เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ที่หนีบผม น่าจะเป็นไอเทมเสริมสวยที่สาว ๆ สมัยนี้มีไว้ประจำตัวกันทุกคน เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเนรมิตผมตรงให้คุณได้ เหมาะกับสาวที่ไม่ได้มีผมเรียบตรงตามธรรมชาติ แต่บางคนอาจรู้สึกว่า ขนาดใช้ที่หนีบผมแล้วก็ยังหนีบผมได้ไม่เรียบสลวยอย่างใจ บางทีคุณอาจพลาดกลเม็ดเคล็ดลับเด็ด ๆ ไปก็ได้ค่ะ เราจึงขอนำเคล็ดลับให้การใช้ที่หนีบผมอันเก่งของคุณให้เจ๋งเต็มประสิทธิภาพกว่าเดิมมาฝาก และขอเพิ่มเติมเทคนิคเด็ดอื่น ๆ ให้คุณใช้งานที่หนีบผมได้มากกว่าแค่เอาไว้รีดผมให้เรียบด้วยนะ มาดูกันเลย
1. มาทำความเข้าใจกันนะว่าที่หนีบผมของคุณเป็นประเภทไหน ที่หนีบผมต่าง ๆ ที่ว่าหน้าตาเหมือน ๆ กัน ความจริงแล้วก็ยังแยกแยะออกไปได้เป็น 4 ประเภท ตามแต่วัสดุที่ใช้ อันได้แก่ ทัวร์มาลีน เซรามิก ไทเทเนียม และแซฟไฟร์ ประเภทที่นิยมกันมากที่สุดก็เห็นจะเป็นวัสดุสองตัวแรก โดยเซรามิกมีคุณสมบัติในการส่งผ่านความร้อนไปยังเส้นผมได้ดี เมื่อหนีบผมจึงเรียบได้ไว ประหยัดทั้งเวลาและไม่ต้องใช้ความร้อนสูงมาก ส่วนที่หนีบผมที่ทำมาจากทัวร์มาลีน ก็มีคุณสมบัติในการสร้างประจุลบเพื่อลดความชี้ฟูของเส้นผม อีกทั้งยังเพิ่มแรงกดยามใช้ที่หนีบผม ทำให้ผมที่หนีบแล้วตรงสลวยเป็นพิเศษนั่นเอง
2. เลือกใช้ขนาดที่พอดี การเลือกใช้ขนาดของที่หนีบผมที่เหมาะสม จะช่วยให้การหนีบผมของคุณง่ายขึ้น และลดโอกาสที่จะทำร้ายเส้นผมตัวเอง ที่หนีบผมขนาดเล็กที่มีแถบแผ่นให้ความร้อนกว้าง 1/2-1 นิ้ว เหมาะกับคนผมสั้น ใช้ได้ทั้งผมเส้นเล็กและเส้นใหญ่ ส่วนที่หนีบที่มีขนาด 1 1/2-2 นิ้ว ก็จะเหมาะกับการใช้หนีบผมยาว ๆ ใช้ได้ทั้งผมที่มีเส้นเล็กและเส้นใหญ่เช่นกันค่ะ
3. ใช้ที่หนีบกับผมที่แห้งสนิทเท่านั้นการใช้ความร้อนกับผมที่กำลังเปียกอยู่ถือเป็นเรื่องผิดมหันต์ เพราะจะทำให้ผมอ่อนแอลงกว่าเดิม ฉะนั้นก่อนที่จะหนีบผม จึงต้องแน่ใจว่าผมของคุณไม่เปียกชื้น ไม่ควรเป็นผมที่เพิ่งแห้งหมาดจากการสระผม หรือผมที่เพิ่งลูบเซรั่มหรือลีฟอินคอนดิชั่นเนอร์ลงไป จำเป็นต้องรอสักครู่ให้ครีมที่บำรุงซึมลงสู่เส้นผม และผมแห้งดีแล้วจึงค่อยหนีบนะจ๊ะ
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนหนีบผมทุกครั้ง ความร้อนนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจขอเส้นผม แต่ก็ดันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราจัดทรงรวมทั้งหนีบผมได้ง่ายเสียอย่างนั้น เพื่อใช้ประโยชน์จากความร้อนได้โดยไม่ทำร้ายเส้นผมมากเกินไป สาว ๆ จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนที่จะลงมือหนีบผมทุกครั้งนะคะ
5. ปรับระดับอุณหภูมิให้เหมาะสม ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการหนีบผมนั้นขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละคน ซึ่งคุณก็ควรเลือกใช้ที่หนีบผมที่สามารถปรับระดับความร้อนได้ โดยผมที่ทำสี ถูกทำร้ายจากความร้อนและเคมีมาก่อน รวมถึงผมเส้นเล็ก ให้ใช้ความร้อนสูงสุดได้ไม่เกิน 150 องศาเซลเซียส ถ้าเส้นผมอยู่ในสภาพปกติใช้ความร้อนได้ระหว่าง 150-180 องศาเซลเซียส ส่วนผมที่ค่อนข้างหยาบ เส้นใหญ่หนา ให้ใช้ความร้อนที่ระดับ 180-220 องศาเซลเซียสค่ะ
6. แบ่งผมเป็นส่วน ช่วยให้หนีบผมได้เรียบกว่าเดิม แทนที่จะสุ่มกำผมขึ้นมาหนีบไปเรื่อย ๆ การแบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ จะช่วยให้คุณหนีบผมได้เรียบกว่าเดิม โดยควรแบ่งผมออกเป็น 3 ระดับ และเริ่มหนีบจากชั้นผมที่อยู่ด้านล่างสุดก่อน แล้วค่อย ๆ เขยิบขึ้นไปบนศีรษะ เท่านี้ก็จะช่วยให้คุณหนีบผมได้เรียบสวยสม่ำเสมอทั่วทั้งศีรษะแล้ว
7. แบ่งผมเป็นช่อเล็ก ๆ นอกจากแบ่งผมออกเป็นชั้น ๆ แล้ว ในแต่ละชั้นก็ให้แบ่งออกเป็นช่อเล็ก ๆ ด้วย การหนีบผมที่ละช่อเล็ก ๆ จะทำให้เส้นผมถูกหนีบโดนความร้อนทั่วถึงทุกเส้น จึงเรียบสวยไม่มีผมส่วนไหนยังขยุกขยิกยุ่งเหยิงให้ต้องเสียเวลามาแก้ไขซ้ำ
8. ค่อย ๆ หนีบผมแต่ละช่อช้า ๆ ยามที่หนีบผม ให้คุณค่อย ๆ ลากมือลงมาช้า ๆ เพื่อให้เส้นผมได้สัมผัสกับแถบความร้อนอย่างทั่วถึง ในเวลาที่นานพอที่จะปรับเส้นผมให้เรียบได้ หากว่าลากมือผ่านไปเร็ว ๆ ผมก็ยังไม่เรียบอย่างใจ แล้วก็ต้องวนมาหนีบซ้ำช่อเดิมอีก ถ้าเป็นเช่นนี้ผมเส้นผมของคุณก็จะเสียง่าย เพราะว่าสัมผัสกับความร้อนมากเกินความจำเป็นนั่นเอง
9. ใช้ที่หนีบสร้างคลื่นผม (wave)อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ที่หนีบผมไม่ได้ทำได้แค่ผมหนีบตรงอย่างเดียว มันยังสามารถสร้างคลื่นผมอ่อน ๆ ให้เรือนผมได้ด้วย โดยให้คุณฉีดสเปรย์จัดทรงแบบอ่อน หรือ salt spray ลงไปบาง ๆ จากนั้นถักเปียหลาย ๆ ช่อทั่วศีรษะ แล้วใช้ที่หนีบผมหนีบลงไปปนเปียเหล่านั้น เมื่อคลายเปียออกก็จะได้ลอนผมอ่อน ๆ เพิ่มเสน่ห์ได้อีกสไตล์หนึ่งค่ะ
10. ใช้ที่หนีบสร้างลอนผม (curl)นอกจากสร้างคลื่นผมได้แล้ว ที่หนีบผมก็ยังสร้างลอนผมได้เช่นกัน โดยเป็นลอนอ่อน ๆ คลาย ๆ ให้ลุคชิล ๆ เริ่มจากการแบ่งผมเป็นช่อเล็ก ๆ ประมาณ 1 นิ้ว พันผมไปรอบ ๆ ที่หนีบ ทิ้งไว้ครู่หนึ่งแล้วค่อย ๆ ดึงที่หนีบออกช้า ๆ คล้ายกับการดัดริบบิ้นให้งอนด้วยกรรไกร เท่านี้ก็จะได้ลอนผมอ่อนเด้งสวยอย่างใจแล้ว
11. ล็อกสีจากชอล์กระบายสีผมใช้ความร้อนจากที่หนีบผม ช่วยล็อกสีจากการทำสีผมด้วยชอล์กให้ติดทนนาน เพียงใช้ที่หนีบผมหนีบไปที่ช่อผมส่วนที่ได้ระบายสีชอล์กลงไป เท่านี้สีก็จะติดเส้นผมทนนานขึ้น ไม่เลอะเทอะเสื้อผ้าด้วย
12. ใช้ที่หนีบผมลอกพาเลทเครื่องสำอาง เมื่อสาว ๆ ใช้แป้งอัดแข็ง บลัชออน หรือว่าอายแชโดว์หมดแล้ว อาจจะรู้สึกเสียดายตลับสวย ๆ อยากจะเก็บมาใช้งานต่อ แต่ก็ติดที่ว่ามีพาเลทโลหะเปล่า ๆ อยู่ข้างใน ให้ลองใช้ที่หนีบผมนาบลงไปที่พาเลทนั้น เพื่อช่วยให้กาวที่ยึดพาเลทไว้กับตลับละลาย เท่านี้ก็จะแกะพาเลทออกมาได้โดยง่าย แล้วคุณก็จะได้ตลับเปล่า ๆ ที่สวยถูกใจไปใช้งานต่อแล้ว
13. ใช้เป็นที่รีดผ้าจิ๋ว ในยามที่คุณพบรอยยับเล็ก ๆ บนเสื้อผ้า แต่ก็ไม่อยากจะกางโต๊ะรีดผ้าออกมาให้เสียเวลา ให้ลองใช้ที่หนีบผมแทนดูสิคะ มันสามารถใช้รีดรอยยับจุดเล็ก ๆ ได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากเตารีดเลยล่ะ โดยเฉพาะ ตามคอเสื้อ ปกเสื้อ แขนเสื้อ ชายกระโปรง หรือริบบิ้น แต่ก็ต้องระวังไม่ใช้มันกับผ้าไหมนะคะ เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าได้รับความเสียหายได้
14. ใช้ที่หนีบผมแล้ว อย่าลืมหาช่วงพักเส้นผมจากความร้อนบ้างนะ ใช้ที่หนีบผมแต่งทรงผมหลากสไตล์มาจนเพลิน ก็อย่าลืมหาช่วงเว้นว่างพักเส้นผมจากความร้อนบ้างนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นผมคงจะแห้งกรอบ จัดทรงอะไรก็ไม่สวย ถ้าผมแห้งแบบนี้ ถึงหนีบผมไปก็ดูไม่สวยมีชีวิตชีวาเนอะ
15. อย่าลืมทำความสะอาดที่หนีบผมบ้าง ที่หนีบผมที่ผ่านการใช้งานมานาน อาจมีเส้นผมที่ขาดติดอยู่ หรือมีผลิตภัณฑ์แต่งทรงผมจับตัวเป็นคราบเหนียว ๆ ทิ้งเอาไว้ ซึ่งอาจทำให้การใช้งานมันในครั้งต่อไปได้ไม่สะดวกและสะอาดนัก เพราะฉะนั้นสาว ๆ ก็ต้องไม่ลืมทำความสะอาดที่หนีบผมอันเก่งของตัวเองด้วย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ มาเช็ด ส่วนซอกเล็กซอกน้อยที่เช็ดยาก ก็ให้ใช้คอตตอนบัดเข้าช่วยอีกแรง รับรองว่าคราวนี้ที่หนีบผมอันเก่งของคุณก็จะสะอาดเกลี้ยงเกลาน่าใช้ เหมือนเพิ่งซื้ออันใหม่เลยล่ะค่ะ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 
