เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sobar.soso.com
ชาวเน็ตจีนตะลึง หลังมีผู้โพสต์ภาพการรักษาอาการขาโก่งด้วยการเจาะกระดูก ขันสกรูว์ เพื่อยืดขาเป็นเวลานาน 3 เดือน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผย เป็นวิธีการรักษาที่ถูกต้องที่ถูกใช้ในอดีต
เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ไชน่าสแม็ก ได้มีรายงานว่า ไม่นานมานี้ได้เกิดกระแสปั่นป่วนในกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวจีน หลังจากมีการเผยแพร่ภาพของหญิงสาวที่ขาทั้ง 2 ข้าง ถูกสกรูว์เจาะทะลุกระดูก และภาพขาของเธอที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลอาบเลือดจากรูที่ขา ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกอ้างว่าเป็นการรักษาอาการขาโก่งของผู้หญิงคนหนึ่ง บนเว็บไซต์เว่ยป๋อ หรือทวิตเตอร์เวอร์ชั่นจีน
โดยผู้ที่โพสต์รูปดังกล่าวได้บรรยายว่า นี่เป็นรูปของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ต้องเข้ารับการรักษาอาการขาทรงตัวโอ หรือ ขาโก่ง ของเธอ ในทุก ๆ วันกระดูกที่ขาของเธอจะต้องถูกดึงขึ้นและขันให้แน่นด้วยสกรูว์ ถึง 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 7 มิลลิเมตร และพอ 3 เดือนผ่านไป เธอก็นำสกรูว์ที่รวมเข้ากับกระดูกและเนื้อของเธอออก
ไม่ต้องสงสัยว่ารูปที่แสนจะน่ากลัวดังกล่าวนั้นสร้างความตกตะลึงให้เหล่าชาวเน็ตของจีนขนาดไหน เพราะขนาดเรา ๆ เห็นแล้วยังแอบขาแข้งอ่อน ขณะที่หลาย ๆ คนเกิดความสงสัยว่า นี่คือวิธีในการรักษาอาการขาโก่งจริง ๆ งั้นหรือ รวมถึงมีผู้แสดงความคิดเห็นว่า "ฉันรู้ว่าผู้หญิงอยากจะสวย แต่ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่ยอมทำขนาดนี้เพื่อความสวย"
จากการสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลกรรมกระดูก ถึงกรณีดังกล่าว แพทย์ได้ระบุว่า ขาทรงตัวโอ หรือที่รู้จักกันว่า ขาโก่ง นั้น ทางการแพทย์เรียกว่า เจนู เวรัม (Genu Varum) ซึ่งเป็นลักษณะของความผิดปกติทางกายภาพ ที่ข้อเท้าของคน จะสามารถสัมผัสกันได้ แต่ช่วงเข่าของพวกเขาจะห่างออกจากกัน ทำให้มีช่องว่างรูปตัว โอ เกิดขึ้น ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดขึ้นจากการขาดแคลเซียมหรือเหตุผลทางด้านพันธุกรรม ผู้ป่วยที่มีภาวะขาโก่งนั้นมักจะแสดงอาการชัดเจนในตอนเดิน และยากที่จะรักษาสมดุลของร่างกาย พวกเขาจะเดินเหมือนเป็ด ซึ่งค่อนข้างจะดูน่าเกลียด ดังนั้นสำหรับผู้หญิง มันจึงส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพวกเธอโดยตรง อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอาการขาโก่ง สมควรจะได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด เพราะมันสามารถก่อให้เกิดความความเจ็บปวดอื่น ๆ ซึ่งอาจะส่งผลต่อการเดินตามปกติได้
ทั้งนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังได้เผยว่า รูปจากเว็บไซต์เว่ยป๋อนั้น แสดงให้เห็นวิธีรักษาที่ถูกต้องที่ถูกใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อนานมาแล้ว แต่วิธีการรักษาแบบนั้นจะทิ้งรอยแผลไว้บนขาซึ่งง่ายแก่การติดเชื้อ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถคาดเดาได้กับคนไข้ แต่ด้วยเทคโนโลยีด้านการแพทย์สมัยนี้ การแก้ไขปัญหาขาโก่งนั้นไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งโรงพยาบาลหลายแห่งก็สามารถทำการรักษานี้ได้ ซึ่งผู้ที่ต้องการผ่าตัดรักษาขาโก่งด้วยวิธีการที่ถูกต้องนั้น ควรจะต้องรับการรักษาจากโรงพยาบาลที่เหมาะสม
