x close

เช็กวิธีกระชับน้องสาวก่อนความสาวหมดไป

ศัลยกรรม



เช็กวิธีกระชับน้องสาวก่อนความสาวหมดไป (นิตยสาร APPEAL)

โดย พญ.วิทัศศนา เขตต์กลาง หัวหน้าแพทย์ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช (Cosmetic Gynecology Center) หรือ ศูนย์จุดซ่อนเร้น (The Intimate Beauty Center) โรงพยาบาลยันฮี

          ความกระชับของน้องสาวเป็นอีกเรื่องที่คุณสาว ๆ รุ่นใหญ่ไม่ควรละเลยไป แต่จะทำอย่างไรล่ะให้น้องสาวกระชับและปลอดภัย เลือกวิธีไหนถึงจะเหมาะกับตัวเองดี ซึ่งการกระชับช่องคลอดหรือการเพิ่มการตึงตัวในกล้ามเนื้อช่องคลอดนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ แบบไม่ผ่าตัดและแบบผ่าตัด

          แบบไม่ผ่าตัด

       1. การออกกำลังกายช่องคลอด หรือการขมิบช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่คนไข้เองสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการขมิบช่องคลอดค้างไว้ 10 นาที หลังจากนั้นจึงคลายตัวออก และทำซ้ำแบบเดิมเรื่อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการออกกำลังกายช่องคลอดนั้น ก็สามารถทำได้หลายสูตรไม่มีสูตรตายตัว เช่น บางสูตรอาจจะขมิบ 100 ครั้งในช่วงกลางวัน และ 100 ครั้ง ในช่วงเย็น ซึ่งไม่ว่าจะด้วยสูตรใด หลักการง่าย ๆ ก็คือช่วยให้กล้ามเนื้อช่องคลอดได้ออกกำลังนั่นเอง

          ข้อดี : ประหยัด และสามารถทำได้เอง

          ข้อเสีย : ในบางรายถ้าขมิบไม่ถูกต้องอาจไม่เห็นผลตามที่ต้องการนัก และต้องใช้เวลานาน 3-6 เดือนขึ้นไป จึงจะเริ่มเห็นผลและผลที่ได้ก็มีขีดจำกัด

       2. การใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่มีแผลผ่าตัด เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งยังไม่เคยมีการนำมาใช้ในงานศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวชมาก่อน ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช โรงพยาบาลยันฮี ถือเป็นแห่งแรกในเอเชียที่เปิดให้บริการเลเซอร์กระชับช่องคลอดแบบที่ไม่มีบาดแผล โดยแพทย์จะเริ่มด้วยการใส่หัวเลเซอร์เข้าไปในช่องคลอด และปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาเลเซอร์ดังกล่าวนี้จะสร้างคลื่นขึ้นมาในความยาวที่เหมาะสม มีการกระตุ้นกล้ามเนื้อช่องคลอดให้มีความตึงตัวขึ้น ส่วนใหญ่จะทำ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทำ 1 คอร์ส สามารถอยู่ได้ 1 ปี

          หลังจากทำไปแล้ว 1 เดือน ความตึงตัวของช่องคลอดจะเพิ่มขึ้นชัดเจน สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัดความตึงตัวกล้ามเนื้อในช่องคลอดโดยเฉพาะ เนื่องจากว่าแพทย์เองจะใช้เครื่องมือนี้ใส่เข้าไปก่อนแล้วให้คนไข้ขมิบ 1 ครั้ง เพื่อวัดความตึงตัว และวัดอีกครั้งหลังจากที่มีการยิงเลเซอร์ไป 4-6 สัปดาห์แล้ว และเช็กอีกครั้งเมื่อครบ 4 เดือน  ทำให้หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะไม่มีอาการปวดและไม่มีการสูญเสียเลือด แตกต่างกับการใช้เลเซอร์ผ่าตัดแทนใบมีด  นอกจากนี้ยังงดมีเพศสัมพันธ์หลังการยิงเลเซอร์เพียง 2-4 สัปดาห์

          แต่อย่างไรก็ตามการทำกระชับช่องคลอดโดยวิธีนี้ก็ยังมีข้อจำกัด และการทำเลเซอร์ชนิดนี้ควรทำในสุภาพสตรีที่มีช่องคลอดหย่อนยานไม่มากนัก เนื่องจากความกระซับที่ได้เป็นผลมาจากการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอบ ๆ ช่องคลอด ซึ่งเนื้อเยื่อช่องคลอดของแต่ละบุคคลก็อาจมีการตอบสนองต่อเลเซอร์-สร้างคอลลาเจนได้ไม่เท่ากัน

          นอกจากนี้เลเซอร์ชนิดนี้ยังสามารถช่วยรักษาภาวะไอจามปัสสาวะเล็ดในสุภาพสตรีได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดใส่สายคล้องท่อปัสสาวะ (TVT-O) แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นเดียวกัน คือควรใช้รักษาในสุภาพสตรีที่มีภาวะไอจาม ปัสสาวะเล็ดที่ไม่รุนแรง หรือในสุภาพสตรีที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดใส่สายคล้องท่อปัสสาวะ (TVT-O) ได้

          ข้อดี : มีเครื่องมือวัดความตึงตัวของช่องคลอดทำให้คนไข้และแพทย์ผู้รักษาสามารถเห็นผลได้ชัดเจน วิธีนี้สามารถใช้ได้ในคนไข้ที่อายุมาก, คนที่อ้วนมาก ๆ ผ่าตัดยาก และเคยผ่าตัดมาก่อน หรือแม้แต่คนไข้ที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น

          ข้อเสีย : มีข้อจำกัด เหมาะสมสำหรับคนที่กล้ามเนื้อช่องคลอดยังไม่หย่อนยานมากนัก ไม่เหมาะสมนักสำหรับผู้หญิงที่มีบุตรหลายคน, ผู้หญิงที่มีกล้ามเนื้อช่องคลอดหย่อนยานมาก ๆ, ผู้หญิงที่มีภาวะไอจามปัสสาวะเล็ดที่ไม่รุนแรง และที่สำคัญราคาอาจจะค่อนข้างสูงกว่าวิธีผ่าตัดแบบดั้งเดิม

          แบบผ่าตัด

       1. ใช้มีดผ่าตัดแบบดังเดิม เป็นการผ่าตัดแบบทั่วไป ใช้มีดและกรรไกรเป็นตัวผ่าตัด ถือว่าเป็นอีกวิธีที่มาตรฐาน ซึ่งหลังทำการผ่าตัดจะมีบาดแผลในช่องคลอดและมีการใช้ไหมละลายเย็บบาดแผลที่ช่องคลอด หลังการผ่าตัด ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์, หลีกเลี่ยงเรื่องพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้บาดแผลที่ช่องคลอดฉีกขาด ได้แก่ ภาวะท้องผูก การไอ จาม การยกของหนักและกีฬาบางชนิดอย่างน้อย 6 สัปดาห์ และอาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับคนไข้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศภายใน 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดแผลแยก มีเลือดออกหลังการผ่าตัด จึงทำให้ตัวคนไข้เองอาจจะต้องมีการวางแผนเรื่องของการพักฟื้นหลังผ่าตัดด้วย โดยทั่วไป 2-3 วันอย่างน้อยหลังการผ่าตัดนั่นเอง

          ข้อดี :  ราคาไม่สูง เหมาะกับคนไข้ที่มีงบประมาณจำกัดไม่สะดวกที่จะทำผ่าตัดโดยเลเซอร์

          ข้อเสีย : ใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน มีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวและที่ไม่สามารถผ่าตัดได้

       2. การใช้เลเซอร์ผ่าตัด วิธีนี้จะเหมือนกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม เพียงแต่ใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดแทนใบมีด ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ, เที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลง เนื่องจากลดการรบกวนจากการทำลายเนื้อเยื่อและเส้นเลือดของแผลผ่าตัด ทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ภาวะแทรกซ้อนน้อยลง ซึ่งหลังทำการผ่าตัดจะมีบาดแผลในช่องคลอดและมีการใช้ไหมละลายเย็บบาดแผลที่ช่องคลอดเหมือนกับการผ่าตัดด้วยวิธีผ่าตัดดั้งเดิม หลังการผ่าตัดต้องมีการปฏิบัติตัวเช่นเดียวกันกับหลังการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอด โดยวิธีดั้งเดิม

          ข้อดี : ทำให้คนไข้เสียเลือดน้อยลง, สามารถควบคุมความลึกของแผลผ่าตัดได้ ทำให้มีการสูญเสียเลือดน้อยลง ทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น

          ข้อเสีย : ใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าเลเซอร์กระชับช่องคลอด แต่อาจน้อยกว่าการผ่าตัดแบบลงมีด


          แพทย์แนะนำ

          สำหรับในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับคู่สมรสเอง ถ้าตัวคนไข้หรือคู่สมรสเองไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ทางการแพทย์ก็จะไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด แต่หากในรายที่มีความรู้สึกว่าไม่มีความกระชับในการมีเพศสัมพันธ์ มีลม มีเสียงขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่ที่สุดแล้วคู่สมรสเองเป็นคนบอกให้มาทำ เพราะคุณผู้ชายอาจจะรู้สึกว่าความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ลดลง รู้สึกไม่เหมือนเดิม หรือถึงจุดสุดยอดได้ยากขึ้นจึงค่อยตัดสินใจทำ ส่วนการเลือกวิธีไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เอง และควรปรึกษาแพทย์ให้ละเอียดอีกครั้ง








ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ฉบับเดือนมิถุนายน 2556 ISSUE 26



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เช็กวิธีกระชับน้องสาวก่อนความสาวหมดไป อัปเดตล่าสุด 25 กรกฎาคม 2556 เวลา 15:04:44 3,070 อ่าน
TOP