x close

สวยเป๊ะพร้อมแชะ & แชร์!

แต่งหน้า

สวยเป๊ะพร้อมแชะ & แชร์! (Lisa)


           เดี๋ยวนี้กล้องถ่ายรูปกับสาว ๆ กลายเป็นของคู่กัน อยู่ที่ไหนก็แชะ! ได้เสมอ แถมด้วยความฮอตฮิตของโซเซียลมีเดีย มีหรือที่จะอดใจ แต่จะภูมิใจกว่าไหมถ้าได้คุยว่าสวยโดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ! เราขอมาแชร์เทคนิคขั้นเทพ แต่งหน้าให้สวยเป๊ะพร้อมแชะและแชร์ ไม่ต้องง้อแอพฯ

เตรียมผิว

           เริ่มขั้นแรกสุดด้วยการทำความสะอาดผิวให้หมดจดและบำรุงผิว ก่อนเริ่มขั้นตอนการแต่งหน้า คุณควรใช้เบสที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ลงบริเวณรอบดวงตา ใบหน้าและคอ หรือลงมอยส์เจอไรเซอร์ไว้ก่อน อย่างที่หลายคนทำในตอนเช้าอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องถ่ายรูปในวันสำคัญ เช่น วันถ่ายภาพรับปริญญาหรือโอกาสอื่น ๆ ให้ใช้มาส์กบำรุงผิวหน้าก่อนประมาณสองวันก่อนถึงวันจริง เพราะผิวคุณจะดูสดชื่นขึ้น และทำให้มีเวลามากพอที่ริ้วรอยชั่วคราวทั้งหลายจะจางไป ส่วนการลงเมคอัพเบสหรือไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้ามีเทคนิคง่าย ๆ คือเกลี่ยตั้งแต่ช่วงใต้ตาแล้วค่อย ๆ ไล่ลงไปจนถึงแนวกรามและลำคอด้วย

เทคนิคแต่งสวยพร้อมแชะ

           ผิวหน้า เลือกรองพื้นที่ช่วยในการปกปิด เดี๋ยวนี้มีรองพื้นสูตร High Definition ที่มีประสิทธิภาพการปกปิดสูง เหมาะสำหรับการถ่ายรูปหรือวิดีโอที่จะมีภาพโคลสอัพด้วย เพราะมันจะมีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงได้ดี แต่ถ้าเป็นวันทั่วไปก็เลือกรองพื้นที่เนื้อเบากว่านี้ หรือใช้บีบีครีมก็ได้ หากผิวของคุณไม่มีริ้วรอยหรือจุดบกพร่องมากนัก เมื่อลงรองพื้นแล้ว ตามด้วยคอนซีลเลอร์เพื่อซ่อนรอยหมองคล้ำใต้ตาจุดด่างดำหรือรอยสิว โดยเลือกคอนซีลเลอร์สีออกโทนเหลืองที่ใกล้เคียงกับสีผิวคุณ

           จากนั้น ลงครีมบลัชที่แก้มเพื่อเป็นเบส ก่อนลงบลัชออนเนื้อฝุ่นเพื่อให้สีแก้มดูสดชัดขึ้นราวกับมีเลือดฝาดธรรมชาติ อาจจะดูเหมือนเยอะไป แต่อย่าลืมว่าเวลาถ่ายรูป สีที่แก้มมักจะเป็นส่วนที่ดร็อปได้ง่าย โดยเน้นทาครีมบลัชที่โหนกแก้ม แล้วก็เบลนด์สีเยอะ ๆ ให้ดูเนียนไปกับผิว แล้วเชตเมคอัพด้วยแป้งฝุ่นเนื้อบางเบา จากนั้น ปัดแก้มด้วยบลัชเนื้อฝุ่นซ้ำอีกทีและปัดไฮไลท์เบา ๆ ที่กลางหน้าผาก สันจมูก ใต้ตา และคางเพื่อเพิ่มมิติ

           ดวงตา ตาของคุณควรดูโดดเด่น แต่ไม่มากเกินไป จึงไม่จำเป็นต้องลงสีแบบสโมกกี้หนัก ๆ เพราะจะทำให้องค์ประกอบของสีที่ออกมานั้นไม่ลงตัว โดยเลือกสีของอายแชโดว์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับสีผิวและการแต่งตัว ขอแนะนำว่าอายแชโดว์เนื้อแมตต์เหมาะกับการถ่ายภาพมากกว่าอายแชโดว์เนื้อแวววาว

           เทคนิคเบสิคที่สุดในการแต่งคือทาสีแมตต์ให้ทั่วเปลือกตาและเน้นสีตรงช่วงรอยพับตาให้ดวงตาดูมีมิติ จากนั้น แต้มสีสว่างแบบไฮไลท์ที่โหนกคิ้วและหัวตา เพื่อเปิดให้ดวงตาดูสว่างเด่นชัดขึ้น ส่วนอายไลเนอร์ควรกรีดเส้นพอประมาณด้วยดินสอเขียนสีดำหรือน้ำตาลเข้มให้ชิดขอบตา แล้วลงทับด้วยอายไลเนอร์เนื้อลิควิดตามก็ได้ อาจวาดเส้นให้เลยหางตาออกไปเล็กน้อย แต่อย่าให้ยาวเกินไปจนอายไลเนอร์ขโมยซีนทุกส่วนบนใบหน้า เช่นเดียวกับมาสคาร่าหรือขนตาปลอมเลือกแบบที่เพิ่มความยาวและความหนาของขนตาอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าเว่อร์ไปเวลาถ่ายรูปออกมาก็จะดูเกิน เมื่อแต่งตาเสร็จ ใช้คอตตอนบัดเก็บรายละเอียดอีกครั้ง เช็ดส่วนที่เลอะออกไปแล้วใช้แป้งฝุ่นตบทับใต้ตาให้เนียน

           ริมฝีปาก เช่นเดียวกับดวงตา การเลือกเฉดสีนั้น ไม่ควรเป็นสีที่สดแจ่มหรือสีอ่อนเป็นธรรมชาติเกินไป เริ่มจากใช้ดินสอเขียนขอบปากในโทนสีที่ใกล้เคียงกับสีปากธรรมชาติของคุณ ก่อนลงลิปสติกสีที่คุณต้องการ ซึ่งควรเป็นสีที่เข้ากับลุคและการแต่งกาย ปิดท้ายด้วยการแตะกลอสที่กึ่งกลางริมฝีปากแล้วเบลนด์ออกเล็กน้อย ลิปสติกเป็นสิ่งที่คุณควรส่องกระจกเช็กดูให้ดีกลางแสงธรรมชาติว่าสีพอดีแล้วหรือยัง ถ้ามากไปหรือน้อยไปก็จะสามารถแก้ได้

Tip from Blogger

           การถ่ายรูปให้เป๊ะและหน้าไม่มันสู้กล้องนั้น ควรเริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อรองพื้นกันเลย คือเลือกรองพื้นที่ไม่เพิ่มความมันเงา เช่น รองพื้นที่ผสมชิมเมอร์ เพราะรองพื้นพวกนี้อยู่ในแสงปกติก็จะดูดี แต่หากถ่ายรูปจะทำให้หน้าสาว ๆ ที่มันอยู่แล้วยิ่งมันขึ้นไปอีก ดังนั้น หากต้องการให้หน้าฉ่ำก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีชิมเมอร์แยกออกมาต่างหาก และควรทาเฉพาะจุดอย่างแก้ม (จมูกก็ทาได้เฉพาะสันจมูกสำหรับคนหน้าไม่มันเท่านั้น) หลักการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีชิมเมอร์ใช้ได้กับการเลือกซื้ออายแชโดว์ บลัชออน และลิปสติกด้วยเช่นกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องคำนึงว่าเวลาหน้าโดนแฟลชแล้วจะเป็นอย่างไรด้วย

Extra Tip from Expert

           เจมส์ มอลลอย เมคอัพอาร์ทิสต์ชั้นนำผู้ดูแลเมคอัพให้แบรนด์ M.A.C ในภูมิภาคเอเชีย แนะนำเทคนิคบำรุงผิวที่ช่วยให้คุณแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น โดยก่อนแต่งหน้าให้คุณเทมอยส์เจอไรเซอร์สูตรเอสเซนส์ลงบนแผ่นสำลีแล้ววางแปะบนใบหน้าทิ้งไว้สัก 2-3 นาที จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว

More Tips

           การแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะในโอกาสพิเศษ ก็ไม่ใช่เวลาที่คุณจะทดลองลุคหรือเทรนด์การแต่งหน้าใหม่ ๆ ที่อาจไม่เข้ากับคุณ

           ควรกันคิ้วหรือแวกซ์ขนบนใบหน้าให้เรียบร้อยล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันจริง เพื่อที่รอยบวมหรือแดงจะได้หายทันเวลาก่อนถึงวันที่จะต้องแต่งหน้า

           ไฮไลท์ด้วยแป้งสีสว่างเนื้อแมตต์ แทนการใช้ไฮไลท์ที่เป็นผงชิมเมอร์ เพื่อป้องกันหน้ามันวาวหากกระทบกับแสงแฟลชเข้าอย่างจัง

           อย่าลืมใช้บรอนเซอร์ปัดด้านข้างใบหน้าเพื่อเพิ่มมิติ และเฉดดิ้งที่ปีกจมูกเพื่อไม่ให้หน้าดูแบนเรียบเวลาที่ถ่ายรูปออกมา แต่อย่าลงเข้มเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติล่ะ

           Less is More อย่ามัวแต่มุ่งเน้นที่จะปกปิดรอยบกพร่องบนผิวหน้าโดยลงเมคอัพจนหนาเตอะ ซึ่งจะทำให้ดูเฟคและความเป็นธรรมชาติหายไปเลย ใช้วิธีทำให้ส่วนที่สำคัญดูโดดเด่นขึ้นดีกว่า โดยเน้นตาหรือริมฝีปาก หรือส่วนที่คุณคิดว่าเด่นที่สุดให้ดูเต็มขึ้นมา

           ไม่มีใครต้องการรูปที่หน้ามันวิ้ง ก่อนถ่ายรูปทุกครั้งจึงต้องเช็กผิวหน้าให้ผิวดูแมตต์อยู่เสมอ และคอยซับผิวหน้าโดยขจัดความมันออกแล้วลงแป้งทับเบา ๆ







ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.14 No.7 20 กุมภาพันธ์ 2556

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สวยเป๊ะพร้อมแชะ & แชร์! อัปเดตล่าสุด 25 มีนาคม 2556 เวลา 14:59:55
TOP