x close

7 สัญญาณเตือนว่าควรโละเครื่องสำอางทิ้งได้แล้ว

เครื่องสำอาง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         เครื่องสำอาง ก็มีวันหมดอายุเหมือนของใช้อื่นทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ แถมอายุของเครื่องสำอางบางชนิดก็ยังสั้นเกินกว่าที่คิด แต่เชื่ออยู่แล้วล่ะว่า สาว ๆ หลายคนก็เกิดอาการงก ไม่ยอมทิ้งเครื่องสำอางที่ยังไม่หมดทิ้งลงไปในถังขยะง่าย ๆ หรอก ซึ่งใครที่เป็นอยู่ควรหยุดพฤติกรรมนี้ไปเถอะค่ะ เพราะคุณไม่ควรเอาผิวหน้าสวย ๆ มาเสี่ยงรับเครื่องสำอางที่หมดอายุเลย แต่หากใครไม่รู้ว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องสำอางหมดอายุไปแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมได้นำ 7 สัญญาณเตือนว่าควรโละเครื่องสำอางทิ้งมาฝากสาว ๆ กันแล้วจ้า

     1. ใช้มาหลายเดือนแล้ว

         เครื่องสำอางบางชนิด เช่นพวกรองพื้นหรือแป้งอาจจะอยู่ได้นานเป็นปี แต่เครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตา อย่างมาสคาร่า ควรจะใช้ไม่เกิน 2-3 เดือนหลังจากเปิดใช้งานแล้ว เพราะเมื่อคุณเปิดใช้งานมาสคาร่า พวกสิ่งสกปรกจะเข้าไปอยู่ในหลอดมาสคาร่าและจับตัวอยู่ตามแปรงปัด ทำให้คุณภาพการใช้งานของมาสคาร่าเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ หากเสียดายแล้วฝืนใช้ไปอีกนาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ ฉะนั้นเมื่อซื้อมาแล้ว ให้เขียนวันที่ซื้อลงไปบนโพสอิทแล้วแปะไว้บนหลอดมาสคาร่าเลยจะได้ไม่ลืม

     2. มีกลิ่นไม่ดี

         หากเครื่องสำอางที่มาในรูปแบบน้ำเหลว ๆ หรือแบบผงส่งกลิ่นแปลกไปจากตอนที่ซื้อมาตอนแรก ก็อย่าคิดเสียดายแล้วเสี่ยงใช้ไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ เพราะนั่นอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหน้าของคุณได้เกินคาด เอาเป็นว่าโยนทิ้งถังขยะแล้วซื้อมาใช้ใหม่เถอะ เกิดเป็นอะไรมาไม่คุ้มกับค่ารักษาพยาบาลจริง ๆ เลยล่ะ

     3. เนื้อเครื่องสำอางเปลี่ยนไป

         ถ้าสังเกตเห็นว่าเนื้อลิปสติกเริ่มแห้งจับกันเป็นก้อนหรือเนื้ออายไลน์เนอร์เริ่มไม่เนียนลื่นเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ แล้ว คุณควรจะโยนของเหล่านั้นทิ้งไปแล้วหาซื้อใหม่มาใช้ซะ เพราะการที่เนื้อเครื่องสำอางเปลี่ยนไป ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกให้คุณควรทิ้งมันไปได้แล้ว อย่าไปเสียดายแม้ว่าเครื่องสำอางเหล่านั้นจะแพง เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวคุณ บอกได้เลยว่าค่ารักษาอาจแพงกว่าราคาเครื่องสำอางพวกนั้นซะอีก

     4. สีเปลี่ยนไป

         เครื่องสำอางที่มีสีสันและหมดอายุเร็ว อย่างลิปกลอส หากคุณภาพเริ่มเสื่อมแล้ว สีสันของมันจะเปลี่ยนไป เพราะวิธีการใช้ลิปกลอสก็เป็นแบบจิ้มจุ่มคล้ายมาสคาร่า จึงทำให้สิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่ติดบนแปรงหลังจากทาปาก เข้าไปผสมรวมกับเนื้อลิปกลอสอยู่ในหลอด จึงทำให้เสื่อมคุณภาพเร็ว ฉะนั้นหากเริ่มสังเกตว่าสีสันเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ก็ไม่ต้องเก็บไว้ให้รกโต๊ะเครื่องแป้ง โยนทิ้งไปเถอะนะ

     5. เนื้อเครื่องสำอางแยกออกจากกัน

         ปัญหาเนื้อเครื่องสำอางแยกออกจากกัน จะเกิดขึ้นกับพวกเครื่องสำอางเนื้อเหลว อย่างพวกรองพื้น เมื่อสังเกตไปที่ขวดรองพื้นแล้วเนื้อรองพื้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ก็อย่ามัวคิดเยอะ ให้เอาไปทิ้งใส่ถังขยะซะเถอะ เพราะหากยังนำมาใช้อยู่ด้วยความเสียดาย ไม่แน่ผิวหน้าอาจจะมีปัญหาจนต้องไปหาหมอผิวหนังเสียเงินเยอะอีก

     6. จำวันที่ซื้อมาไม่ได้

         หากจำวันที่ซื้อเครื่องสำอางมาไม่ได้อย่างแน่ชัด แต่จำได้ว่าใช้เครื่องสำอางชิ้นนี้มานานแล้ว ให้ลองเช็กเนื้อ กลิ่น และสีของเครื่องสำอางดูว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ หากไม่แน่ใจก็อาจจะทิ้งไปเลยก็ได้ เพราะการใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุมานานโดยไม่รู้ตัวนั้น ช่างเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อผิวหน้าได้มากเกินคาดจริง ๆ

     7. ถึงวันหมดอายุตามฉลาก

         ถ้าซื้อเครื่องสำอางมาโดยมีฉลากวันหมดอายุแบบชัดเจนติดมาด้วย นับว่าคุณน่ะโชคดีสุด ๆ เลย เมื่อถึงวันหมดอายุตามฉลากแล้ว แต่ยังสังเกตเห็นว่าเครื่องสำอางไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปทั้งสี กลิ่น และเนื้อของมัน ก็อย่าไปคิดว่ายังใช้ได้อยู่ ให้โฟกัสที่ฉลากวันหมดอายุที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์เป็นหลัก หากหมดอายุแล้วก็แค่โยนทิ้งเท่านั้นเอง อย่าไปเสียดายเลยนะคะ


         หากใครสังเกตเลยว่า มีสัญญาณเหล่านี้เตือนคุณบ้างหรือไม่ ให้ลองกลับไปเช็กเครื่องสำอางทุกตัวที่มีอยู่อีกรอบหนึ่ง แล้วค่อยทยอยโละเครื่องสำอางที่ส่งสัญญาณเหล่านี้ทิ้งไปซะ อย่าได้ไปเสียดายเลยนะคะ











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 สัญญาณเตือนว่าควรโละเครื่องสำอางทิ้งได้แล้ว อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2557 เวลา 13:23:24 1,589 อ่าน
TOP