ไอซ์ เกิดได้เพราะ นังรุ้ง

ไอซ์ อธิชนัน


ไอซ์ อธิชนัน


ไอซ์ อธิชนัน

ไอซ์ เกิดได้เพราะ นังรุ้ง (เดลินิวส์)

เรื่อง : คนกลาง / ภาพ : สุรเชษฏ์ วัชรวิศิษฏ์

          เป็นสาวสวยมีดีกรีพ่วงตำแหน่ง มิสทีนไทยแลนด์ 2005 ติดตัวมา แต่หนทางการเดินเข้าสู่วงการบันเทิงของ ไอซ์ อธิชนัน ศรีเสวก ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะกว่าจะได้แจ้งเกิดในงานละครเต็มตัวนั้นต้องใช้เวลาอยู่หลายปี จนมิสทีนรุ่นน้องก้าวเข้ามาเป็นนางเอกล้ำหน้าไปหลายคน จนกระทั่งมาแจ้งเกิดเปรี้ยงปร้างกับบทร้ายในละคร รอยรักรอยบาป ชื่อตัวละคร นังรุ้ง ก็ติดหูและเข้าไปอยู่ในใจผู้ชม วันนี้น้องไอซ์ เลยมาเปิดใจทุกเรื่องกับ ดาวต่างมุม

ตั้งแต่ได้ตำแหน่งมาหลายปีเพิ่งได้มีโอกาสเล่นละครช่วงนี้?

          ไอซ์ อธิชนัน : เล่นมาแล้ว 3 เรื่องค่ะ ตอนแรกคืออยู่ในช่วงเรียนด้วย ช่วง ม.6 ตอนนั้นที่ได้ตำแหน่งมาก็ช่วงจะเอนทรานซ์ ก็เครียดเรื่องเรียนด้วย อยากจะเอนท์ติดมหาวิทยาลัยของรัฐบาลมากกว่า ก็เลยทุ่มไปกับการเรียนมากกว่า พอขึ้นปี 1 ก็ต้องย้ายไปเรียนที่ มศว องครักษ์ ซึ่งก็ไกลกับการทำงาน ก็เลยไม่ค่อยรับงาน ก็มีแค่งานผู้ประกาศขั้นรายการของช่อง 7 ถ่ายหนังสือ งานละครก็ยังไม่ได้รับอะไรเต็มตัว ช่วงนั้นก็ดัดฟันด้วย พอกลับมาปี 2 ก็เริ่มรับงานเต็มตัว เริ่มมีละครเรื่อย ๆ ก็แฮปปี้ สนุกดี

แต่พอมาเล่นจะเกิดกับเรื่อง รอยรักรอยบาป มากที่สุดนะ?

          ไอซ์ อธิชนัน : ตู้มสุดแล้ว ดีใจที่คุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ให้เล่นบทนี้ จำได้ว่าคุณแดงเคาะมาเลยว่าให้ รุ้ง เป็นหนูเล่น ตอนแรกก็เครียด ที่เคยเล่นมาก็ไม่ได้ร้าย เล่นร้ายต้องแสดงทั้งสีหน้า ท่าทาง แววตา เสียง ต้องไปให้ได้หมดเลย เราก็เครียด จะทำได้หรือเปล่า ยิ่งฟีดแบ็กช่วงแรก ๆ เขาทำไว้ดีมาก กลัวจะทำให้ดร็อปลง แต่โชคดีที่ผู้กำกับน่ารักมาก คอยสอน พี่ ๆ ที่เล่นด้วยกันก็ช่วย ได้ประสบการณ์จากเรื่องนี้เยอะเลย

รู้สึกยังไงบ้างที่คนจำเราไม่ได้ในบทเรียบร้อย แต่มาจำได้ในบทร้าย?

          ไอซ์ อธิชนัน : แรก ๆ ที่เล่นละครมา ก็มีคนจำได้บ้างนะ อย่างตอน บ่วงหงส์ ก็มีเรียก กานดา พอเรื่อง หัวใจไร้มลพิษ ก็เรียก คุณทองหยอด แต่ส่วนใหญ่จะจำได้แม่นเฉพาะเรื่องนี้ แค่ตอนแรกที่ไอซ์ออกก็มีคนจำได้เลย รุ่งขึ้นไปเดินตลาดคนจำได้ เรียก นังรุ้ง เลยรู้สึกแฮปปี้ บทมันก็เด่นด้วย เรื่องที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายที่จะทำให้คนจำได้มาก แต่เรื่องนี้คือเล่นร้ายมาก ก็เลยเป็นตัวหนึ่งที่สร้างเรื่อง คนก็เลยจะจำได้แม่น ไม่กลัวนะที่จะได้เล่นแต่บทร้าย ไอซ์มองว่าเป็นงาน มันเป็นบทบาทหนึ่งที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา ถ้าเราได้มาแล้วเราจะทำได้ดีหรือเปล่า เราจะทำยังไงให้คนเชื่อว่าเราร้ายจริง ๆ มันท้าทายความสามารถเรามากกว่า

รู้สึกยังไงที่เพื่อนร่วมเวทีมิสทีนหลายคนเขาดังไปก่อนแต่เราเพิ่งจะเริ่มต้น?

          ไอซ์ อธิชนัน : อย่างที่บอกไอซ์คิดว่ามันเป็นโชคเป็นดวงของเราด้วย ไอซ์เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอยากแข่งกับใคร ถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันก็มาเอง เลยไม่ซีเรียสว่าเมื่อไหร่จะได้ ก็แฮปปี้กับคนที่โด่งดังไปแล้ว ไม่ได้มีน้อยใจอะไร ไม่ได้ซีเรียสว่าทำไมเราไม่ได้ คนอื่นเขาได้กันหมดแล้ว คงเป็นเพราะดวงเราไม่ดี ยังไม่ถึงโอกาสของเรามั้ง เดี๋ยวโอกาสของเรามันก็มาเอง คิดอย่างนี้มากกว่า แต่ระหว่างนั้นก็มีงานผู้ประกาศ มีงานอื่นอยู่เรื่อย ๆ ไม่ได้หายไปเลย ก็พอมีให้เห็นบ้าง หนูก็ยังถ่ายหนังสือเรย์ทุกฉบับ ก็ถ่ายมา 3 ปีแล้ว มีตลอด

กับงานผู้ประกาศขั้นรายการเป็นยังไงบ้าง?

          ไอซ์ อธิชนัน : ถือได้ว่าเป็นงานแรกที่ได้ออกทีวี เพราะว่ากว่าจะมาเป็นผู้ประกาศเนี่ยต้องสอบใบผู้ประกาศก่อน ไม่งั้นจะเป็นไม่ได้ มันก็ท้าทาย เราต้องไปสอบให้ได้ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงอนุรักษ์ภาษาไทยด้วย การเป็นผู้ประกาศให้อะไรเยอะมาก อย่างเราสอบใบผู้ประกาศมา ก็ทำให้เราเป็นพิธีกรได้ ทำให้เรามีไหวพริบในการพูด ฉลาดคิดฉลาดพูดมากขึ้น หนูถือว่าโชคดีนะที่ได้ทำงานหลากหลาย เพราะว่าละครแต่ละเรื่องบทบาทไม่เหมือนกันเลย อาจจะเป็นเพราะดวงเรามาช่วงนี้มั้ง ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด จะไม่ทิ้งทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน การได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ก็ถือว่าโชคดีกว่าคนอื่น ๆ แล้ว ที่มาประกวดมิสทีนเราก็ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรก พอได้มาก็ถือว่าโชคดีแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีละครหรือมีงานอื่นต่อมา

ตอนนี้งานชนกับเรียนแค่ไหน?

          ไอซ์ อธิชนัน : ยุ่งค่ะ ชนกับเรียนเยอะมาก เรียนทุกวันจริง ๆ บางวันก็เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ตรงกับงาน แต่ก็โชคดีที่เจอทีมงานที่ช่วย จะบอกผู้จัดการไว้ว่า หนูมีเรียนวันนี้นะ เขาก็จะจัดงานให้ จะอนุโลมให้ไปเรียนก่อน แล้วก็ค่อยกลับมาถ่าย ซึ่งหนูก็สามารถแบ่งเวลาได้ เพื่อนก็น่ารักทุกคนเลย เวลาไม่มาเรียน เพื่อนจะเข้าใจ ตอนนี้อยู่ปี 3 เรียนหนัก วิชากำลังเครียด ๆ ทั้งนั้นเลย วิชาโท ก็เรียน มัคคุเทศก์ ก็จะต้องทำทริป แล้วก็ออกนอกพื้นที่ กำลังคิดอยู่ว่าจะตีกับงานหรือเปล่า แต่เท่าที่คุยไว้ก็โอเค ต้องบอกพี่เขาไว้ล่วงหน้า ตอนนี้ไอซ์เรียนที่ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาไทย ที่ มศว ประสานมิตร ตอนแรกไม่ได้จะเลือกเอกนี้ จริง ๆ ติดเอกภาษาฝรั่งเศส แต่มาคิดดูถ้าเราทำงานแบบนี้แล้วหยุดเรียน ก็จะไม่ทันแน่ จะเรียนไม่รู้เรื่อง ช่วงนั้นกำลังสอบใบผู้ประกาศอยู่ด้วยก็เลยเลือกเอกภาษาไทย และภาษาไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ไม่ใช่ว่าเราพูดภาษาไทยได้แล้วจะรู้เรื่องทุกอย่าง พอมาเรียนถึงได้รู้ว่ามันยากมาก บางเรื่องเราไม่เคยรู้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนไทยแท้ ๆ ก็มุ่งมั่นกับการเรียนเอกนี้ เพราะอยากจะเป็นคนหนึ่งที่ช่วยอนุรักษ์ภาษาไทยได้ สมัยนี้วัยรุ่นก็เล่นเอ็มเอสเอ็น มีภาษาวิบัติเยอะมาก ก็เลยอยากจะเป็นคนหนึ่งที่อนุรักษ์ภาษาไทยไปถึงชั่วลูกชั่วหลานเลย

ชีวิตทุกวันนี้สนุกมากน้อยแค่ไหน?

          ไอซ์ อธิชนัน : ก็มีสนุก และก็มีท้อบ้าง แต่โชคดีที่เวลาไปทำงานก็จะมีแม่ไปเป็นเพื่อนตลอด ก็ทำให้มีกำลังใจทำงาน เวลาเราทำงานแทนที่แม่จะหลับ ก็ไม่ แม่ก็นั่งอยู่เป็นเพื่อน จะคอยถามว่าหิวไหมลูก หาอะไรให้กิน ก็รู้สึกดี เวลาเหนื่อย ๆ มาก็หลับ แม่ก็ขับรถให้ แต่ก็มีบ้างที่ท้อ เพราะว่ามีช่วงหนึ่งที่งานเข้ามาเยอะ ๆ ช่วงนั้นยังปรับเรื่องตารางเรียนไม่ได้ งานและเรียนมันตีกัน เป็นช่วงสอบด้วย รายงานเยอะมาก เครียดมาก และถ้าเป็นรายงานกลุ่ม ไอซ์จะเป็นคนที่เครียดมาก ถ้าเราไม่ได้ช่วยเพื่อนทำอะไรเลย กลัวเพื่อนจะโกรธ ช่วงนั้นก็เครียด แทบจะไม่มีเวลาไปมหาวิทยาลัยเลย แต่ก็ดีทีเพื่อนเข้าใจและก็ช่วยด้วย แต่ถึงจะขาดเรียนบ้างไอซ์ว่าคุ้มนะ เพราะว่าน้อยคนที่จะมีโอกาสแบบนี้ เราเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสนี้มา คนอื่นอาจจะอยากได้โอกาสแบบนี้มา แต่เขาไม่ได้ แต่เราได้มาแล้ว เราก็ควรจะทำให้ดีที่สุด

มีอารมณ์อยากเป็นส่วนตัวไหม?

          ไอซ์ อธิชนัน : ก็มีบ้างนะ แต่ก็ปรับตัวได้แล้วว่าก็คงต้องมีอย่างนี้บ้าง ที่ไปไหนคนก็จะมองมากขึ้น รับได้นะ รู้สึกดีที่มีคนจำได้ เพราะอย่างน้อยผลงานที่เราทำออกไป คนก็รับรู้และก็จำได้ แฟน ๆ ที่เข้ามาทักทายส่วนใหญ่ ตอนแรกก็มีคนถามว่าเวลาไปเดินตลาดจะกลัวไหม เพราะเราเล่นร้าย แต่ก็ไม่กลัว เพราะผู้บริโภคสมัยนี้เขาฉลาดเลือก ฉลาดคิด เขาคงไม่เหมือนสมัยก่อนที่เอาทุเรียนขว้าง เขาเข้าใจมากขึ้นว่ามันคือการแสดง

เป้าหมายในชีวิตตอนนี้คืออะไร?

          ไอซ์ อธิชนัน : เป้าหมายคือ ขอแค่ทำงานกับเรียนควบคู่ไปได้ดีทั้งสองอย่าง ตอนนี้ปี 3 กำลังเครียดพอดี และงานก็เข้าพอดี ก็เลยคิดแค่ตรงนี้ก่อน เพราะแบบว่าเหนื่อยมาก ตอนนี้ก็ทำไปได้ด้วยดีนะ เรียนเกรดก็ไม่ตก ยังโอเคอยู่ พยายามเอางานไปทำ ไปนั่งพิมพ์งาน อ่านหนังสือ ที่กองถ่าย พยายามแบ่งเวลาให้ได้ ส่วนเป้าหมายในวงการบันเทิง คือทุกอย่างที่ได้มาตอนนี้ เป็นความโชคดีที่ผู้ใหญ่เมตตา เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่สั่งให้เราทำอะไรก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ จะไม่เกี่ยง หรือมานั่งเรื่องมาก เลือกบท จะไม่เลย คิดว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ให้มาคือสิ่งที่ดีสำหรับเราแล้ว

วงการบันเทิงเป็นอย่างที่คิดไว้ไหม?

          ไอซ์ อธิชนัน : สมัยก่อนเราเป็นคนนอกก็มองว่า เป็นวงการที่ไฮโซ หรูหรา ดูน่าตื่นเต้น มีแสงสีเสียงสนุกสนาน แต่พอเข้ามาจริง ๆ แล้ว มันต้องเปลี่ยนเยอะมาก จากเด็กคนหนึ่งที่เข้ามาแล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบเยอะมาก จะมานอนตื่นสายไม่ได้ มันต้องดูแลตัวเอง จะทำอะไรนิดหน่อยก็ต้องระวังไม่ให้เสีย เพราะมีคนจับตามองเยอะ อึดอัดมันก็มีบ้าง แต่ปกติก็ไปกับแม่ตลอด แม่ก็จะช่วยดูให้ตลอด ก็เป็นตัวของเราเอง ไม่อยากเฟค เพราะไอซ์คิดว่า ถ้าเรามานั่งเฟค อะไรที่มันไม่ใช่ตัวเราสักวันมันก็ต้องหลุดออกมา แล้วมันก็จะแย่กว่าเดิม สู้เป็นยังไงตั้งแต่แรกก็เป็นแบบนั้นน่าจะดีกว่า

ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?

          ไอซ์ อธิชนัน : เยอะค่ะ โดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบหนูเปลี่ยนไปเยอะมาก เมื่อก่อนจะแต่งตัวช้า ทำทุกอย่างช้า คือจะไม่สนใจเรื่องเวลาเลย แต่พอมาอยู่ตรงนี้แล้ว เรื่องเวลาเป็นอะไรที่สำคัญมาก อย่างที่บอกว่า ถ้าเราไปสายปุ๊บ ภาพลักษณ์เราก็จะเสียทันที และมันก็จะปากต่อปากว่าเด็กคนนี้ไม่รับผิดชอบ จะทำให้ส่วนรวมเขาเสียไปด้วย เพราะเราแค่คนเดียว คติในการทำงานที่ยึดไว้คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราจะไม่คิดถึงอดีต และไม่คิดถึงอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ววันข้างหน้าก็จะดีไปเอง

ไปไหนกับแม่ตลอดจะมีหนุ่ม ๆ กล้าเข้ามาเหรอ?

          ไอซ์ อธิชนัน : ไอซ์เป็นคนเปิดเผยกับที่บ้านอยู่แล้ว มีอะไรพ่อแม่จะรู้ทุกเรื่อง ใครจะเข้ามาคุย ใครจะเข้ามาหา จะบอกคุณแม่ตลอด ตั้งแต่เข้าวงการมาก็บอกคุณแม่ไว้เลยว่า ไอซ์ต้องไปทำงาน ไปพบปะผู้คนมากมาย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีคนเข้ามาคุยเข้ามาอะไรบ้าง แม่จะรับได้ไหม แม่ก็เข้าใจ รับได้ ไม่มีปัญหา แต่เหมือนเดิมคือมีอะไรก็ต้องบอก

ทุกวันนี้มีคนมาจีบไหม?

          ไอซ์ อธิชนัน : ก็มีบ้างค่ะ ถ้าบอกไม่มีมันก็โกหก เพราะโตแล้ว เราไปเรียน ไปมหาวิทยาลัยก็ต้องเจอคนเยอะแยะ แต่ก็ยังไม่ได้อะไรกับใคร ตอนนี้ทั้งเรียนและงานก็หนักพอแล้ว ก็มีคุยบ้าง เรามีสิทธิที่จะเลือกคนที่ดูแลเราได้แล้วเราสบายใจ แต่ไอซ์ยังไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มาก ขอให้เรียนให้จบก่อน ขอทำงานก่อนนะ คิดว่าเวลาสำหรับตอนนี้คือให้ตัวเอง ให้ครอบครัวมากกว่าดีกว่า สเปกหนุ่มที่ชอบก็จะ ชอบคนตาโต จมูกโด่ง สูง ๆ แค่นี้แหละ เอาเข้าจริง ๆ ตั้งไปมันก็ไม่ได้อย่างนั้นหรอก เอาแค่ว่านิสัยดี เข้ากับเราได้ก็พอแล้ว เราเหนื่อยกับงานแล้ว ต้องไม่มาเหนื่อยกับเขาอีก ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ห้าม คุณพ่อคุณแม่เปิดมาก ที่บ้านเราเลี้ยงแบบผู้ใหญ่ เข้าใจกัน

อยากฝากอะไรกับแฟน ๆ ไหม?

          ไอซ์ อธิชนัน : สำหรับละคร รอยรักรอยบาป สิ่งแรกที่อยากฝากคือ อย่าเพิ่งเกลียดหนูนะคะ จริง ๆ แล้วไม่ร้ายขนาดนั้น หนูเป็นคนดีค่ะ แล้วก็ฝากผลงานละครเรื่องใหม่ด้วย คุณพ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ และ โรบอทยอดรัก แล้วก็นิตยสาร เรย์ ทุกฉบับ ทุกเดือนค่ะ

          แหม...เชื่อแล้วจ้า ว่าหนูเป็นคนดี รักเรียน รักงาน แถมรักครอบครัวอีกต่างหาก แต่ถ้าเรื่องรักกับหนุ่ม ๆ ละก็ คงต้องร้องเพลงรอไปก่อนแล้วกัน ขอให้หนูไอซ์โชคดีในเรื่องการงานนะจ๊ะ


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก