x close

น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ พิธีกรสวย เก่ง พูดคุยเปิดใจใน ทูไนท์โชว์

 
น้องไบร์ท พิชญทัฬห์ พิธีกรสวย เก่ง พูดคุยเปิดใจใน ทูไนท์โชว์

น้องไบร์ท พิชญทัฬห์ พิธีกรสวย เก่ง พูดคุยเปิดใจใน ทูไนท์โชว์

น้องไบร์ท พิชญทัฬห์ พิธีกรสวย เก่ง พูดคุยเปิดใจใน ทูไนท์โชว์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram bright_ch3

              น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ คือพิธีกรสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ใน รายการเรื่องเล่าเช้านี้ คู่กับพิธีกรข่าวคนดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงเก่งมากความสามารถ ที่มีข่าวคราวคบหาดูใจกับนักร้องหนุ่ม โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ด้วย จนกลายเป็นพิธีกรสาวที่เพอร์เฟคท์จนน่าอิจฉา วันนี้เธอจะมาเปิดใจบอกเล่าความเป็นตัวตน ผ่านรายการ ทูไนท์โชว์ (5 สิงหาคม 2556) เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันจ้า

              เริ่มต้นรายการกันด้วยเรื่องราวของครอบครัว ซึ่ง น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ เล่าว่า ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวเล็ก ๆ แต่อบอุ่น มีคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว และไบร์ท ซึ่งอายุห่างจากพี่สาว 3 ปี คุณพ่อของเธอเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชน ส่วนคุณแม่เป็นอาจารย์  ซึ่งเธอเห็นว่าคุณแม่ของเธอคือซูเปอร์มัม เพราะคุณแม่ดูแลเธอดีมาก ๆ มาตั้งแต่เด็ก เช่น หากไบรท์อยากทานลูกชิ้น คุณแม่จะไม่ให้ซื้อเพราะกลัวมีสารบอแรกซ์ แต่จะปั้นลูกชิ้นจากเนื้อปลาให้ทานเอง หรือแม้แต่การซื้อรองเท้า ไบรท์ก็ต้องใส่แต่รองเท้าหุ้มส้นเท่านั้น เพราะคุณแม่ไม่ให้ใส่รองเท้าเปิดส้น หรือเปิดหัวเลย เนื่องจากกลัวจะโดนไม้ลูกชิ้นทิ่มเท้า เป็นต้น จนกระทั่งเพื่อนคุณแม่ต้องทักว่าเดี๋ยวลูกจะไม่มีภูมิต้านทานนะ คุณแม่จึงยอมปล่อยเธอบ้าง โอ้ ! เชื่อแล้วจ้า ว่าคุณแม่ดูแลอย่างดีจริง ๆ

              ส่วนคุณพ่อ ก็คือคนที่ไบรท์มักจะปรึกษาด้วยในยามที่ต้องตัดสินใจอะไรใหญ่ ๆ และด้วยความที่ไบรท์มีคุณแม่เป็นอาจารย์แน่นอนว่าผลการเรียนของเธอก็ย่อมต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ เพราะไบรท์ได้เกรดเฉลี่ยเบา ๆ แค่ 3.87 เท่านั้น และได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วย

              ซึ่งเธอให้เหตุผลว่า เพราะเป็นลูกอาจารย์ก็มีความกดดันอยู่นิด ๆ ตอนมัธยมถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็กลัวอาจารย์เอาไปบอกคุณแม่ อีกทั้งยังนั่งเรียนหน้าห้อง และทำตัวถูกระเบียบทุกอย่าง โดยที่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ลำบากใจอะไร แถมยังมีเพื่อน ๆ เป็นแก๊งลูกอาจารย์ถึง 7 คน ที่สนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก ๆ จึงไม่รู้สึกเคอะเขินอะไร เพราะทุกคนต่างก็เป็นแนว ๆ เดียวกัน

              สำหรับเด็กเรียนเก่งอย่างไบรท์ หมอคืออาชีพแรกที่เธอใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่ในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทางโรงเรียนได้จัดโครงการให้เด็กนักเรียนที่อยากเป็นหมอ ได้ลองไปฝึกงานจริงในโรงพยาบาล และในวันที่ไบรท์ต้องไปฝึกงานครั้งแรก ตรงกับวันจันทร์พอดี โดยตารางการฝึกงานของเธอช่วงเช้าต้องฝึกที่ห้องฉุกเฉิน และช่วงบ่ายที่ห้องผ่าตัด ซึ่งไบรท์ต้องเจอกับเคสหนัก ๆ และเห็นการผ่าตัดที่ทำเอาเธอถึงกับไม่ทานเนื้อสัตว์ไปเลยในช่วงนั้น เพราะทนไม่ได้กับเนื้อแดง ๆ ที่ยังคงติดตา ถึงแม้ว่าไบรท์จะทนฝึกงานจนครบ 7 วัน แต่นั่นก็ทำให้ไบรท์เปลี่ยนใจจากอาชีพหมอไปเลย

              ซึ่งในการตัดสินใจของไบรท์ คุณพ่อก็ท้วงว่าอุตส่าห์ตั้งใจเรียนสายวิทย์มาไม่อยากให้เปลี่ยนใจจากอาชีพหมอ ไบรท์จึงเปลี่ยนมาเรียนสายศิลป์แทนและสอบเข้า คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สำเร็จ คุณพ่อจึงยอมให้เธอเรียนได้ตามใจ จนกระทั่งเรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.87 และได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 และเรียนต่อปริญญาโท ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โดยได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 เช่นกัน

              เห็นเป็นคนเรียนเก่งขนาดนี้ ลองมาสืบเคล็ดลับของไบรท์กันหน่อย เธอบอกว่าเธอเป็นคนจริงจังและตั้งใจ ซึ่งถึงแม้ว่าตั้งใจแล้วและคะแนนยังออกมาน้อยก็จะยอมรับมัน แต่ถ้าไม่ค่อยได้ตั้งใจแล้วคะแนนออกมาไม่ดี ก็จะรู้สึกเสียใจ ดังนั้นจึงเป็นคนที่ทำอะไรอย่างเต็มที่ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ช่างมัน

              ส่วนอาชีพในปัจจุบันที่เราต้องพบหน้าสวย ๆ ของเธอนั่งเคียงคู่พิธีกรข่าวมือต้น ๆ อย่าง คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในช่วงเวลาเช้าของทุกวัน ไบรท์เล่าว่า เธอต้องตื่นตั้งแต่ 02.00 น. เพื่อออกจากบ้านมาถึงสถานีไม่เกิน 03.30 น. และนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับคนละปึกกับคุณสรยุทธ และโปรดิวเซอร์ โดยไบรท์จะใช้ปากกาทำเครื่องหมายเอาไว้ ในส่วนสำคัญ เพราะพิธีกรร่วมของเธอมักจะส่งบทให้เธอแบบไม่ให้ตั้งตัว ดังนั้นการเตรียมตัวและสมาธิให้พร้อมในการเล่าข่าวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งสำคัญ

              สำหรับการร่วมงานกับพิธีกรข่าวมืออาชีพ ไบรท์บอกว่าเธอค่อนข้างเกร็ง เพราะทุกวันนี้ก็ไม่เคยรู้เลยว่า พี่ยุทธจะหยิบข่าวอะไรมาเล่าก่อน เธอจึงทำงานเหมือนเก็งข้อสอบ ว่าพี่ยุทธจะเล่าเรื่องอะไร และถึงตาเธอเมื่อไหร่ เทคนิคของไบรท์บางทีก็ต้องแอบชำเลืองว่าพี่ยุทธกำลังเล็งข่าวอะไรอยู่ หรือแอบดูในเวลาที่เขาเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่เธอก็ยอมรับว่าการทำงานร่วมกันเป็นการทำงานที่สนุก ทำให้เธอต้องตื่นตัวตลอดเวลา แถมพี่ยุทธยังเป็นคนใจดีและตลกมาก และเขาคือคนที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ

              ทุกวันนี้ไบรท์บอกว่า เธอมีความสุขกับการทำงานมาก โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วสำหรับการทำงานหน้าจอของเธอร่วมกับคุณสรยุทธและทีมงาน ซึ่งทุกคนดูแลกันแบบครอบครัว และเขาเป็นห่วงเธอเหมือนคุณพ่อคนหนึ่ง แถมยังเคยบอกเธอด้วยว่าหากนับกันจริง ๆ เขาก็แทบจะเป็นคุณพ่อของเธอได้แล้วนะ กระทั่งจะมาออกรายการก็ยังย้ำกับเธอถึงท่านั่ง การวางตัว และหากคิดไม่ออกให้หายใจเข้าลึก ๆ ก่อน ดูแลกันขนาดนี้ เชื่อแล้วจ้าว่าพี่ยุทธเป็นห่วงน้องไบรท์จริง ๆ

              และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในประเด็นที่หลาย ๆ คนอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความรักของสาวสวยเก่งคนนี้ ไบรท์บอกว่าเธอมีแฟนแล้ว ส่วนสเปคก็ชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่จำเป็นต้องหล่อ อาต๋อย ไตรภพ จึงขอแซวน้องไบรท์สักหน่อย ว่าหน้าตาแบบ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ นี่พอไหวไหมน๊า ซึ่งไบรท์ก็ยอมรับแบบเขิน ๆ ว่า "พอไหวค่ะ" ฮิ้ววว

              สุดท้ายไบรท์อยากจะกล่าวคำขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ขอบคุณคุณผู้ชมที่ให้กำลังใจกับเธอตลอด 2 ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา และเปิดใจให้เธอเหมือนกับพี่ ๆ รุ่นก่อน ๆ รวมทั้งขอให้ติดตามกันต่อไป เพราะเธอจะยังไม่ไปไหนและขอทำหน้าที่นี้ไปเรื่อย ๆ
อัพเดท ข่าวน้องไบรท์ ทั้งหมดคลิกเลย



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ พิธีกรสวย เก่ง พูดคุยเปิดใจใน ทูไนท์โชว์ อัปเดตล่าสุด 14 มีนาคม 2559 เวลา 13:48:16 5,586 อ่าน
TOP