x close

เหตุผลมากมาย ที่ทำให้ยังเป็น สาวโสด

ผู้หญิง

 



เหตุผลมากมาย ที่ทำให้ยังเป็น...สาวโสด (Lisa)

          หลังจากที่มีการเปิดทาง ให้ผู้หญิงก้าวเข้าไปสู่ระดับแถวหน้าในทุกสาขาอาชีพหลายคนมักทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ เงยหน้าขึ้นมาอีกที อายุก็เริ่มมากขึ้น กว่าจะมีใครสักคน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว

          ยังไม่มีคนเข้ามา...ดู ๆ อยู่เหมือนกันไม่เหงาหรอก เพื่อนเยอะแยะ บรรดาสาวโสดทั้งหลายที่มีอายุเฉียดเข้าเลขสาม คงมีโอกาสใช้บางประโยคตอบคำถาม เมื่อถูกยิงคำถามบาดใจว่าเมื่อไรจะแต่งงาน หนำซ้ำบางรายไม่ถามเปล่า ยังแสดงทำทีเวทนา ทำราวกับว่าคนเป็นโสด ต้องตกอยู่ในสถานภาพที่แปลกประหลาด ทั้ง ๆ ที่สังคมปัจจุบัน มีคนโสดมากมาย และดูเหมือนว่าอัตราจะเพิ่มสูงขึ้น

          สังเกตได้จากตัวเลขคนที่ไปจดทะเบียนสมรส ของสำนักทะเบียนกลาง สำนักการบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าระหว่างปี พ.ศ. 2540-พ.ศ. 2545 มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ตัวเลขขอจดทะเบียนหย่าสูงขึ้น ปี พ.ศ. 2544 มีผู้ขอจดทะเบียนสมรสจำนวน 324,661 คน จดทะเบียนหย่า 76,035 คน ปี พ.ศ. 2545 จดทะเบียนสมรส 285,524 คน หย่า 76,035 ตัวเลขดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าคนเลือกที่จะอยู่เป็นโสดกันเป็นจำนวนมากขึ้น

          สำหรับผู้หญิงที่หันมาใช้ชีวิตโสดกันอย่างมากมายนั้น นอกจากเป็นเพราะผู้หญิงสมัยนี้สามารถที่จะดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายเช่นในอดีต คือปัจจัยอย่างหนึ่ง และจากการเปิดอกสนทนากับบรรดาสาวโสดอายุระหว่าง 27-35 ปี Lisa พบว่ายังมีมิติด้านอื่น ๆ ที่ผลักดันให้สาวไทยหันมาใช้ชีวิตโสดกันมากกว่าในอดีต

           มุมมองความรักเปลี่ยนไปตามประสบการณ์

          จากการพูดคุยกับบรรดาสาว ๆ ที่เคยอกหัก เพราะความรักไม่เป็นเช่นสีชมพูอย่างที่คิดไว้ ส่งผลให้ทัศนะที่มีต่อความรักเปลี่ยนไป หลายคนยอมรับว่า มีมุมมองความรักแบบใหม่ คือไม่มองเฉพาะด้านดี แต่มองรอบด้านมากขึ้น เนตรนภา ทำงานสื่อสารมวลชน รูปร่างหน้าตาดี มีชายหนุ่มเข้ามาให้เลือกหลายคน แต่ยังไม่คิดที่จะรับใครเข้ามาเป็นแฟน "เมื่อก่อนมองความรักคือสิ่งสวยงาม คนที่รักกันสามารถตายแทนกันได้ เหมือนนิยาย คือจบอย่างมีความสุข แต่เรื่องจริงไม่ใช่ ความรักยังคงเป็นสิ่งที่สวยงาม เพียงแต่คนที่เรารักไม่เป็นแบบนั้น ยิ่งอกหักแรง ๆ ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า โลกแห่งความจริง ทุกคนมีอารมณ์ทั้งดีและร้ายอยู่ในตัวของแต่ละคน มีความเห็นแก่ตัว และต่างต้องการให้อีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็ม ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น การมองความรักยิ่งเปลี่ยนตาม คือถ้ามีใครเข้ามาจะคิดมากขึ้น ไม่มองเพียงแค่ชอบหรือถูกใจ แต่มองลึกลงไปถึงชั้นที่ว่า หากอยู่ด้วยกันแล้วไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่เรื่องแบบนี้ต้องดูกันไปตั้งแต่แรก เพราะอายุมากแล้วจะคบ ๆ เลิก ๆ คงไม่ใช่" แม้ว่าในใจลึก ๆ เนตรนภาต้องการจะมีใครสักคน แต่จากประสบการณ์ที่เคยอกหัก ทำให้เธอต้องพินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อนที่จะรับรักครั้งใหม่

          ศิรา พนักงานออฟฟิศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ยอมรับว่า หลังจากเลิกราคบหากับแฟนหนุ่ม ซึ่งใช้เวลาถึง 6 ปี ทำให้เธอเกิดความระมัดระวัง ชายหนุ่มคนที่ย่างกรายเข้ามาในชีวิตมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเข็ดขยาดกับความรัก "ไม่เข็ดค่ะ" ยังอยากมีแฟน แต่เพิ่มความระวังมากขึ้นมากกว่า" สาวอารมณ์ดี มีมนุษยสัมพันธ์ ยืนยันความรู้สึก หากบอกว่า ความคิดของทั้งสองสาวเปรียบเสมือนตัวแทนความรู้สึกของผู้หญิงอีกหลายคนที่เคยอกหัก คงไม่ผิด แม้แต่ ใหม่ เจริญปุระ ซูเปอร์สตาร์ ยังเคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์หัวสีฉบับหนึ่งถึงประเด็นนี้ว่า "ค่อนข้างระแวงระวัง เพราะเคยผ่านความรักที่ไม่สมหวังมาก่อน"

          นอกจากอาการอกหัก จะมีส่วนทำให้มุมมองที่มีต่อความรักเปลี่ยนไป นักจิตวิทยาท่านหนึ่งยังชี้แจงไว้ว่าประสบการณ์จากการรับรู้ หรือตกอยู่ในสภาพครอบครัวที่แตกร้าว และเกิดการหย่าร้าง ก็มีผลต่อการตัดสินใจในการใช้ชีวิตคู่ยากมากขึ้นเช่นเดียวกัน

          กลัวสูญเสียอิสระภาพ

          สำหรับคนที่เคยใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมเพียงคนเดียวมาโดยตลอด แม้ว่าจะใช้ชีวิต อยู่ร่วมกับคนอื่นบ้างในบางโอกาส แต่ไม่เคยมีแฟน ส่วนใหญ่คุ้นชิน และรักชีวิตอิสระ การไปไหนมาไหน เพียงลำพังกลายเป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่ง โดยที่ไม่รู้สึกขาดอะไร จะรู้สึกต่อเมื่อไม่ได้รับอิสระ "ถ้ามีแฟนต้องไม่รู้สึกอึดอัด หรือสูญเสียชีวิตที่เคยเป็นเคยอยู่...ซึ่งคงหายาก เพราะผู้ชายไทยส่วนใหญ่คิดครอบครอง ประกอบกับเป็นคนที่มองบทบาทของการเป็นภรรยา หรือแม่ว่าคือภาระสำหรับผู้หญิง และไม่ต้องการให้ใครมาคาดหวังให้เป็นแบบนั้น ตรงนี้อาจเป็นเหตุผลลึกๆ ข้อหนึ่ง ที่ทำให้หลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปสู่บทบาทของภรรยา และแม่ไป โดยไม่รู้ตัว" ราณี นักแปลอิสระเผยความในใจ

          ความหวงแหนต่อวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ คืออีกประเด็นหนึ่ง ที่บรรดาสาวโสด ทั้งที่เคยมีแฟนและไม่มีมาก่อน ให้ความสำคัญ กลุ่มแรกให้เหตุผลว่า หวงแหนความเป็นส่วนตัวและต้องการใช้เวลาที่หายไป เพราะตอนที่คบกับแฟนทุ่มเทเวลาไปให้หมด หลังจากเลิกลากันไป ทำให้มีโอกาสใช้เวลากับตัวเองเต็มที่ พร้อมกับการค้นพบว่า ตนเองสามารถอยู่ หรือทำอะไรได้คนเดียวอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องมีใครมาให้รู้สึกกำลังใจ

          "อยากชดเชยช่วงเวลาที่ควรจะเป็นของตัวเอง อยู่กับครอบครัว เพื่อน ๆ และงาน ซึ่งหลังจากที่ได้ให้เวลากับทุกอย่างเต็มที่ ทำให้ได้รับความสุขอีกรูปแบบหนึ่งกลับมาตอนนี้เริ่มรู้สึกหวงแหน แม้กระทั่งเวลาที่จะดูทีวี" เนตรนภา แจงเหตุผลส่วนตัวเพิ่มเติม

          "ตอนนี้สบายขึ้น มีอิสระ อยากทำอะไรที่ตัวเองต้องการทำได้มากขึ้น" ศิรากล่าวเสริม "บางครั้ง เราต้องการอยู่หรือให้เวลากับตัวเองบ้าง ไม่ใช่ต้องให้ใครคอยรับคอยส่งทุกวัน หรือทำตัวใกล้ชิดติดกันตลอด" เพื่อนสาวของศิรา แจงเหตุผลสนับสนุน

          รายละเอียดของทั้ง 4 สาว อาจแตกต่างกัน หากแต่มีจุดประสงค์ร่วมกัน คือยังรักอิสระภาพ

          เวลาหมดไปกับการทำงาน

          หลังจากที่มีการเปิดทาง ให้ผู้หญิงก้าวเข้าไปสู่ตำแหน่งหน้าที่การงานระดับแถวหน้าในทุกสาขาอาชีพมากขึ้นหลายคนเมื่อก้าวเข้าไปแล้ว มักจะทุ่มเทเวลาให้กับงานอย่างเต็มที่ เพื่อความสำเร็จ โดยเฉพาะรายที่ต้องทำงานแข่งขันกับผู้ชาย บางคนถึงกับออกปากว่า ช่วงเวลาที่ดีสำหรับการมีแฟน กลับเป็นเวลาที่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานจนลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป "7-8 ปี ที่ใช้เวลาอยู่กับงานมาโดยตลอดเงยหน้าขึ้นมาอีกที อายุก็เริ่มมากขึ้น ยิ่งมีคุณวุฒิค้ำคออยู่ด้วย การที่จะมีใครสักคนจึงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มองใคร หรือไม่มีใครเข้ามา เพราะได้รับสิ่งอื่นทดแทน เช่น มีโอกาสได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากการทำงานไม่เหงาเพราะมีเพื่อน มีบ้างบางอารมณ์ที่อยากมีคนพิเศษสักคน แต่ไม่ถึงชั้นต้องทำทุกวิถี อย่างเช่น นางเอกหนังเรื่องบริตเจต โจนส์ เพราะคิดว่าน่าจะเอาเวลาไปสร้างสรรค์อย่างอื่นให้ชีวิตมากกว่า" โปรดิวเซอร์สาวแจงเหตุผลที่เธอยังคงครองตัวอยู่เป็นโสด

          รตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในสายงานราชการ ซึ่งนั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย อีกรายหนึ่งที่ยอมรับว่าให้เวลากับงานจนลืมเรื่องมีแฟน "งานที่รับผิดชอบ ต้องเดินทางตลอด บางอาทิตย์ทำมากกว่า 5 วันใน 1 สัปดาห์ ช่วงที่ปฏิบัติงานก็ไม่มีใครเข้ามา คิดว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเราอยู่ในตำแหน่งที่สูง คนอาจจะเข้าใจว่ายากที่จะเข้าใกล้หรือกลัวเอื้อมไม่ถึงหรือเปล่าไม่ทราบ"

          ผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง

          การใช้ชีวิตที่ค่อนข้างโลดโผนของผู้ชาย ทำให้เข้าข่ายเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงและอายุขัยของผู้หญิงยืนยาวกว่าผู้ชายสังเกตได้ว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุถึงชั้นสูญเสียชีวิต ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชาย และจำนวนผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิงเป็นทุนเดิม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้หญิงจะอยู่เป็นโสดมากขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่อาจมองข้าม คือนอกจากจำนวนผู้ชายมีน้อยกว่า ส่วนหนึ่งยังเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ "ผู้ชายที่มีอยู่ทั้งหมด ครึ่งหนึ่งแต่งงานไปแล้วส่วนที่เหลือเป็นกระเทย กับเกย์ แล้วผู้ชายที่ไหนจะเหลือมาถึงเธอ" คือการล้อเลียนจากข้อเท็จจริง ที่บรรดาเพื่อนสาวประเภทสองมักพูดยั่วเย้าเพื่อนผู้หญิงที่ยังไม่มีแฟน

          ทั้งหมดทั้งมวลจึงล้วนเป็นเหตุเป็นผล ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ยืนยันในความเป็นโสดของตัวเอง อย่างไม่ต้องเกรงใจใคร




เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เหตุผลมากมาย ที่ทำให้ยังเป็น สาวโสด อัปเดตล่าสุด 2 ธันวาคม 2552 เวลา 10:48:38
TOP