เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ดารานั้นก็เปรียบเสมือนกับคนของประชาชน ที่ไม่ว่าจะทำอะไร หรือขยับไปทางไหนก็มักจะตกเป็นที่จับตามองอยู่เสมอ และเมื่อยิ่งเป็นถึงดาราดังระดับแถวหน้าด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า แค่การกระทำบางอย่างก็สามารถทำให้ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์จากมหาชนได้ ดังเช่น พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ดาราสาวเจ้าบทบาทที่มักจะตกเป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา ทั้งในกระแสบวกและกระแสลบ และเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ (23 ธันวาคม) รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ก็ได้เชิญหญิงสาวผู้เป็นเหมือนบุคคลแห่งปีผู้นี้ มาเปิดอก เผยความรู้สึกต่อเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นให้ฟังกันอย่างหมดเปลือก
สำหรับคนที่ วู้ดดี้ ยกให้เป็นผู้หญิงแห่งปีคนนี้ เพียงแค่เพิ่มจะเริ่มพูดคุย วู้ดดี้ ก็ซักในประเด็นที่เขาสงสัยก่อนทันทีว่า ตกลงแล้ว ระหว่าง ไลลา กับ เฌอมาลย์ ชื่อไหนคือชื่อของเธอในตอนนี้กันแน่ โดย พลอย ก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ตามเอกสารราชการ เธอใช้ชื่อ ไลลา เพราะคุณแม่ต้องการให้เปลี่ยนเป็นการแก้เคล็ด แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอก็ยังคงคุ้นเคยกับชื่อ เฌอมาลย์ ที่ใช้มาตั้งแต่เกิดมากกว่า
"ชื่อ ไลลา ยังไม่คุ้น รู้สึกเหมือนเป็นชื่อใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเอง ถ้าถามถึงความเป็นตัวตนของเราก็ยังเป็น เฌอมาลย์"
และเมื่อพิธีกรได้ถามถึงการที่มักจะตกเป็นข่าวเป็นประจำว่าเธอชินแล้วหรือไม่ พลอย ก็ยอมรับว่าแม้จะเป็นทุกวันนี้ ตัวเธอก็ยังคงไม่ชิน นั่นเพราะเธอเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวมาก เวลาที่เจอข่าว เธอก็ยังคงเครียดบ้าง ร้องไห้บ้าง แม้ว่าภายนอกคนจะมองว่าเธอไม่แคร์อะไรก็ตาม และถึงแม้จะอยู่ในวงการมาถึง 19 ปี แต่บางครั้งเธอก็ยังคงอึ้งและตกใจกับคำถามของนักข่าว แต่ตัวเองก็ทำได้แค่กัดฟันทนไปกับเกมของนักข่าวที่คอยแต่จะให้เธอเป็นเหยื่อข่าวของพวกเขา ส่วนเรื่องการพูดจาที่เหมือนจะรุนแรงของเธอนั้น เธอคิดว่านั่นเป็นสิทธิของเธอที่จะขอปกป้องตัวเองบ้าง เธอเพียงปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้ว่าสุดท้ายแล้วนักข่าวก็จะเอาไปเขียนว่าเธอวีนใส่นักข่าวอยู่ดี
นอกจากนี้ วู้ดดี้ ยังขอขุดประเด็นหนึ่งจากงาน เกิด อวอร์ดส์ ที่นักข่าวพูดถึงตลอดเวลาว่า วู้ดดี้ กับ พลอย เกาเหลากัน ออกมาพูดคุย โดยที่ทั้งคู่ต่างก็คิดว่า จริง ๆ แล้ว หากว่าทั้งคู่ได้เข้ามานั่งคุยกันก่อน บางทีข่าวแบบนั้นอาจจะไม่เกิดขึ้น
"ข่าวในเว็บไซต์กับหนังสือพิมพ์ และเรื่องจริงของทั้ง 2 คนที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับเรื่องคนละเรื่องกัน เหมือนอ่านนิยายศาลาคนเศร้า คนที่อ่านเขาก็อินกัน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เมื่อผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป แต่พอมันแพร่ไปตามสื่อต่าง ๆ มากเข้า เรื่องมันก็ดูสับสน"
และแน่นอนว่า วู้ดดี้ ก็ได้ขอเชิญ พลอย เฌอมาลย์ มาเข้าร่วมงานประกาศรางวัล เกิด อวอร์ดส์ ปีหน้า ไว้ล่วงหน้า ถึง 4 เดือนเลยทีเดียว ซึ่ง พลอย ก็ไม่ปฏิเสธ แถมยังแซวกลับว่าจะกลับไปตัดชุดรอเลยทีเดียว จากนั้นก็มาถึงประเด็นร้อนที่ พลอย เฌอมาลย์ ต้องออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตา พร้อมทั้งคุณแม่ ผู้จัดการส่วนตัว และทนายความ เนื่องจากเธอทนต่อความกดดันไม่ไหว ทว่ากลับมีฉากที่พลอยทุบโต๊ะระหว่างที่คุณแม่กำลังจะพูดออกมา จนทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพลอย และคุณแม่ ยังดีอยู่หรือไม่ และเธอคิดอะไรอยู่ตอนที่ตบโต๊ะ
"ตอนนั้นเป็นเพราะว่านักข่าวกำลังถามพลอย ซึ่งถ้าคุณแม่เป็นคนตอบ บางทีพลอยต้องระวัง เพราะมันอาจจะไม่ตรงประเด็น ถ้าให้พลอยตอบมันจะสั้น ตรงประเด็นกว่า แถมตอนนั้นนักข่าวกำลังเริ่มกวนประสาทคุณแม่ ทำให้คุณแม่เริ่มมีอารมณ์ พลอยเลยจำเป็นต้องยั้งอารมณ์คุณแม่ แต่พลอยก็เข้าใจว่าหลายคนอาจจะมองว่าทำไมทำแบบนี้ แต่นั่นก็เรื่องของเขา มันขึ้นอยู่กับว่าคนอยากจะมองพลอยเป็นยังไง เพราะถ้าคนที่ไม่ชอบ พลอยทำยังไงเขาก็ไม่ชอบ"
"ทุกวันนี้พลอยก็อยู่กับคุณแม่ ตอนที่เถียงกันเราก็รู้ว่าเค้าคือแม่ แต่เพราะเราสนิทกันมาก และความสัมพันธ์ของเราก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก จริง ๆ แล้วคุณแม่อารมณ์ร้อนมากกว่าพลอยอีก ซึ่งพลอยเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาอารมณ์เสียใส่ บางครั้งก็จะเผลอมีหลุดใส่คุณแม่บ้าง และก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่สุดท้ายแม่อยากได้อะไร พลอยก็ยอมให้อยู่ดี แม้ว่าเราทั้งคู่จะมีเรื่องที่ไม่ชอบในอีกฝ่าย แต่สุดท้ายเราก็รักกัน เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน"
จากนั้น วู้ดดี้ ก็วกเข้าถึงประเด็นที่เป็นปริศนาที่สุด เมื่อหลังจากที่ พลอย ได้ตกเป็นข่าวครั้งใหญ่ที่สุดของเธอ ทำให้เธอเสียใจและขังตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่พบหน้าใคร แถมยังโพสต์ภาพสีดำลงอินสตราแกรม 16 รูป ซึ่งทำให้หลายคนยังสงสัยว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น และมีความหมายอะไรหรือเปล่า
"คือพลอยทนไม่ไหวค่ะ มีคนมาโพสต์ด่า พลอย พันกว่าข้อความ มาทำร้ายจิตใจเรา ในอินสตราแกรมซึ่งเป็นอะไรที่ติดต่อกับตัวเราโดยตรง ถ้าจะถามว่าข้อความไหนที่ทำให้เสียใจมากที่สุดคงตอบไม่ได้ เพราะเราเสียใจในทุก ๆ ข้อความ แม้ว่าส่วนตัวจะเป็นคนที่แรงขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะด่าใครด้วยข้อความเหล่านั้น รูปสีดำก็เหมือนเป็นการปิดทุกอย่างอยู่แค่นั้น"
ยิ่งไปกว่านั้น พลอย ยังได้ เผยถึงความรู้สึกของเธอตอนที่อยู่คนเดียวว่า "รู้สึกเหมือนโลกที่เคยเป็นของเรามันไม่ได้เป็นของเราอีกต่อไป รู้สึกว่าคนต่างก็สนุกกับการที่ได้เห็นเราล้มลงและอยากจะกระทืบเราซ้ำ"
นอกจากนี้เธอยังเผยว่า ขณะที่เธอกำลังเสียใจอย่างถึงที่สุดนั้น คนที่คอยอยู่กับ พลอย และให้กำลังใจเธออยู่ตลอดเวลาก็คือ นาวิน ต้าร์ เขาถึงกับเครียดแทนเธอ เพราะไม่เคยเห็น พลอย ร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน เธอร้องไห้และจมอยู่กับความทุกข์ของตัวเองอยู่คนเดียว 2 อาทิตย์ เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหา และแล้วเธอก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ การแก้ไขปรับปรุงตัวเอง
แต่ประเด็นร้อนในปีนี้ของพลอยยังไม่หมดลงเท่านั้น เมื่อเธอตกเป็นข่าวว่าวีนสื่อ จากกรณีที่เธอได้ไล่นักข่าว และผู้จัดการออกจากลิฟต์ในงานอีเว้นท์หนึ่ง ซึ่งพลอยก็ได้ชี้แจงว่า มันเป็นเรื่องที่ผู้จัดงานผิดข้อตกลง ซึ่งในตอนแรกบอกกับเธอไว้ว่าเป็นงานเล็ก ๆ แต่พอถึงเวลากลับมีนักข่าวกว่า 50 คนกรูเข้ามาหาเธอ พลอยคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ที่จะยกเลิกงานเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนผิดข้อตกลง ส่วนการที่เธอเชิญคนออกจากลิฟต์นั้น เธอก็ไม่ได้ใช้คำพูดหรือท่าทางที่หยาบคาย แต่สุดท้ายนักข่าวเข้าใจผิดกันไป ก็ไปเขียนว่าเธอวีนใส่ และเมื่อเรื่องนี้ผ่านไป ทุกวันนี้เธอก็ยังโดนคนในกองถ่ายล้อคำพูด "เชิญค่ะ เชิญออกไปข้างนอกก่อนค่ะ" ของเธออยู่เลย และหากคำพูด "เชิญค่ะ" ของพลอยกลายเป็นคำพูดยอดฮิตในช่วงนี้ คำพูด "ไหวป่ะ" พร้อมท่าทางของเธอก็คงเป็นอีกหนึ่งคำที่กลายเป็นคำยอดฮิตในตอนนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ เมื่อ วู้ดดี้ ได้ถามถึงสิ่งที่ พลอย อยากให้คนเข้าใจเธอมากที่สุดในปีนี้ เธอก็ขอบอกตรง ๆ ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเธอมาตลอดว่า "เลิกอ่านหนังสือพิมพ์บันเทิงได้ไหม" เพราะเธอคิดว่ามันก็เป็นสิ่งที่ไม่ประโยชน์ ถ้าจะถามว่าเธออยู่ในวงการนี้ได้เพราะข่าวไหม บอกได้เลยว่าไม่ เพราะถ้าเป็นข่าวที่ดี เราก็ยอมรับว่าเราอยู่ได้เพราะมัน แต่ถ้าเป็นข่าวที่แย่ ๆ มันก็ไม่ใช่ คิดว่าเรายังอยู่ได้ด้วยความดีของเรา
"ตอนนี้สื่อของประเทศไทยไม่ค่อยมีการควบคุม อย่างการถ่ายภาพก็มีการถ่ายกางเกงใน ถ่ายหน้าอก ถ่ายโป๊ แล้วก็มาลงหนังสือ ทำไมไม่มีการควบคุมตรงนี้บ้าง อย่างนี้พวกคุณไม่ปกป้องพวกเราเลย พลอยรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม บางที่ถ่ายเปิดหวอโชว์หน้าอก พวกเราไม่ได้ตั้งใจที่จะโชว์ มันเป็นเพียงบางจังหวะเท่านั้น แล้วสื่อก็เอารูปมาลงหนังสือ ไม่มีโมเสกหรือการปิดเวลาวางขายก็อยู่ตามถนน เยาวชนก็เห็นก็หยิบขึ้นมาดูได้"
นอกจากนั้น พลอย เฌอมาลย์ ยังได้เปิดเผยว่าเธอเริ่มคิดบ้างแล้วว่าจะผ่อนชีวิตในวงการลงอย่างไรให้สวยงาม ซึ่งการผ่อนไม่ได้หมายถึงออกจากวงการไปเลย แต่คิดถึงการมีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวบ้าง เพราะเธอทำงานหนักในวงการมาตลอด 19 ปี เวลาของเธอทุ่มให้แต่กับงาน เธออยากจะให้เวลาแก่ชีวิตของเธอและครอบครัวของเธอบ้าง
อีกทั้ง พลอย ยังได้เปิดเผยเรื่องความรักระหว่างเธอกับ นาวิน ต้าร์ ซึ่งเธอได้พูดความรู้สึกของเธอว่า รัก เป็นครั้งแรก โดยเธอบอกว่าเธอเจอกับ นาวิน ต้าร์ ครั้งแรกที่หลังเวที 9 Entertain หลังจากนั้นพอมาเจอกันอีกที จริง ๆ แล้วก็ยังไม่กล้าให้ใจไปทั้งหมด เพราะยังเจ็บอยู่ ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่ทนกับพลอยแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้ได้บอกกับเธอว่า "ไม่เป็นไร พี่จะทำให้พลอยรักพี่ให้ได้" จากนั้นก็ดูใจกันมาเรื่อย ๆ สิ่งที่เธอเห็นคือ เขามีความอดทนกับเธอจริง ๆ ให้โอกาสเธอเสมอ และขอเธอให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง จนในที่สุด เขาก็ประสบความสำเร็จ ทำให้เธอรักได้ แต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงขั้นแต่งงาน แม้จะเคยมีการคุยเรื่องแต่งงานกัน แต่พลอยก็ยังคงกลัวเพราะเธอเองก็มาจากครอบครัวที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องการแต่งงาน ซึ่งหลังจากคุยกันหลายครั้ง สุดท้ายก็ลงเอยที่... "เรื่องแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพลอย การที่มีคนรักที่ดีที่สุดและอยู่กับพลอยไปตลอดนั่นคือเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า พี่ต้าร์จะทำให้พลอยได้ไหม" และแน่นอนว่า นาวิน ต้าร์ รับได้ในข้อตกลงนั้น แต่ก็ยังคงมีถามว่าจะแต่งเมื่อไหร่
และท้ายที่สุด พลอย เฌอมาลย์ ก็คิดว่าตัวเองยังโชคดี ที่แม้จะเจอข่าวแย่ ๆ มาเยอะ แต่ก็กลับมาได้ พลอยมีพื้นที่ในสังคมนี้ได้เพราะความดี นักแสดงทุกคนต้องเจอเรื่องร้าย ๆ แบบนี้มาทั้งนั้น เพราะไม่มีใครที่จะเขียนข่าวเราในแง่ดี แต่เรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดก็ยังมีสิ่งที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ ขึ้นอยู่กับเราจะมองยังไง ปรับปรุงยังไงให้ตัวเองดีขึ้น
จากทั้งหมดนี้ นั่นคือคิดสิ่งที่ผู้หญิงชื่อ พลอย เฌอมาลย์ คิด และสิ่งที่เธอเป็น แม้เธอจะมีข่าวกระแสลบบ้าง แต่ด้วยความสามารถของเธอและความดีที่สั่งสมไว้ก็ทำให้เธอยังคงอยู่ในวงการนี้ได้ และจากความแข็งแกร่งที่มีอยู่ท่ามกลางความอ่อนแอของเธอ ก็ทำให้เธอก้าวผ่านเรื่องราวที่ไม่ดีเหล่านั้นมาได้ และนี่ก็คือ ผู้หญิงคนที่ วู้ดดี้ เกิดมาคุย ต้องขอยกให้เป็นผู้หญิงแห่งปี 2555
