x close

สิ่งที่ต้องยอมรับจากการทำศัลยกรรมความงาม

ศัลยกรรม

 



สิ่งที่ต้องยอมรับจากการทำศัลยกรรมความงาม (Lisa)

          "ผมบอกคนไข้ที่เข้ามาทำศัลยกรรมความงามเสมอว่า คุณไม่ได้เข้ามาเสริมสวยนะ ลงมีดไปแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทุกคนมีอัตราเสี่ยง"

          นั่นเป็นคำเตือนของ คุณหมอปรีชา เตียวตรานนท์ หลังจากมีการตีพิมพ์ภาพรอยแผลเป็นนูนแดงน่าเกลียดอันเกิดจากการทำศัลยกรรมทางหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ ท่านเป็นรองศาสตราจารย์หัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่ง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถ้าจะนับกันในเรื่องประสบการณ์ แพทย์ผู้นี้ทำศัลยกรรมแปลงเพศมาแล้วร่วม 2,000 ราย และยังไม่มีศัลยแพทย์คนใดในโลก อ้างได้ว่ามีประสบการณ์ด้านนี้ไปกว่าคุณหมอ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ

          "คนไข้ส่วนใหญ่มักจะนึกว่า เข้าไปทำศัลยกรรมออกมาแล้วฉันต้องสวยเลย นี่ไม่ใช่เข้าไปทำผมนะครับ ทุกคนมีอันตราเสี่ยง" คุณหมอย้ำ

          แต่ผู้หญิงต้องทำอย่างไรถึงจะลดอัตราเสี่ยงให้มากที่สุด มีอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นและผู้หญิงต้องยอมรับว่าเป็นผลที่เลี่ยงไม่ได้จากการทำศัลยกรรม และต้องตัดสินใจแลกกับความสวยที่ได้รับ

          "ลงมีดไปแล้วถึงอย่างไรก็มีแผลเป็นแน่ ๆ" นั่นเป็นสิ่งแรกที่ผู้หญิงต้องแลก

          "แต่เรา (ศัลยแพทย์) ต้องลงมีดในบริเวณที่ซ่อนรอยแผลเป็นไม่ให้เห็น" แต่ไม่ใช่ศัลยกรรมทุกประเภทจะสามารถซ่อนรอยแผลเป็นได้หมด คุณหมอได้แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่จะทำศัลยกรรมคุยกับแพทย์ให้ละเอียดถึงขั้นตอนที่จะทำ ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องเสี่ยง ขนาดของแผลเป็น บริเวณที่จะเกิดแผลเป็น รวมทั้งลักษณะของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นด้วย

          "การเกิดแผลเป็นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ปัจจัยจากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดปัจจัยจากลักษณะเนื้อของคนใช้เคยมีกรณีที่คนใช้สองคนทำการผ่าตัดเหมือนกัน แพทย์คนเดียวกันเป็นผู้ทำให้ อีกคนแผลปูด อีกคนแผลสวย" คุณหมอปรีชาอธิบาย

          ผู้ที่คิดจะทำศัลยกรรม จึงต้องคุยกับแพทย์ให้เข้าใจว่าเมื่อผ่าตัดแล้ว ถ้าผลการผ่าตัดไม่สวยดั่งที่ตั้งใจ หรือถ้าหากเกิดแผลนูนแดงไม่สวย ศัลยแพทย์จะรับผิดชอบแก้ไขให้ได้มากน้อยแค่ไหน และจะให้แพทย์หรือคนไข้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดตามมา

          ส่วนรอยแผลเป็นจะเกิดในบริเวณใด ขึ้นอยู่กับทำศัลยกรรมอะไร ใช้เทคนิคใดในการผ่าตัด

          ศัลยกรรมตัดหน้าท้อง

          ศัลยกรรมตัดหน้าท้อง จะผ่านช่วงบิกินีไลน์ (เส้นขอบกางเกงใน) เกิดแผลเป็นในช่วงผ่าเป็นเส้นยาวตั้งแต่กระดูกเชิงกรานด้านซ้ายวิ่งมาถึงด้านขวา เนื่องจากต้องตัดทิ้งทั้งไขมันและผิวหน้าท้องออก

          "หลังผ่าตัด โอกาสเกิดแผลปูดนูนแดง ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์" คุณหมอปรีชาอธิบาย "ส่วนใหญ่จะปูดขึ้นมาภายใน 3 เดือน พอพ้น 3 เดือน โอกาสจะเกิดก็น้อยแล้ว ในช่วงนั้นแพทย์ต้องคอยนัดคนไข้มาดู ถ้าเกิดปูด ก็ต้องคอยฉีดยาให้แผลยุบลง ต้องค่อยๆ รักษา ต่อมาค่อยมาตัดแต่งแผลให้ดูดีขึ้น ก็แค่นั้นเอง

          "การผ่าตัดประเภทนี้ ต้องนอนโรงพยาบาล 3 วัน หลังผ่าตัดต้องต่อท่อเพื่อดูดน้ำเหลืองออก หลัง 3 วัน ถ้าน้ำเหลืองยังไม่แห้ง ต้องอยู่ต่ออีกวันเพื่อดูดให้แห้ง"

          ศัลยกรรมหน้าอก

          การผ่าตัดเสริมหน้าอกจะเกิดรอยแผลที่รักแร้หรือเป็นเส้นช่วงรอยพับใต้อก ขึ้นอยู่กับแพทย์จะเลือกผ่าบริเวณใด ซึ่งควรถามถึงเหตุผลกับแพทย์ก่อนจะตัดสินใจ แต่ในบางรายจะเกิดรอยแผลเป็นรอบฐานนม ต่อลงมาเป็นเส้นถึงใต้อกในลักษณะรูปตัว "T" คว่ำ

          "กรณีเช่นนั้น หน้าอกคนไข้เหี่ยวห้อย" คุณหมออธิบาย "ลักษณะเช่นนี้ ถ้าเสริมถุงซิลิโคนเข้าไปอย่างเดียว ก็ยังห้อยอยู่ ยิ่งเสริมยิ่งห้อย ต้องตัดผิวหนังออก เพื่อดึงผิวหน้าอกให้ตั้งขึ้น การตัดผิวหนังจะทิ้งรอยยาว"

          ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมแต่ละประเภท คุณอาจต้องขอดูภาพถ่ายรอยแผลเป็นจากแพทย์ที่ไปปรึกษาเพื่อประกอบการตัดสินใจ ศัลยแพทย์อาจจะไม่เน้นข้อมูลด้านแผลเป็นที่ชัดเจน มักจะพูดให้เข้าใจไปว่าแผลเป็นที่ได้รับจะไม่น่าเกลียดหรือแทบไม่เห็น ซึ่งไม่จริงเสมอไป

          การดูดไขมัน

          การดูดไขมันไม่ว่าจะดูดบริเวณใด ก็จะเกิดแผลเป็นในบริเวณที่สอดท่อดูดเข้าไปราว 1 เซนติเมตร แพทย์บางท่านจะสอดท่อดูดบริเวณรอยพับใต้เข่าเพื่อให้แผลเป็นไม่ปรากฏเด่นชัด บางท่านจำเป็นต้องสอดท่อดูดบริเวณกลางน่อง ควรสอบถามแพทย์ก่อนว่าจะสอดท่อบริเวณใด สอดกี่แห่ง ทำไมถึงเลือกสอดบริเวณดังกล่าว และคุณเองตกลงใจยอมรับแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นหรือไม่

          "หลังดูดไขมัน ผิวจะปรากฏเป็นคลื่น ๆ" คุณหมอปรีชาบอก "ภายใน 3 เดือน ภาวะผิวเป็นคลื่นจะดูดีขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของคนไข้ด้วย ถ้าคนไข้มีผิวหนังเละและเผละ เมื่อทำการดูดไขมัน ร้อยทั้งร้อย ผลลัพธ์ที่ได้ ผิวบริเวณนั้นจะเป็นคลื่นน่าเกลียด ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดอย่างกรณีการดูดต้นขา ควรเลือกเคสที่ต้นขาป่อง ๆ เป่ง ๆ ออกมาเป็นปีก จะทำแล้วได้ผลค่อนข้างดี ผู้ที่จะทำการดูดไขมันต้องยอมรับผลข้างเคียงในเรื่องผิวเป็นคลื่น ๆ นอกจากนี้จะมีอาการชา ผู้ที่มีผิวขาว ๆ อาจมีภาวะซ้ำ เลือดคั่งหลังผ่าตัด กลายเป็นสีคล้ำ ผ่านไป 6 เดือนควรจะหายแล้ว แต่บางทีก็ไม่หาย"

          คุณหมอยังย้ำอีกว่า การดูดไขมันออกไปจะไม่ช่วยลดปัญหาเซลลูไลต์อย่างที่ชอบโฆษณากัน "ผิวเซลลูไลต์ยิ่งดูดออกยิ่งดูน่าเกลียด"
การฉีดไขมัน

          การทำศัลยกรรมในลักษณะดูดไขมันตนเองจากบริเวณที่ไม่ต้องการ (หน้าท้อง, ต้นขาหรือต้นแขน) แล้วนำมาฉีดเสริมหน้าอก เสริมจมูก หรือเสริมบริเวณใบหน้าให้เอิบอิ่มขึ้นกำลังได้รับความสนใจและเป็นที่ถกเถียงกัน แพทย์บางท่านไม่แนะนำ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงจากการเน่า และสิ่งที่ต้องยอมรับก็คือว่า ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะถูกร่างกายสลายออกไปในเวลาไม่กี่เดือน

          "โอกาสเน่าน้อยครับ" คุณหมอปรีชาชี้แจง "แต่จะนำมาใช้แทนถุงซิลิโคนเสริมหน้าอกคงไม่ได้ เราจะใช้ในรายที่หน้าอกแห้งไม่มีอะไรเลย กลุ่มนี้ถึงเสริมถุงซิลิโคนยังไงก็ไม่สวย ต้องนำไขมันฉีดเติมเข้าไปเพื่อสร้างฐานขึ้นมาก่อน แล้วจึงใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปเสริม ก็จะดูดีขึ้น หรือในรายที่ใส่"



เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สิ่งที่ต้องยอมรับจากการทำศัลยกรรมความงาม อัปเดตล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11:28:52 3,539 อ่าน
TOP