x close

เจาะข่าวเด่น เอม เจษยา เผยนาทีระทึก ถูกปล้น-ลวนลาม ยันไม่ได้ค้ายาไอซ์


เอม เจษยา






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ ข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, Instagram aimjassaya


             จากกรณีที่ เอม เจษยา ดาราสาวค่ายกันตนา ถูกคนร้ายขู่กรรโชกทรัพย์ พร้อมลวนลามเธอ จนกลายเป็นข่าวฮือฮาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในช่วงเย็นของเมื่อวาน (11 กุมภาพันธ์) ทางรายการเจาะข่าวเด่น ได้พา เอม เจษยา ดาราสาวมาเปิดใจและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ได้ฟังกัน รวมถึงตอบข้อกังขาของสังคมว่า เธอค้ายาตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างหรือไม่

             โดย เอม เจษยา ระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ตนกับเพื่อน 2 คน และทอมคนรู้จักซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนอีก 2 คน อยู่ในคอนโด และจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่า ตนลงไปข้างล่าง แล้วก็มีทอมชื่ออ๊อฟนั่งอยู่ตรงหน้าล็อบบี้ พอเขาเจอตนก็บอกว่า ใช่เอมเพื่อนโป๊ะหรือเปล่า ซึ่งโป๊ะเป็นเพื่อนของตน ตนก็เลยบอกว่ารู้จัก เขาก็บอกว่าให้ตนเดินไปหา ให้มานั่งข้าง ๆ เขา แต่ตนส่ายหัวพร้อมจะเดินออกไปข้างนอก ซึ่งทอมชื่ออ๊อฟก็วิ่งเข้ามาชนบ่าตน สักพักก็มีผู้ชาย 4 คน เข้ามายื้อ ๆ ตนก็ตกใจ และงงมาก เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์พยายามจะเข้ามาถาม เขาก็บอกว่าเรื่องของผัวเมียไม่ต้องมายุ่ง



             ต่อจากนั้น พวกเขาก็ยัดตนเข้าลิฟต์ จากนั้นก็เอาปืนมาจี้หลัง พร้อมบอกว่า "มึงเงียบ ๆ เลย มึงอย่าร้องนะ เดี๋ยวยิงไส้แตกเลย มึงมีปืนหรือเปล่า ข้างบนมีผู้ชายหรือเปล่า นี่มึงเล่นไพ่กันหรือเปล่า" พอตนได้ยินเขาพูดแบบนั้น ก็ยอมรับ เพราะก่อนหน้านี้เล่นไพ่กันจริง ๆ แต่ที่ตนแปลกใจคือ ทำไมคนร้ายถึงรู้ และกดลิฟต์ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นที่ตนอยู่พอดี

             ทั้งนี้ พอลิฟต์ถึงชั้น 8 เขาก็ยังไม่พาตนเข้าไปในห้อง แต่พาตนไปห้องเก็บขยะก่อน พร้อมถามว่า มีใครอยู่ในห้องบ้างประมาณนี้ พอตนยืนยันว่ามีเพื่อนผู้หญิงอีก 4 คน เขาก็เลยให้ตนไขกุญแจเข้าไปในห้อง.. เมื่อไปถึงเพื่อนของตนตกใจหมด ทำอะไรไม่ถูก ส่วนคนร้ายก็บอกว่า "นี่ไงหลักฐานกองไพ่ ไหนดูซิ มียาเสพติดหรือเปล่า พวกมึงมานั่งริมนี้ให้หมด เอาโทรศัพท์มากองไว้ตรงนี้"

             สาวเอม เล่าให้ฟังอีกว่า ในใจมีอยู่คำเดียวคือคำว่ากลัว เลยให้เขาตรวจค้นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เขาตรวจค้นแบบไม่ละเอียด เริ่มแรกเขาก็บอกว่ามีทรัพย์สินอะไรมั้ง บอกมาให้หมด ถ้าไม่บอกจะยัดนะ.. ตรงนี้ ตนเข้าใจว่าเขาต้องยัดยาแน่เลย เลยบอกไปว่ามีตู้เซฟอยู่ แต่ตนพูดยังไม่ทันขาดคำ คนร้ายก็อุ้มเซฟมาแล้ว พร้อมบอกให้ตนบอกรหัส โดยในเซฟมีเงินทั้งหมดประมาณ 2 หมื่น มีทองแท่ง 10 บาท และพวกสร้อยแก่ ๆ ของพ่อ แต่พวกมันเอาแต่ทองใส่ถุง แล้วก็เอาเงินไป 1 หมื่นบาท และถามตนว่า ไหนของดูเส้นทางเงินซิ เอาสมุดบัญชีมา ซึ่งตนก็เดินไปหยิบสมุดบัญชีให้คนร้ายดู คนร้ายก็บอกว่า ตนมีเงินเยอะมากเลย ตนก็กลัวว่าพวกคนร้ายจะโยงไปเรื่องเส้นทางการค้ายา ซึ่งจริง ๆ แล้วเงินมันเหลือเพียงแค่หลักพัน พวกคนร้ายดูเพียงแค่หน้าแรก ๆ เท่านั้น เลยคิดว่าตนรวย (หัวเราะ)

             ต่อมาคนร้ายคนหนึ่งก็เรียกตนไปคุยในห้อง ตนก็คิดว่าเขาจะมาหาหลักฐาน เลยตามเข้าไป สักพักคนร้ายก็บอกว่า รู้ไหมว่าเงินในบัญชีเยอะมาก มีเงินจากการทำผิดเท่าไร และบอกว่าต้องเอาทองไปตรวจสอบต่อว่าได้มายังไง จากนั้นก็ขอค้นตัว ซึ่งเขาก็ล้วง ๆ หน้าอกของตน ตนก็ต้องยอมเพราะมันมีปืน พอคนแรกมาค้นเสร็จ คนต่อมาก็เข้ามาค้นแล้วก็ทำพฤติกรรมเดียวกับคือล้วง ๆ มันไม่ใช่การตรวจค้นเลย มันเป็นการล้วงเข้าที่หน้าอก คือตอนนั้นตนคิดว่า ถ้าจับคนแรกรู้ว่าไม่มีแล้ว ทำไมคนที่สอง คนที่สาม ต้องตามมาจับอีกด้วย

             หลังจากนั้น คนร้ายก็ถามว่า ผัวมึงคือใคร อย่าโทรหาผัวมึงนะ อย่าโทรบอกพ่อบอกแม่ ให้โทรหาเพื่อน ๆ ที่มีตังค์ สักพักคนร้ายก็เช็กสมุดบัญชีตนอีกครั้ง ซึ่งพบว่าเงินตนเหลือเพียงหลักพัน มันก็บอกว่า "เป็นดารา เ...ย อะไร จนชิบ..."   พร้อมบอกว่าให้ทุกคนออกมา แล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งพอถึงหน้าคอนโดก็พูดว่า เอ้า.. กินข้าวกัน วันนี้พี่เลี้ยงเอง จากนั้นก็บอกให้ทอมซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อน ที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้เป็นคนเคลียร์ห้อง โดยตอนนั้นตนเริ่มสงสัยแล้ว เพราะทอมสองคนนั้นเป็นแค่คนรู้จัก ทำไมต้องให้เคลียร์ห้องให้

             สาวเอม เล่าต่อว่า พอลงมาที่ชั้นล่าง คนร้ายก็บังคับให้ตนขับรถ ซึ่งตอนนั้นทอมเพื่อนของเพื่อนก็หายไปแล้ว โดยในรถมีตนและเพื่อนตนอีก 2 คน พอขับมาได้สักระยะ คนร้ายก็ลงรถและขึ้นรถอีกคันไปเลย โดยยื่นถุงโทรศัพท์คืนให้เพื่อนตน ตนจึงรีบกลับมาที่คอนโด พอมาเจอ รปภ. ก็ทักตนว่า โดนตีไก่เหรอ แล้วก็บอกว่าเพื่อนที่ชื่อโป๊ะขับรถมาหา ซึ่งตนก็งงมา รปภ. รู้ได้อย่างไร  แล้วโป๊ะมีรถตอนไหน ทั้งนี้ตนสงสัยว่า โป๊ะน่าจะเป็นคนสมรู้ร่วมคิดกับคนร้ายในครั้งนี้



             อย่างไรก็ตาม สาวเอม ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ไม่ยอมแจ้งความตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม ว่า ตนกลัวตำรวจ ตนไม่รู้ว่าตำรวจคนไหนเป็นคนดี คนไหนเป็นคนร้าย คนไหนคือตำรวจจริง ตำรวจปลอมกันแน่ ทั้งนี้ พอคุณพ่อทราบข่าวก็เลยมาพามาแจ้งความอย่างเป็นทางการ

             ส่วนประเด็นที่ ทอมชื่ออ๊อฟบอกว่า เคยซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กรัม กับตนนั้น ตนยืนยันเลยว่าไม่เป็นความจริง ตนคิดว่าน่าจะเป็นคำกล่าวอ้าง เพราะตำรวจที่ทำผิดไม่มีอะไรสู้กับตนได้ เลยทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหาย ส่วนคนที่ชื่ออ๊อฟ ถ้าบอกว่ารู้จักตนจริง ๆ ก็ขอให้นำหลักฐานมา ตนมั่นใจว่าตนไม่รู้จัก และไม่ได้ค้ายาจริง ๆ


เตรียมเรียก เอม เจษยา สอบปากคำ หลังพบภาพยาไอซ์ในห้อง


            เตรียมเรียก เอม เจษยา สอบปากคำ หลังผู้ต้องหา 2 ราย นำหลักฐานเป็นภาพในวิดีโอ ซึ่งมียาไอซ์อยู่ในคลิปด้วย ด้านผู้ต้องหาอ้าง ล่อซื้อยาไอซ์กับ เอม เจษยา มาแล้ว 2 ครั้ง และดาราสาวก็มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดเป็นเวลานาน ส่วนผู้ต้องหา 3 ราย ที่มอบตัวก่อนหน้านี้ ใช้หลักทรัพย์ 19 ล้าน ประกันตัวไปแล้ว

            วานนี้ (11 กุมภาพันธ์) ที่ สน.วังทองหลาง นางสาววรีรักษ์ เส็งประเสริฐ และนายคมสัน อาจราญ ผู้ต้องหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เอม เจษยา เวียงเกตุ ดาราสาวค่ายกันตนา ได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปภาพถ่ายขณะที่กำลังตรวจค้นห้องพักของ เอม เจษยา มายื่นแก่พนักงานสอบสวนไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาการสอบสวนประมาณ 1 ชั่วโมง

            ทั้งนี้ จากการสอบสวน นางสาววรีรักษ์ ทราบว่า ในวันที่เกิดเหตุตนได้ไปล่อซื้อยาไอซ์ 1 กรัม จาก เอม เจษยา ซึ่งก่อนหน้านี้มีการติดต่อซื้อยาไอซ์จาก เอม เจษยา 2 ครั้ง และเพื่อนของเอมชื่อ จุ๋ม อีก 1 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ไปติดต่อขอซื้อยาไอซ์ เอม เจษยา จะลงมาส่งของที่หน้าล็อบบี้ของคอนโดทุกครั้ง โดยหลังจากที่ล่อซื้อยาไอซ์ ตนก็ได้แจ้งเบาะแสให้กับ นายคมสัน ได้ทราบว่าล่อซื้อเรียบบร้อยแล้ว

นางสาววรีรักษ์ เส็งประเสริฐ
นางสาววรีรักษ์ เส็งประเสริฐ

            นอกจากนี้ นางสาววรีรักษ์ ยังกล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นสายให้กับตำรวจ บก.ปสพ. (191) ซึ่งเป็นชุดติดตามความเคลื่อนไหวของ เอม เจษยา เนื่องจาก เอม เจษยา มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดมานาน และยังอ้างว่า แฟนของ เอม เจษยา ยังเป็นนักโทษในเรือนจำเขาบิน

            ขณะที่ นายคมสัน ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นสายให้กับ ด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป. ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ ขณะตรวจค้นห้องพักของ เอม เจษยา แต่ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับทรัพย์สินที่ดาราสาวอ้างว่าหายไปแต่อย่างใด

            ส่วนทางด้านผู้ต้องหา 3 คน ที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ คือ ด.ต.วีรฤทธิ์ ดวนสูง ผบ.หมู่ ป. สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, นายอำพล ดิรกพงศ์ธนา และนายสุริโย ภูครองทุ่ง ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาแล้ว และล่าสุดศาลอาญาก็ได้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว โดยญาติของ ด.ต.วีรฤทธิ์ ได้นำโฉนดที่ดิน ที่ จ.ราชบุรี จำนวน 34 ไร่เศษ ราคาประเมิน 19 ล้านบาทเศษ เป็นหลักประกัน ส่วน นายสุริโย ญาติใช้เงินสดจำนวน 2 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลได้ตีราคาประกัน ด.ต.วีรฤทธิ์ จำนวน 5 แสนบาท ส่วน นายอำพล และ นายสุริโย ตีราคาประกัน คนละ 1 แสนบาท อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 มีพฤติการณ์ไปข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลบหนี ศาลเพิกถอนคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวทันที

            อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (12 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเรียกตัว เอม เจษยา มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากพบว่ามียาเสพติดในคลิปหลักฐานที่ นายคมสัน ได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 


 
คลิป ทอม โผล่ ซัดซื้อยาไอซ์จาก เอม เจษยา : เครดิต รายการ ข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป เจาะข่าวเด่น เอม เจษยา เปิดใจนาทีระทึก โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



ติดตามข่าว เอม เจษยา เวียงเกตุ ทั้งหมดคลิกเลย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะข่าวเด่น เอม เจษยา เผยนาทีระทึก ถูกปล้น-ลวนลาม ยันไม่ได้ค้ายาไอซ์ อัปเดตล่าสุด 28 มีนาคม 2559 เวลา 13:43:39 64,611 อ่าน
TOP