เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ us.amii สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟสบุ๊ก จากนี้ไป จนนิรันดร์
ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้เทรนด์ความงามเกี่ยวกับเสริมแต่งแก้ไขใบหน้า ด้วยวิธีการศัลยกรรม นับเป็นเรื่องที่สาว ๆ ให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้หลายคนที่เคยตัดสินใจทำศัลยกรรมโดยไม่ได้คำนึงถึงผลข้างเคียงในอนาคต ได้รับผลกระทบจากการทำศัลยกรรมเป็นจำนวนมาก วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำประสบการณ์ตรงจาก คุณแจ๊คกี้ ที่เคยผ่านการทำศัลยกรรมด้วยการฉีดสารไบโอใต้ตา จนทำให้เกิดผลเสียกับผิวหนังบริเวณนั้น และต้องรีบทำการผ่าตัดออก โดยมี คุณ us.amii สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันด้วย งานนี้เรียกได้ว่าช่วยเตือนใจและเป็นประโยชน์ให้กับสาว ๆ ที่กำลังสนใจอยากทำศัลยกรรมได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
รูปหลังผ่าในห้องพักฟื้น และหน้าตาหลังผ่าวันแรกค่ะ
พยาบาลและคุณหมอมือเบามาก ๆ ปกติเป็นคนกลัวเข็มมาก แต่ไม่รู้สึกเจ็บเลยตั้งแต่เจาะให้น้ำเกลือ และฉีดยาสลบ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ หายบวมเร็วมาก และแผลก็สวยงามแห้งเรียบร้อยดี ไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ
ตั้งใจไปร้อยไหม แต่คุณหมอเห็นใต้ตาที่เคยฉีดสารไบโอเทคนิคจากเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนแล้วตกใจ เพราะเนื้อเยื่อแถวใต้ตาที่เราเคยฉีดไว้มันตายหมด ผิวหนังบริเวณใต้ตาบางจนเห็นเส้นเลือด จะร้อยไหมก็คงจะยังทำไม่ได้ ต้องผ่าตัดเอาสารไบโอใต้ตาออกก่อน พอคุยกับคุณหมอเสร็จ และเช็กเงินในกระเป๋าว่าพอจ่ายค่าผ่าตัด เราเลยตัดสินใจที่จะผ่าตัดในวันนั้น แอบดีใจมาก ๆ ที่คุณหมอยอมผ่าให้ เพราะเป็นเคสที่ยากมาก ขนาดหมอที่เมืองไทยยังไม่มีหมอคนไหนที่ยอมผ่าให้ เพราะกลัวจะทำพลาด เพราะเป็นงานแก้ไขที่ค่อนข้างยากและอยู่ใต้ตา ต้องขอยอมรับหมอที่ประเทศเกาหลี และโดยเฉพาะคุณหมอที่ผ่าตัดให้เรา เก่งมาก ประทับใจมาก เพราะเห็นความตั้งใจ ของคุณหมอที่ยืนผ่าตัดให้เรา 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ
ป.ล. ที่เห็นสีเหลือง ๆ ใต้ตา คือ ยาเหลืองเอาไว้ฆ่าเชื้อค่ะ
ป.ล. 2 พี่แจ๊คกี้ เพิ่งไปทำมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ค่ะ
หมายเหตุ* แก้สารไบโอนี้ทำที่เกาหลีใต้นะคะ ไม่ได้ทำที่ประเทศไทย เพราะไปหาหมอไทยแล้ว ท่านไม่ยอมแก้ (ที่ใต้ตาให้) ถ้าใครเคยฉีดสารไบโอที่ใต้ตาจะรู้ดีเชียวล่ะ ว่าทำไมหมอไม่ยอมแก้ให้ ที่เห็นก็มีหมอท่านหนึ่งที่ไทยยอมแก้ให้เฉพาะที่จมูก แต่ต้องรอคิวนานมากค่ะ รอไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องมาทำที่เกาหลีพี่แจ๊คกี้ได้ฉีดสารไบโอนี้ที่ใต้ตา และจมูกนะคะ
ราคาแก้ก็แพงตามค่าครองชีพ เพราะปกติแก้จมูกที่ไทยก็แพงแล้ว
เงินพอแค่แก้ตา เอาตาออกก่อนค่ะ ส่วนจมูกเก็บเงินก่อน 555
บางคนก็บอกว่า ถ้าไม่เจ็บไม่ปวด ก็ทิ้งไว้นั่นแหละ
แต่ตาพี่แจ๊คกี้เจ็บค่ะ เลยหาทางเอาออกมานานหลายปีแล้ว
ส่วนจมูกกำลังตัดสินใจค่ะ อาจจะไม่เอาออกเพราะไม่เจ็บ 555
โปรดสังเกตแผลเย็บใต้ตาค่ะ เรียบเนียน แห้ง และไม่มีน้ำเหลืองหรือหนองเยิ้มออกมา ซึ่งปกติร่างกายคนเราถ้ามีแผล หลังจากนั้น 1-3 วัน ก็จะมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมา แต่แผลที่คุณหมอเย็บแห้งสนิทตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ดีมากค่ะไม่ต้องดูแลอะไรมากนัก
พรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ 7 พี่แจ๊คกี้จะเอาไหมที่เย็บออกแล้วค่ะ (ที่มันยังดูบวมเพราะเมื่อวานพี่แจ๊คกี้เห็นในเนตว่าเอาน้ำร้อนมาประคบจะช่วยให้แผลหายบวมเร็วขึ้น ปรากฏว่า จากที่กำลังยุบ บวมเป่งขึ้นมาอีก จนต้องรีบเอาน้ำแข็งมาประคบ แทบไม่ทัน โชคดีที่รู้ตัวเร็วนะคะ เลยยุบตัวลงไป) ใครที่ผ่าตัดศัลยกรรม ควรประคบเย็นนะคะ อย่าเผลอประคบร้อนล่ะ
นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ตรงที่ช่วยเตือนสติและกระตุ้นให้สาว ๆ หันกลับมาไตร่ตรอง คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมได้เป็นอย่างดี ยังไงก็ตามแต่ อย่าลืมว่าการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยนั้น บางครั้งก็แลกมากับความเสี่ยง ผลข้างเคียง และเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว..
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 
