x close

ชินจูอา ศราวุฒิ รัชนกูล เปิดใจคู่รักข้ามขอบฟ้าครั้งแรก หลังแต่งงาน





ชินจูอา ศราวุฒิ รัชนกูล เปิดใจคู่รักข้ามขอบฟ้าครั้งแรก หลังแต่งงาน


ชินจูอา ศราวุฒิ รัชนกูล เปิดใจคู่รักข้ามขอบฟ้าครั้งแรก หลังแต่งงาน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภทาพประกอบจาก Instagram polyplus_jad_hai

              ชินจูอา (Shin Joo Ah) ควงสามี ศราวุฒิ รัชนกูล มาเผยเรื่องราวความรักข้ามขอบฟ้าสุดโรแมนติกของ ชินจูอา กับทายาทสีเจบีพี ในรายการวีวีไอพี (18 ส.ค. 57)


              ในช่วงประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา หลายคนคงเคยได้ยินข่าวงานแต่งงานของ ศราวุฒิ รัชนกูล และนางเอกเกาหลี ชินจูอา (Shin Joo Ah) ที่เพิ่งจัดงานแต่งงานสุดโรแมนติกไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยการแต่งงานของทั้งคู่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในประเทศไทยและเกาหลีใต้ที่พากันฮือฮา เพราะสาวสวยที่สามารถพิชิตใจ คุณศราวุฒิ ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัท เจ.บี.พี.อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด เป็นนักแสดงสาวชื่อดังของประเทศเกาหลีใต้

              ล่าสุด รายการวีวีไอพี (18 สิงหาคม 2557) ได้เชิญคุณศราวุฒิ และคุณชินจูอา มาเล่าเรื่องราวความรักข้ามขอบฟ้าของทั้งคู่ โดยคุณศราวุฒิ เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัท เจ.บี.พี.อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด หรือ สีเจบีพี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เมื่อถามคุณชินจูอา ว่าทราบหรือไม่ว่าคุณศราวุฒิ เป็นเจ้าของบริษัทสีชื่อดังของเมืองไทย เธอก็บอกว่า ครั้งแรกที่รู้จักกันนั้นไม่ทราบ แต่เมื่อแต่งงานกันแล้วถึงทราบ

              เมื่อถามว่าทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไร คุณศราวุฒิ เล่าว่า ตนมีเพื่อนเป็นคนเกาหลีก็มีการพูดคุยติดต่อกันตลอด อยู่ ๆ เพื่อนก็ติดต่อมาว่ามีน้องที่สนิทกันจะมาเที่ยวที่เมืองไทยอยากให้ตนช่วยดูแลเขาหน่อย ซึ่งน้องคนนั้นก็คือคุณชินจูอา เพื่อนก็เลยนัดให้เรามาเจอกัน แต่ตอนแรกก็ยังไม่ได้คิดอะไร ก็เห็นว่าเขาน่ารักดี แต่ยังคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องและตอนแรกตนไม่รู้ว่าเขาเป็นนางเอกชื่อดังของเกาหลี ต่อมาประมาณ 1 เดือน ตนก็บินไปหาเขาที่เกาหลีใต้ เพราะตนคิดว่าเราเพิ่งรู้จักกันยังไม่ทันจะรู้จักกันดีเลย ตนเลยสัญญากับเขาว่าเดี๋ยวจะไปหาที่โซล

              ในขณะที่ ชินจูอา บอกว่า ตอนนั้นมาเที่ยวกับเพื่อนเฉย ๆ ไม่ได้มาทำงาน มาเที่ยวประมาณ 1 อาทิตย์ ก็รู้สึกดีเพราะตอนที่มาเที่ยวแล้วทางคุณศราวุฒิ ไปส่งที่สนามบินและคอยดูแลความปลอดภัยจนขึ้นเครื่อง และก็รู้ว่าคุณศราวุฒิ ชอบเธอแล้ว ซึ่งจากที่เจอกันครั้งแรก เราห่างกันแค่ 15 วันเท่านั้น ก็ติดต่อกันมาเรื่อย ๆ ก็เป็นอะไรที่รู้สึกว่ามหัศจรรย์

              คุณศราวุฒิ เล่าต่อว่า ในช่วงแรก ๆ ที่คุยกันก็ติดต่อกันผ่านทางโปรแกรมแชท Kakao Talk หลังกลับมาจากเกาหลีก็เปลี่ยนมาเป็นโปรแกรม Tango เพื่อจะได้คุยกันแบบเห็นหน้ากัน ตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วว่าอยากรู้จักมากกว่านี้ พอกลับมาเมืองไทยก็เริ่มทราบว่าเขาเป็นนักแสดงของประเทศเกาหลี ซึ่งก่อนที่จะแต่งงานกันตนได้บินไปเกาหลีมากกว่า 10 ครั้ง และถึงแม้เราจะอยู่กันคนละที่แต่เราก็คุยกันทุกวัน วันละ 3-4 ชั่วโมง และสิ่งที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่นั้น เป็นเพราะตอนที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข เราไปหาเขาก็ได้รับการดูแลอย่างดี ทำอาหารให้ทาน จัดเตรียมเสื้อผ้าให้

              เมื่อถามว่าประทับใจคุณศราวุฒิ ตรงไหน ชินจูอา ก็ตอบเป็นภาษาไทยว่า "ใจ" และถามว่าคุณศราวุฒิ  หล่อไหม เธอตอบเป็นภาษาไทยอีกว่า "นิดหน่อย" เมื่อถามว่าพ่อ-แม่รู้สึกอย่างไรที่ได้เจอคุณศราวุฒิครั้งแรก "ได้พูดกับพ่อ-แม่ไว้บ้างแล้ว แต่พ่อ-แม่คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น แต่พอเจอกันจริง ๆ พ่อแม่ก็ตกใจ"




             
สำหรับอุปสรรคด้านภาษา คุณศราวุฒิ บอกว่า ในตอนแรกที่คุยกันมีปัญหาด้านภาษาเพราะภาษาอังกฤษของเขาปกติฟังได้แต่ไม่ได้ใช้บ่อยเลยพูดกันติด ๆ ขัด ๆ บ้าง ต่อมาตนก็เริ่มศึกษาภาษาเกาหลีเพื่อจะได้พูดคุยกับครอบครัวของเขาได้ ในตอนแรกครอบครัวของ คุณชินจูอา ยังไม่ค่อยชอบตน เพราะเขาไม่รู้ที่มาที่ไปของตนและภาษาก็ยังพูดไม่ได้ เขาก็คงห่วงลูกเขา พอผ่านครั้งแรกไปทางพ่อแม่เขาก็ยังสงสัยเราและทางคุณชินจูอา ก็ยังมีโอกาสได้เจอกับคนในเกาหลีอีกเยอะเลยไม่อยากให้มาเสี่ยงกับเรา จากนั้นก็เริ่มห่างกันประมาณ 2 เดือน เราก็ถอยกลับมาตั้งหลักแล้วมองดูว่าเราสามารถไปได้มากแค่ไหน...


              จากนั้นตนก็ตัดสินใจเรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเอง หัดอ่านหนังสือภาษาเกาหลี ศึกษาเรื่องการวางตัวการเข้าพบผู้ใหญ่ มีการทำประวัติโปรไฟล์ไปให้ทางครอบครัวของคุณชินจูอาดู โดยในโปรไฟล์นั้นจะมีภาพข่าวการทำงานของตน ทางครอบครัวของเขาก็รับฟังระดับหนึ่ง จากนั้นตนก็เชิญเขามาเที่ยวที่ประเทศไทย พอท่านมาเห็นท่านก็โอเคและสบายใจขึ้น หลังไปหาพ่อ-แม่เขาได้ประมาณ 1-2 เดือน ก็ได้มาพูดคุยกับพ่อ-แม่ของตน ก็มีการพูดคุยกันเรื่องเมืองไทยทั่วไป ประกอบกับคุณแม่ตนชอบดูซีรีส์เกาหลี ก็จะมีเรื่องให้พูดคุยกันเยอะ

              เมื่อถามว่าเคยทะเลาะกันไหม คุณศราวุฒิ เผยว่า เคยทะเลาะกันบ้าง แบบว่าติดต่อกันไม่ได้แล้วไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ ก็มีการงอนกันบ้างแต่ไม่เยอะมากเท่าไหร่ เราก็ง้อเขาด้วยการอธิบายว่าเราหายไปไหน ทำงานอยู่นะอะไรแบบนี้ แต่มีทะเลาะกันแบบว่าวันนี้ทะเลาะ วันรุ่งขึ้นเราก็บินไปหาเขาที่ประเทศเกาหลีเลย คุณชินจูอา ก็บอกว่า ตอนที่เขาถือดอกไม้ช่อใหญ่ไปให้ก็รู้สึกตกใจและก็ประทับใจมาก

              แต่กว่าจะแต่งงานกันได้ทั้งคู่ก็ยังต้องเจอกับอีกอุปสรรค คือ ต้นสังกัดของคุณชินจูอา เพราะเธอเป็นนักแสดงที่ยังเหลือสัญญาอีก 2 ปี ก็กลายเป็นประเด็นว่าจะจัดงานแต่งงานอย่างไร ทางคุณชินจูอา ก็บอกว่า ก็จัดการเรื่องงานให้เรียบร้อยแล้วก็ลาออก ตอนนั้นทางต้นสังกัดก็ยังไม่รู้ว่าจะแต่งงาน เมื่อถามว่าอยากทำงานเป็นนักแสดงในเมืองไทยไหม เธอตอบว่า "ก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ขอเรียนภาษาไทยให้เก่งก่อน" เสียดายงานที่เกาหลีไหม "หลายอย่างก็เสียดาย เรื่องงานก็เสียดาย เพื่อนทางเกาหลีก็ไม่ค่อยได้เจอ"



              ส่วนเรื่องการวางแผนมีลูก คุณชินจูอา บอกว่า อาจจะรอสัก 1 ปีก่อน ค่อยมีลูก ในขณะนี้กำลังเริ่มเรียนภาษาไทยได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ตอนนี้พูดคำว่า สวัสดีค่ะ สวยมากค่ะ น่ารักมากค่ะ ได้แล้ว

              ท้ายนี้ ทางรายการได้นำเสนอภาพความหวานและคำมั่นสัญญาของคู่รักข้ามขอบฟ้าในงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โดยคุณศราวุฒิ ได้พูดในงานแต่งงานว่า... "ต่อไปเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทางคุณชินจูอาก็จะต้องย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับผมจะดูแลคุณชินจูอาเป็นอย่างดี จะคอยดูแลทุกอย่างตลอดไป"



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชินจูอา ศราวุฒิ รัชนกูล เปิดใจคู่รักข้ามขอบฟ้าครั้งแรก หลังแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 19 สิงหาคม 2557 เวลา 15:23:08 12,190 อ่าน
TOP