สาวทำงานตัวแม่จะยอมให้ผิวแย่ได้อย่างไร (Lisa)
ทำงานยุ่งจนปล่อยหน้าเยินไม่ใช่นิสัยของสาว Lisa เลย บอกตรง ๆ ว่าปัญหาผิวที่ต้องเจอะเจอในวัยทำงานนั้นไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะรับมือ สาวเก่งอย่างเธอทำได้สบาย ขอบอก
25 เลขนี้สำคัญไฉนเมื่ออายุ 25 คอลลาเจนจะเริ่มเสื่อมสภาพ จึงควรเริ่มใช้ครีมป้องกันริ้วรอย ส่วนคนที่เลยช่วงอายุนี้มาแล้ว สิ่งที่มีประโยชน์กับผิวซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยออกมาแล้วว่าครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอจะช่วยยับยั้งการเสื่อมของผิวจากแสงแดดและการเสื่อมอายุของผิว และช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ดังนั้น การเลือกซื้อครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอก็จะช่วยได้ ส่วนบางคนที่มีผิวแห้งตั้งแต่วัยรุ่น เมื่ออายุมากขึ้นต่อมไขมันก็จะหยุดทำงานจึงทำให้ผิวจะแห้งมากยิ่งขึ้น ก็สามารถใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพราะความชุ่มชื้นจะช่วยชะลอริ้วรอยได้
Warning ! ครีมหรือยาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอจะไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือมีบุตร ส่วนสาวทำงานที่แต่งงานแล้ว หรือมีแนวโน้มว่าจะตั้งครรภ์ก็ควรหยุดใช้ทันที
5 ปัญหาผิวสุดกลุ้มของสาวทำงาน1. แพ้เครื่องสำอาง สาว ๆ ส่วนใหญ่จะแต่งหน้าเข้มขึ้น แล้วผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็มีมากมาย หากไม่ทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ดีก็อาจเกิดอาการแพ้เครื่องสำอางได้
2. สิวอุดตัน เรื่องสิวยังไงก็ยังอยู่คู่ผู้หญิงอยู่เสมอ ยิ่งในวัยทำงานก็จะมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามา อย่างเช่น หากต้องออกไปทำงานข้างนอก หรือการเดินทางไป-กลับที่ทำงาน ก็จะเจอกับทั้งควันและฝุ่น
3. ความหมองคล้ำ เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีปัญหาเรื่องเม็ดสีอยู่แล้ว ยิ่งกันแดดไม่ดีเพียงพอก็จะทำให้มีฝ้าและกระตามมา
4. ความหย่อนคล้อย คอลลาเจนในผิวที่ค่อย ๆ เสื่อมสภาพจะทำให้รูขุมขนกว้างผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียนละเอียดเท่าตอนเป็นวัยรุ่น
5. ผิวเปลือกส้มตามลำตัว เมตาบอลิซึมของร่างกายก็จะน้อยลง ยิ่งสาวที่มีลักษณะงานที่อยู่กับโต๊ะทั้งวัน ก็จะมีเรื่องของเซลลูไลท์ใต้ผิวจนเกิดเป็นผิวเปลือกส้ม
โบท็อกซ์เพื่อนสนิทของสาวทำงานการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าไม่ว่าจะหัวเราะ ขมวดคิ้ว หรืออะไรต่าง ๆ ล้วนก่อให้เกิดริ้วรอยบนผิวหน้าทั้งสิ้น และเป็นริ้วรอยที่เป็นร่องลึก ทำให้ดูไม่สวยงาม และสร้างปัญหาให้สาว ๆ อีก ซึ่งร่องลึกพวกนี้การทาครีมนั้นค่อนข้างจะเห็นผลช้าทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาให้ความสนใจกับการฉีดโบท็อกซ์แทน
ฉีดแค่ไหนถึงจะพอดี ? ตามทฤษฎีแล้วการฉีดโบท็อกซ์จะเข้าไปช่วยหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ทำงาน ซึ่งผลจะอยู่ได้ 4-6 เดือน ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องฉีดโบท็อกซ์ถี่เกินไป รอให้มันเสื่อมก่อนแล้วค่อยฉีดใหม่ก็ได้ เพราะถ้าฉีดมากเกินไปร่างกายจะสร้างแอนตี้บอดี้ขึ้น ทำให้ดื้อยา ฉีดไปก็ไม่เห็นผล
อนุมูลอิสระ นางร้ายเบอร์หนึ่งอนุมูลอิสระถือเป็นตัวร้ายต่อผิวอย่างยิ่ง และสิ่งที่เป็นตัวเร่งการทำงานของอนุมูลอิสระก็คือแสง ทั้งแสงแดด แสงไฟกระทั่งแสงจากจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ซึ่งอนุมูลอิสระนี้สามารถทำลายได้หมดตั้งแต่คอลลาเจนของผิวการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี เกิดเป็นรอยดำ ฝ้า กระ เพราะฉะนั้นต้องทาครีมกันแดด ตอนวัยรุ่นอาจจะยังไม่มีฝ้า แต่เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งของอายุปัญหาผิวที่เสียสะสมมาก็จะเกิดขึ้นบนผิวหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัวเลย
Doctor Tipsหลัก ๆ ของการดูแลผิวก็คือการเลือกเครื่องสำอางให้เหมาะกับผิวดื่มน้ำให้มาก ๆ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พยายามลดแป้งและน้ำตาลไม่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งสาวทำงานที่มีเวลาน้อย การใส่ใจผิวในแต่ละวันให้เพียงพอนั้น ทำให้สาว ๆ แทบจะไม่ต้องพึ่งการทำทรีทเม้นท์หรือเลเซอร์เลย
สาวทำงานคนเก่งอย่าง พญ.นัทยา วรวุทธินนท์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโรคผิวหนัง มาให้ความรู้ และเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลผิวของการวัยทำงาน
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะขอขอบคุณข้อมูลจาก
