x close

ชีวิตหลากรสของ กำปั้น บาซู บนถนนสายบันเทิง

กำปั้น บาซู

กำปั้น บาซู

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก GP GumPan , เฟซบุ๊ก Bazoo Thailand

              แม้ว่าวงบาซู วงดนตรีขาแดนซ์แห่งปี 2540 จะห่างหายจากวงการไปบ้าง แต่ละคนในวงต่างแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ทั้งโจอี้ ที่ไปเปิดธุรกิจส่วนตัว และทำงานการกุศล เด็บบี้ ที่ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ส่วน กำปั้น บาซู นั้น ชื่อของเขายังไม่ห่างหายไปสักเท่าใดนัก จากข่าวที่มีออกมาเรื่อย ๆ รวมถึงผลงานที่ยังพอมีให้เห็น...

              โดยหลังจากที่อัลบั้มสุดท้ายของบาซูจบลง กำปั้นก็ลุยทำงานทั้งละคร ภาพยนตร์ ไปจนถึงขึ้นปกถ่ายอัลบั้มนู้ด อีกทั้งยังพยายามออกอัลบั้มเดี่ยว แต่กลับโดนปฏิเสธจากทุกค่าย จนล่าสุด กำปั้นและเพื่อน ๆ บาซู ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในคอนเสิร์ตรวมศิลปินเก่าของอาร์เอสอย่าง RS Meeting Concert Return 2013... วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงนำประวัติ กำปั้น บาซู มาฝากแฟน ๆ ให้หายคิดถึง

กำปั้น บาซู

              กำปั้น หรือ พีระ พาณิชย์พงส์ หรือชื่อเดิมคือ เอกประพันธ์ พานิชพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2521 จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบรรพตวิทยา และมาเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนบางมดวิทยา ก่อนที่จะมาเรียนชั้นอุดมศึกษา ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด สาขาบริหารธุรกิจ ซึ่งก่อนที่จะมาทำงานกับวงบาซูนั้น กำปั้นเคยร้องเพลงตามเธค และไนต์คลับ มาก่อน จากนั้นเมื่อแมวมองของอาร์เอสไปพบเข้า จึงชวนกำปั้นมาทดสอบงาน และผ่านการทดสอบจนเข้ามาเป็นสมาชิกวงบาซูคนสุดท้าย

              จากนั้น ในปี 2541 กำปั้น บาซู และเพื่อน ๆ ก็ออกเพลงอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า Bazoo และแน่นอน เพลงฮิตในอัลบั้มนี้คงหนีไม่พ้น เพลง โธ่เอ๊ย กับท่าขาเกี่ยวกันพร้อมทำมือตั้งฉาก จนกลายเป็นท่าเต้นที่ฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง จากนั้น วงบาซู ก็ส่งเพลง รักน้องพร, เขาจะโกรธไหม, แอบมีเธอ มาเรียกเรตติ้ง ยิ่งทำให้อัลบั้มนี้ของบาซู กระหึ่มยิ่งกว่าเดิมจนทะลุล้านตลับ และด้วยกระแสความดังในชุดแรก ทำให้บาซูเข็นอัลบั้มที่ 2 ออกมาภายในปี 2542 คือ อัลบั้ม Bazoo Ho-le Ho-le ที่มีเพลงฮิตอย่าง จดหมายผิดซอง, ทำไมถึงทำกับฉันได้ ก่อนที่จะมาออกอัลบั้ม Bazoo in the mix non-stop ที่เป็นการนำเพลงจากอัลบั้มที่ 1 และ 2 มามิกซ์รวมกันชวนแดนซ์แบบไม่มีหยุด

              ต่อมาในปี 2543 เด็บบี้ โจอี้ และ กำปั้น บาซู ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอัลบั้ม ผีฟ้าปาร์ตี้ และเพลงเปิดตัวอย่างเพลง ผีฟ้าปาร์ตี้ และ Cheer ก็กลายเป็นเพลงฮิตและเป็นเอกลักษณ์ของบาซู จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนเปิดเพลง Cheer ตามงานแข่งกีฬาต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ แล้วบาซูก็คั่นปีนี้ด้วยการออกอัลบั้มพิเศษอย่าง Bazoo Dancecovery ซึ่งเป็นการรวบรวมเพลงเก่า และเพิ่มเพลงใหม่ขึ้นมาอีก 2 เพลงอย่าง ตื่น..เต้น..ตื่น..เต้น.. และ ตามให้ทัน แล้วจึงมีอัลบั้ม Bazoo 2001 ในปี 2544 ที่มีเพลง ลำตัด 2001 เป็นเพลงเปิดตัว และอัลบั้มสุดท้ายของบาซูก็คือ Bazoo Yo! ที่ออกมาในปี 2545

              นอกจากนี้ วงบาซู ยังมีอัลบั้มพิเศษที่ทำร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ อีก อย่างอัลบั้ม ZODIAC กับเพลง รักเธออยู่แล้ว อัลบั้ม  Bazoo 2000 ที่บาซูไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานเพลงในประเทศไต้หวัน และอัลบั้ม THE CELEBRATION ที่วงบาซูก็ร่วมร้องเพลง เท้าไฟ ในอัลบั้มนี้ด้วยเช่นกัน

              หลังจากนั้น กระแสของบาซูก็สร่างซาลงไป และวงบาซูก็ประกาศยุบวง โดยที่แต่ละคนต่างไปทำงานของตัวเอง ซึ่งกำปั้น บาซู ก็เป็นฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่วงบาซูุยุบวงนั้น เนื่องจากอัลบั้มที่ผ่านมา ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และยังมีนักร้องใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ทางอาร์เอสจึงเป็นฝ่ายเรียกเข้าไปคุย แล้วจึงตัดสินใจยุบวงในที่สุด

              แต่ถึงอย่างนั้น กำปั้น ก็ยังคงทำงานเพลงต่อไป โดยมารวมตัวกันกับเพื่อน ๆ อีก 5 คน คือ  เอก โต พัน นัน และ ฝัน ที่เคยออกอัลบั้ม World the international music รวมตัวกันทั้งสิ้น 6 คน และกลายมาเป็นอัลบั้มที่ชื่อว่า แดนซ์ อาร์มี่ โดยมีเพลง กองพันเท้าไฟ และ เพลงชะ ชะ ช่า ต่อหน้าฉัน อดีตเพลงฮิตของวงดีทูบี เป็นเพลงเปิดตัว และหลังจากที่มีกระแสตอบรับออกมาดี แดนซ์ อาร์มี่ ก็มีอัลบั้มที่ 2 คลอดออกมา โดยใช้ชื่อว่า Dance War และหลังจากนั้น กำปั้น ก็ห่างหายจากวงการเพลง หันไปรับงานภาพยนตร์และละครอื่น ๆ แทน อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง เด็กเดน, เจ้าพ่อแซ่แต้ เจ้าแม่แซ่ตั้ง ,หมอไน กับ ยัยเฉิ่ม และมีผลงานละครอย่าง คุณหนูเทวดา และแค้นเสน่หา อีกด้วย

              หลังจากนั้น กำปั้นก็ห่างหายไปจากวงการบันเทิงไทย และไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศประมาณ 3 - 4 ปี เมื่อกำปั้นกลับมาเมืองไทย กำปั้นก็ประสบกับมรสุมข่าวสารพัด ทั้งข่าวติดคุก ติดยา ขายตัว ซึ่งกำปั้นเองก็ออกมาบอกว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงเรื่องที่โจอี้เอาไปพูดในวงเหล้าสนุก ๆ  แล้วคนเขียนข่าวก็นำไปขยายความต่อ แม้จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หนังสือพิมพ์ก็เพียงแค่เขียนข่าวแก้ให้เท่านั้น แต่คนก็ติดภาพลักษณ์เหล่านั้นไปแล้ว

              ต่อมา กำปั้นเองก็คิดถึงหนทางการกลับเข้าวงการอีกครั้ง เขาจึงทำเพลงไปเสนอให้กับทุกค่าย แต่ก็ถูกปฏิเสธทั้งหมด เนื่องจากค่ายเพลงมองว่า กำปั้นเอาท์ไปแล้ว และแนะนำให้กำปั้นหันไปทำเพลงแนวใหม่ที่ไม่ใช่เพลงแนวแดนซ์ อาจจะเป็นเพลงลูกทุ่ง แต่ตัวกำปั้นเองมองว่า ตนเองยังมีเรี่ยวแรงสามารถออกเพลงใหม่ได้อีกครั้ง จากนั้นเขาจึงตัดสินใจถ่ายอัลบั้มนู้ดที่ชื่อว่า Diary KP : 2009  ซึ่งเป็นการรวบรวมภาพถ่ายสุดสยิวของกำปั้น แม้ว่าจะถอดเพียงแค่ช่วงบนให้เห็นเพียงซิกแพค แต่ช่วงล่างก็เกือบหลุด และหนังสือดังกล่าว ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทำให้ กำปั้น กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง หากแต่เป็นกระแสในแง่ลบ และยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงภาพลักษณ์เสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาจึงถอนตัวออกมาทำธุรกิจเครื่องสำอางผู้ชาย Powerguy


              จวบจนปี 2554 กำปั้น กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้มเดี่ยวในสังกัด Bounce Music และปล่อยเพลงออกมาชื่อว่า ยังรักกันหรือเปล่า (I Want To Know) ซึ่งได้ทีมงานของเกาหลีมาช่วยอีกที และในเพลงนี้ก็มีท่อนแร็พสไตล์เกาหลีปนอยู่ด้วย

              และในปี 2555  เด็บบี้ บาซู ก็กลับมาจากภารกิจเรื่องเรียนที่ต่างประเทศ วงบาซูจึงได้กลับมารวมตัวกับวงบาซูอีกครั้ง และขึ้นคอนเสิร์ต Lift & Oil Happy Party Concert  อันถือเป็นการกลับมารวมตัวของบาซูในรอบ 7 ปี และถือเป็นปีที่ 15 ของการรวมวงบาซู และในปี 2556 วงบาซูยังเป็นหนึ่งในศิลปินที่จะมาร่วมในคอนเสิร์ต RS Meeting Concert Return 2013 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 19 พฤษภาคม 2556 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยจะมีศิลปินคนอื่น ๆ มาร่วมในงานนี้เช่นกัน อย่าง อนัน อันวา, ลิฟท์-ออย, แร็พเตอร์, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, เต๋า สมชาย , เจมส์ เรืองศักดิ์, บอย สเก๊าท์

              นี่เป็นเพียงประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งก็ต้องบอกว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ กำปั้น บาซู ก็ยังคงเต้นได้แข็งแรง ดุดัน และยังคงเป็นอีกหนึ่งหนุ่มจากค่ายอาร์เอส ที่แฟน ๆ เฝ้ารอคอยการกลับมาของเขาเสมอ


กำปั้น บาซู

กำปั้น บาซู

กำปั้น บาซู



กำปั้น บาซู

กำปั้น บาซู










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชีวิตหลากรสของ กำปั้น บาซู บนถนนสายบันเทิง อัปเดตล่าสุด 4 เมษายน 2556 เวลา 22:16:10 3,612 อ่าน
TOP