x close

ไขคำตอบ ทำไมบำรุงแค่ไหนผมก็ไม่สวยอย่างใจสักที

ผมสวย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  

          เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการบำรุงผมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพผมที่ดี แต่ยังมีสาว ๆ อีกไม่น้อยที่พยายามบำรุงผมด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะอบไอน้ำ ทำทรีทเม้นท์ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมสารพัดก็แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ผมก็ยังแห้งเสียอยู่เช่นเดิม วันนี้เราจะมาบอกสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยฟรี กับการบำรุงผมแบบไม่เห็นผลให้ได้หายข้องใจกันค่ะ

        1. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมขณะผมสกปรกหรือมีสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป

          การบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมต้องทำกับผมที่สะอาด สารบำรุงจึงจะซึมซาบเข้าบำรุงทั้งเกล็ดผมและแกนผมได้ดี แต่หากผมสกปรก หรือมีสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผมติดค้างอยู่บนเส้นผมมากเกินไป ก็จะทำให้สารอาหารจากผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เรากำลังจะใช้ เข้าไปยังเส้นผมได้ยากยิ่งขึ้น และไม่สามารถบำรุงได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะบำรุงแค่ไหนก็ไม่เห็นผลเสียทีนั่นเองค่ะ 

        2. ใช้ออยล์เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม

          ออยล์หรือน้ำมันที่ใช้บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมได้ จะต้องสามารถซึมเข้าสู่เส้นผมได้ ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น เช่น น้ำมันมะพร้าว ส่วนออยล์ส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถซึมเข้าบำรุงเส้นผมได้เลย นอกเสียจากเคลือบปิดเกล็ดผมเพื่อล็อกความชุ่มชื้นที่มีอยู่แล้วให้กับเส้นผมเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากคุณใช้ออยล์กับผมที่แห้งอยู่แล้ว โดยไม่ได้ทำการบำรุงใด ๆ มาก่อน ก็เท่ากับว่าคุณกำลังเคลือบเส้นผมแห้ง ๆ ที่ไร้ความชุ่มชื้นไว้ด้วยน้ำมัน ทำให้มันเรียบและลู่ โดยตัวเส้นผมไม่ได้มีความชุ่มชื้นใด ๆ เลย ทั้งยังเป็นการปิดกั้นไม่ให้สารบำรุงอื่น ๆ เข้าถึงเส้นผมอีกด้วย จึงทำให้ผมอ่อนแอ เปราะบาง และเสี่ยงต่อการแห้งเสียมากขึ้นนั่นเอง

        3. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิด water based ที่ไม่สามารถเคลือบปิดเกล็ดผมได้         

          ไม่เพียงแค่ออยล์ใส่ผมเท่านั้นที่ไม่อาจบำรุงผมได้ กระทั่งผลิตภัณฑ์บำรุงผมชนิด water based ที่นิยมใช้กันแพร่หลายก็บำรุงผมได้ไม่ดีนักเช่นกัน หากว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่บำรุงโดยไม่สามารถเคลือบปิดเพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้กับเส้นผมได้ จึงทำให้สารบำรุงสามารถระเหยออกไปจากเส้นผมของเราได้นั่นเอง

        4. บำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมไม่เพียงพอ

          เมื่อเรารู้สึกคอแห้ง นั่นคือการส่งสัญญาณของร่างกายว่ากำลังต้องการน้ำ เช่นกันกับเมื่อคุณพบว่าผมเริ่มแห้งกรอบ นั่นแสดงว่าผมยังได้รับการบำรุงไม่เพียงพอ จึงควรเพิ่มความถี่ในการบำรุงผมให้บ่อยครั้งขึ้น หรือบำรุงอย่างเข้มข้นลึกล้ำขึ้นตามแต่สภาพเส้นผมของคุณ

        5. ละเลยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผม

          รู้หรือไม่ว่ายิ่งผมเปียกจะยิ่งแห้งเสียง่าย การสระผมจึงดูจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งเล็ก ๆ กับการบำรุงผม เพราะในขณะที่คุณชำระล้างเส้นผมเพื่อกำจัดความสกปรกออกไป คุณก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นในเส้นผมออกไปส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่สามารถแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้ง และตามด้วยการบำรุงผมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำนั่นเองค่ะ

ผมสวย

        6. ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเสมือนเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผม

          อย่าลืมว่าคุณสมบัติหลัก ๆ ของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมส่วนใหญ่ ไม่ได้ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี แม้จะมีผลิตภัณฑ์บางตัวที่มีคุณสมบัติทั้งสองด้าน คือทั้งจัดแต่งทรงและบำรุงเส้นผมในคราวเดียวกัน แต่ก็ไม่อาจใช้ทดแทนกันได้ ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมชนิด water based ซึ่งอาจดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และง่ายต่อการใช้งาน แถมยังอ้างสรรพคุณในการบำรุงผมไปพร้อม ๆ กันอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งทำให้ผมแห้งได้ด้วยการพาความชุ่มชื้นออกไปจากเส้นผมในขณะที่มันระเหยออกไป รวมทั้งยังมีมิเนอรัล ออยล์ ที่จะทำให้ผมแห้งเสียได้ในระยะยาวอีกด้วย

        7. ให้ความสำคัญกับรากผมมากกว่าปลายผม

          ปลายผมจะเป็นส่วนที่แห้งที่สุด และอ่อนแอเสี่ยงต่อการแตกปลายที่สุด เพราะน้ำมันธรรมชาติที่หนังศีรษะของเราผลิตขึ้นไม่สามารถหล่อเลี้ยงไปได้จนถึงปลาย นอกจากนี้ส่วนปลายมักเป็นส่วนที่ถูกละเลยไปในยามที่เราบำรุงผมด้วย จึงไม่ควรลืมที่จะชโลมผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากโคนผมไปให้จรดปลาย โดยเน้นที่ปลายเป็นพิเศษเพื่อการบำรุงอย่างทั่วถึงด้วยนะคะ

        8. บำรุงมากไปจนเกินเหตุ

          แม้ผมจะแห้งกร้านมาก อันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าต้องการการบำรุงอย่างเร่งด่วน แต่การที่เราใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากเกินไปก็จะทำให้สารบำรุงทั้งหลายไม่สามารถซึมซาบลงสู่เส้นผมได้หมด ส่วนที่ตกค้างอยู่จึงทำให้ผมดูเหนียวเหนอะหนะตลอดเวลา แถมยังทำให้จัดทรงยากอีกด้วย จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณพอเหมาะจึงจะบำรุงผมได้ดี และพอเหมาะกับความยาวของเส้นผม ผมจึงจะสวย จัดทรงง่าย และได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่

        9. ใช้เวลาบำรุงผมนานเพราะคิดว่าจะได้ผลที่ดีกว่า

          ทรีทเม้นท์สำหรับเส้นผมบางชนิด เช่น การทำเฮนน่า ต้องใช้เวลาในการทำนาน แต่ก็มีทรีทเม้นท์ในการบำรุงผมส่วนใหญ่กลับไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องหมักผมหรือทำทรีทเม้นท์ทิ้งไว้กับเส้นผมนาน ๆ ความคิดว่ามันจะช่วยให้ผมนุ่ม และชุ่มชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ซึ่งความจริงแล้วเวลาเพียง 30 นาที หรือมากน้อยกว่านี้ตามแต่คำแนะนำที่ผลิตภัณฑ์ระบุมา ก็มากพอที่จะทำให้มันสามารถเข้าบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกแล้ว คุณจึงสามารถทำตามเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่าผมจะได้รับการบำรุงน้อยเกินไป เพราะผู้ผลิตได้ทดลองสินค้า จนได้ข้อสรุปว่าควรใช้เวลาเท่าไรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเหมาะสมสำหรับเส้นผมมาเรียบร้อยแล้วค่ะ


          ใครรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วกับการบำรุงผมแบบผิด ๆ ที่ทำให้ผมไม่ได้รับการบำรุงดีอย่างที่คิด ก็ปรับเปลี่ยนดูสักนิด เริ่มจากทำความเข้าใจแล้วดูแลผมใหม่ให้ถูกต้อง รับรองว่าจากนี้ไปผมคุณจะยิ่งสวยขึ้น ๆ  ทุกวันแน่นอนจ้า












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไขคำตอบ ทำไมบำรุงแค่ไหนผมก็ไม่สวยอย่างใจสักที อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2556 เวลา 10:01:18 6,356 อ่าน
TOP