทย์อีกนับร้อยชีวิต นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างมหาวิทยาลัยอีกหลายราย หลังจากที่ได้วางระบบเส้นประสาท รวมทั้งฟัน และลิ้นให้ใหม่ ทำให้ปัจจุบันนี้ นอร์ริส สามารถเคี้ยวอาหารและออกเสียงพูดได้ (แต่ยังต้องได้รับการบำบัดเรื่องการพูดอย่างต่อเนื่อง) จมูกเริ่มได้กลิ่น และสามารถแสดงความรู้สึกทางใบหน้าได้ โดยกล้ามเนื้อใบหน้าฝั่งขวาสามารถใช้งานได้ราว 80% และฝั่งซ้ายอีกราว 40%


              นอร์ริสกล่าวว่า ใบหน้าที่เขาได้รับ ทำให้เขาเหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนหน้านั้นเขาจะสวมหน้ากากเอาไว้ เพื่อซ่อนความผิดปกติบูดเบี้ยวของใบหน้า ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขากลับตกเป็นเป้าสายตา ใคร ๆ ก็คอยเอาแต่จ้องมอง ทำให้เขาเลือกที่จะออกไปไหนมาไหนเฉพาะในเวลากลางคืน อีกทั้งเพื่อน ๆ ที่รุ่นราวคราวเดียวกัน ก็เริ่มมีชีวิตการงานที่ก้าวหน้าขึ้น ทยอยแต่งงานมีครอบครัว และมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ในขณะที่เขามีใบหน้าที่เว้าแหว่งบิดเบี้ยวไม่เหมือนคนอื่น ๆ ซึ่งนับเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก แต่หลังจากได้รับใบหน้าใหม่ ในตอนนี้เขาก็สามารถทำงานได้ และได้ชีวิตที่ปกติเฉกเช่นเดียวกับคนทั่ว ๆ ไปกลับคืนมา


              ทั้งนี้ จากความสำเร็จที่ได้จากการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าในเคสของนอร์ริส จะถูกใช้เป็นโมเดลหลักเพื่อนำไปสู่การผ่าตัดรักษาและศัลยกรรมใบหน้า ให้กับเหล่าหทารซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการทำหน้าที่ในประเทศอัฟกันนิสถานต่อไป