ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram pennceo
เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ประวัติ ไฮโซสาวพันล้าน เปิดชีวิตอู้ฟู่ เรื่องราวชีวิตกินข้าวมื้อละ 5 แสน กระเป๋าใบละ 2 ล้าน พร้อมเผยนาทีบู๊เดือดสู้โจร
เพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับไฮโซสาวที่ทั้งสวย ทั้งรวย อย่าง "เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์" ที่ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เธอก็บู๊กับโจรชิงกระเป๋า จนจมูกร้าวและโดนสปาต้าฟันนิ้วมาแล้ว ท่ามกลางคำถามมากมาย ว่าเพราะอะไรทั้ง ๆ ที่เธอเงินมากมายมหาศาล เป็นถึงไฮโซพันล้าน แต่เพียงเงินไม่เท่าไร เธอกลับไม่ให้ แถมไม่กลัวตายเอาชีวิตเข้าสู้อีกต่างหาก ซึ่งล่าสุด (26 สิงหาคม 2557) ทางรายการคนดังนั่งเคลียร์ ก็ขอนำตัวไฮโซสาวสวยคนนี้ มาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดสมบัติกันแบบจะจะไปเลยว่า เธอนั้นรวยล้นฟ้าขนาดไหน
โดยเริ่มต้นรายการด้วยประเด็นสุดฮอต ที่ อ.ยิ่งศักดิ์ พิธีกร ยิงคำถามแบบรัว ๆ สำหรับเรื่องธุรกิจครอบครัว ที่หลายคนอยากรู้เหลือเกินว่า เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ครอบครัวของเธอนั้นทำอะไร ถึงได้รวยเป็นไฮโซพันล้านขนาดนี้ ซึ่งเธอบอกว่า ที่บ้านเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโด ตึกให้เช่า บ้านให้เช่า ออฟฟิศให้เช่า มากมายหลายอย่าง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังถ่อมตัวว่า มีคนรวยกว่าเธออีกเยอะแยะเลยทีเดียว
ด้าน อ.ยิ่งศักดิ์ ก็ขอถามถึงเรื่องการใช้ชีวิตแบบไฮโซ ๆ สักหน่อย ว่าอาหารมื้อที่แพงที่สุดในชีวิต คุณเพ็ญ เคยต้องจ่ายเท่าไรต่อมื้อ ซึ่งเธอบอกว่า มื้อที่แพงที่สุดประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ต่อหัว ! เนื่องจากเป็นงานปาร์ตี้ทานกันประมาณ 20 คน ที่แพงก็เพราะไวน์แพง อาหารอิมพอร์ต และคาร์เวียร์
ต่อด้วยคำถาม ช้อปปิ้งแต่ละครั้งเสียเงินเท่าไร ซึ่งคุณเพ็ญบอกว่าเรื่องตัวเลขเธอไม่ค่อยได้จำ แต่ถ้าเธอมีโอกาสช้อปปิ้งเองก็หมดเยอะ เพราะปกติไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเลือกของเอง นาน ๆ ที สติก็เลยขาด ซื้อค่อนข้างเยอะ ส่วนมากที่ซื้อก็พวกกระเป๋า รองเท้า เหมือนผู้หญิงทั่วไป
อ.ยิ่งศักดิ์ เลยเผยให้ดูกรุรองเท้าและกระเป๋าของคุณเพ็ญ ซึ่งบอกได้เลยว่า ทั้งเยอะ ทั้งใหญ่ ยิ่งกว่าร้านขายรองเท้าซะอีก โดยคุณเพ็ญเผยว่า รองเท้าคู่ที่แพงที่สุดราคาก็ประมาณแสนสองแสนบาท เป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด ซึ่งต้องจองล่วงหน้า ส่วนกระเป๋าใบที่แพงที่สุดราคาประมาณ 2 ล้านบาท พร้อมเผยภาพกระเป๋าสุดแพงระยับให้ดูด้วย
นอกจากนี้ อ.ยิ่งศักดิ์ ยังขอเปิดประเด็นเรื่องที่ คุณเพ็ญ เป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้ แถมแต่ละงานเธอได้รับฉายา "ไม่สวยไม่เว่อร์ไม่ใช่เพ็ญ" ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เธอระบุว่า เธอไม่เชิงเป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้ การกินเลี้ยงนั้นเป็นธรรมเนียมมากกว่า เวลาเธอไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็มีเจ้าภาพมาคอยดูแลเธอ กลับกันพอเขามาประเทศเรา เราก็เป็นเจ้าภาพดูแลเขาเช่นกัน ส่วนเรื่อง "ไม่สวยไม่เว่อร์ไม่ใช่เพ็ญ" นั้น จริง ๆ แล้วเป็นฉายาที่คนอื่นตั้งให้เธอมากกว่า แต่ทั้งนี้เธอมองว่าการที่เราถูกเชิญไปงานใด เราควรจะให้เกียรติงานของเขา ควรจะแต่งตัวและสร้างสีสันตอบแทนเจ้าภาพ
ต่อกันด้วยเรื่องราวสุดระทึกที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณเพ็ญก็ขอเล่าแบบชอตต่อชอตให้ฟังว่า ในวันนั้นเธอไปกินข้าวกับเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก โดยเธอเอาเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเงินเดือนพนักงานไปเซ็นด้วย แต่ทั้งนี้ด้วยความที่ติดลมคุยกับนาน แถมยังกินเยอะมาก เธอเลยคิดว่าจะเดินย่อยสักหน่อย ตอนแรกเพื่อนก็บอกให้เรียกรถมารับ แต่เธอมองว่าอีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว อีกทั้งทางที่เดินก็เป็นทางที่เธอวิ่งเป็นประจำ สี่ทุ่มเธอก็ยังวิ่งอยู่ เลยประมาทไม่คิดว่าจะเป็นอันตราย
หลังจากที่เธอร่ำลาเพื่อน เธอก็เดินเอาเป้ที่ใส่เอกสารไว้สะพานไว้ข้างหน้า และเดินเลาะ ๆ ไปริมถนนสาทร ใกล้กับสถานีตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็เห็นชายสองคนซ้อนรถจักรยานยนต์ขับสวนเลนมาหาเธอ พร้อมกับเอาบางอย่างกระแทกที่หน้าของเธอ จนเธอทรุดลงไปเลย ตอนนั้นเธอรู้แล้วว่าโดนปล้นแน่ ๆ เธอก็บอกว่าเอาเงินไปเลยแต่ขอเอกสารกับรูปลูกไว้ เธอพูดอย่างนี้ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ในขณะนี้มือของเธอก็ยังยื้อกระเป๋าไว้แน่น ซึ่งเธอทำไปโดยไม่รู้ตัว เธอพูดประโยคให้เอาเงินไปเลยซ้ำ ๆ จนคนร้ายรำคาญ ใช้มีดสปาต้าจะฟันมาที่เธอ เธอก็พยายามหลบ แต่โดนฟันที่นิ้ว ยื้อ ๆ ยุด ๆ กันไปไกลระยะหนึ่ง จนไปถึงถนนที่พอจะมีแสงสว่าง คนร้ายเลยขับรถหนีไป
คุณเพ็ญ เล่าว่า ตอนแรกเธอยังไม่ไปแจ้งความ อยากจะให้เรื่องนี้เงียบที่สุด หลังจากเกิดเรื่องเธอก็กลับบ้านเลย โดยนั่งแท็กซี่ตรงนั้น ซึ่งแท็กซี่เขาไม่ได้มาช่วยเพราะเขาคิดว่าเธอทะเลาะกับแฟน พอถึงบ้านปุ๊บเธอก็ไปโรงพยาบาล พบว่าจมูกของเธอกระดูกแตก ส่วนนิ้วของเธอก็เย็บถึง 3 เข็ม
ส่วนสาเหตุที่เธอไม่ให้กระเป๋าเป้ไปนั้น ตอนนั้นสมองของเธอคิดแค่ว่า ห่วงงานกับห่วงลูก ซึ่งในโทรศัพท์มีรูปลูกอยู่ สมองสั่งการให้พูดอย่างนั้นไป เพราะลูกมักจะมาวิ่งออกกำลังกายที่ถนนเส้นนี้เหมือนกัน ตอนแรกเธอคิดว่าจะให้เรื่องนี้เงียบที่สุด แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจให้เลขาไปแจ้งความไว้ก่อน หลังจากนั้นเธอก็ลงพื้นที่ตามดูกล้องวงจรปิด ซึ่งชาวบ้านหลายคนก็เล่าให้ฟังว่า มีคนโดนปล้นหลายต่อหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนั้นอยู่กลางใจเมือง มีทั้งสถานทูต ทั้งชาวต่างชาติอยู่เยอะ ซึ่งมีบางคนโดนทำร้ายกระดูกหัก บางคนก็โดนฟันหน้าเลยก็มี เธอจึงตัดสินใจหอบหลักฐานทั้งใบรับรองแพทย์ กระเป๋าเป๋เปื้อนเลือด และภาพจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความในที่สุด เนื่องจากอยากให้ตำรวจช่วยเฝ้าระวังกันมากกว่านี้ อย่างน้อยติดไฟส่องสว่างในบริเวณนั้นก็ยังดี
และประเด็นที่ว่าเธอแต่งตัวอวดรวยมากไปจนโจรเพ่งเล็งนั้น เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และวันนั้นเธอก็ไม่ได้เมาด้วย อย่างไรก็ดีเธอคิดว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคนได้ว่าไม่ควรประมาท ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ควรเดินตอนกลางคืนคนเดียว
เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ประวัติ ไฮโซสาวพันล้าน เปิดชีวิตอู้ฟู่ เรื่องราวชีวิตกินข้าวมื้อละ 5 แสน กระเป๋าใบละ 2 ล้าน พร้อมเผยนาทีบู๊เดือดสู้โจร
เพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับไฮโซสาวที่ทั้งสวย ทั้งรวย อย่าง "เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์" ที่ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เธอก็บู๊กับโจรชิงกระเป๋า จนจมูกร้าวและโดนสปาต้าฟันนิ้วมาแล้ว ท่ามกลางคำถามมากมาย ว่าเพราะอะไรทั้ง ๆ ที่เธอเงินมากมายมหาศาล เป็นถึงไฮโซพันล้าน แต่เพียงเงินไม่เท่าไร เธอกลับไม่ให้ แถมไม่กลัวตายเอาชีวิตเข้าสู้อีกต่างหาก ซึ่งล่าสุด (26 สิงหาคม 2557) ทางรายการคนดังนั่งเคลียร์ ก็ขอนำตัวไฮโซสาวสวยคนนี้ มาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดสมบัติกันแบบจะจะไปเลยว่า เธอนั้นรวยล้นฟ้าขนาดไหน
โดยเริ่มต้นรายการด้วยประเด็นสุดฮอต ที่ อ.ยิ่งศักดิ์ พิธีกร ยิงคำถามแบบรัว ๆ สำหรับเรื่องธุรกิจครอบครัว ที่หลายคนอยากรู้เหลือเกินว่า เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ครอบครัวของเธอนั้นทำอะไร ถึงได้รวยเป็นไฮโซพันล้านขนาดนี้ ซึ่งเธอบอกว่า ที่บ้านเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโด ตึกให้เช่า บ้านให้เช่า ออฟฟิศให้เช่า มากมายหลายอย่าง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังถ่อมตัวว่า มีคนรวยกว่าเธออีกเยอะแยะเลยทีเดียว
ด้าน อ.ยิ่งศักดิ์ ก็ขอถามถึงเรื่องการใช้ชีวิตแบบไฮโซ ๆ สักหน่อย ว่าอาหารมื้อที่แพงที่สุดในชีวิต คุณเพ็ญ เคยต้องจ่ายเท่าไรต่อมื้อ ซึ่งเธอบอกว่า มื้อที่แพงที่สุดประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ต่อหัว ! เนื่องจากเป็นงานปาร์ตี้ทานกันประมาณ 20 คน ที่แพงก็เพราะไวน์แพง อาหารอิมพอร์ต และคาร์เวียร์
ต่อด้วยคำถาม ช้อปปิ้งแต่ละครั้งเสียเงินเท่าไร ซึ่งคุณเพ็ญบอกว่าเรื่องตัวเลขเธอไม่ค่อยได้จำ แต่ถ้าเธอมีโอกาสช้อปปิ้งเองก็หมดเยอะ เพราะปกติไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเลือกของเอง นาน ๆ ที สติก็เลยขาด ซื้อค่อนข้างเยอะ ส่วนมากที่ซื้อก็พวกกระเป๋า รองเท้า เหมือนผู้หญิงทั่วไป
อ.ยิ่งศักดิ์ เลยเผยให้ดูกรุรองเท้าและกระเป๋าของคุณเพ็ญ ซึ่งบอกได้เลยว่า ทั้งเยอะ ทั้งใหญ่ ยิ่งกว่าร้านขายรองเท้าซะอีก โดยคุณเพ็ญเผยว่า รองเท้าคู่ที่แพงที่สุดราคาก็ประมาณแสนสองแสนบาท เป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด ซึ่งต้องจองล่วงหน้า ส่วนกระเป๋าใบที่แพงที่สุดราคาประมาณ 2 ล้านบาท พร้อมเผยภาพกระเป๋าสุดแพงระยับให้ดูด้วย
นอกจากนี้ อ.ยิ่งศักดิ์ ยังขอเปิดประเด็นเรื่องที่ คุณเพ็ญ เป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้ แถมแต่ละงานเธอได้รับฉายา "ไม่สวยไม่เว่อร์ไม่ใช่เพ็ญ" ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เธอระบุว่า เธอไม่เชิงเป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้ การกินเลี้ยงนั้นเป็นธรรมเนียมมากกว่า เวลาเธอไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็มีเจ้าภาพมาคอยดูแลเธอ กลับกันพอเขามาประเทศเรา เราก็เป็นเจ้าภาพดูแลเขาเช่นกัน ส่วนเรื่อง "ไม่สวยไม่เว่อร์ไม่ใช่เพ็ญ" นั้น จริง ๆ แล้วเป็นฉายาที่คนอื่นตั้งให้เธอมากกว่า แต่ทั้งนี้เธอมองว่าการที่เราถูกเชิญไปงานใด เราควรจะให้เกียรติงานของเขา ควรจะแต่งตัวและสร้างสีสันตอบแทนเจ้าภาพ
ต่อกันด้วยเรื่องราวสุดระทึกที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณเพ็ญก็ขอเล่าแบบชอตต่อชอตให้ฟังว่า ในวันนั้นเธอไปกินข้าวกับเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก โดยเธอเอาเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเงินเดือนพนักงานไปเซ็นด้วย แต่ทั้งนี้ด้วยความที่ติดลมคุยกับนาน แถมยังกินเยอะมาก เธอเลยคิดว่าจะเดินย่อยสักหน่อย ตอนแรกเพื่อนก็บอกให้เรียกรถมารับ แต่เธอมองว่าอีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว อีกทั้งทางที่เดินก็เป็นทางที่เธอวิ่งเป็นประจำ สี่ทุ่มเธอก็ยังวิ่งอยู่ เลยประมาทไม่คิดว่าจะเป็นอันตราย
หลังจากที่เธอร่ำลาเพื่อน เธอก็เดินเอาเป้ที่ใส่เอกสารไว้สะพานไว้ข้างหน้า และเดินเลาะ ๆ ไปริมถนนสาทร ใกล้กับสถานีตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็เห็นชายสองคนซ้อนรถจักรยานยนต์ขับสวนเลนมาหาเธอ พร้อมกับเอาบางอย่างกระแทกที่หน้าของเธอ จนเธอทรุดลงไปเลย ตอนนั้นเธอรู้แล้วว่าโดนปล้นแน่ ๆ เธอก็บอกว่าเอาเงินไปเลยแต่ขอเอกสารกับรูปลูกไว้ เธอพูดอย่างนี้ย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ในขณะนี้มือของเธอก็ยังยื้อกระเป๋าไว้แน่น ซึ่งเธอทำไปโดยไม่รู้ตัว เธอพูดประโยคให้เอาเงินไปเลยซ้ำ ๆ จนคนร้ายรำคาญ ใช้มีดสปาต้าจะฟันมาที่เธอ เธอก็พยายามหลบ แต่โดนฟันที่นิ้ว ยื้อ ๆ ยุด ๆ กันไปไกลระยะหนึ่ง จนไปถึงถนนที่พอจะมีแสงสว่าง คนร้ายเลยขับรถหนีไป
คุณเพ็ญ เล่าว่า ตอนแรกเธอยังไม่ไปแจ้งความ อยากจะให้เรื่องนี้เงียบที่สุด หลังจากเกิดเรื่องเธอก็กลับบ้านเลย โดยนั่งแท็กซี่ตรงนั้น ซึ่งแท็กซี่เขาไม่ได้มาช่วยเพราะเขาคิดว่าเธอทะเลาะกับแฟน พอถึงบ้านปุ๊บเธอก็ไปโรงพยาบาล พบว่าจมูกของเธอกระดูกแตก ส่วนนิ้วของเธอก็เย็บถึง 3 เข็ม
ส่วนสาเหตุที่เธอไม่ให้กระเป๋าเป้ไปนั้น ตอนนั้นสมองของเธอคิดแค่ว่า ห่วงงานกับห่วงลูก ซึ่งในโทรศัพท์มีรูปลูกอยู่ สมองสั่งการให้พูดอย่างนั้นไป เพราะลูกมักจะมาวิ่งออกกำลังกายที่ถนนเส้นนี้เหมือนกัน ตอนแรกเธอคิดว่าจะให้เรื่องนี้เงียบที่สุด แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจให้เลขาไปแจ้งความไว้ก่อน หลังจากนั้นเธอก็ลงพื้นที่ตามดูกล้องวงจรปิด ซึ่งชาวบ้านหลายคนก็เล่าให้ฟังว่า มีคนโดนปล้นหลายต่อหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนั้นอยู่กลางใจเมือง มีทั้งสถานทูต ทั้งชาวต่างชาติอยู่เยอะ ซึ่งมีบางคนโดนทำร้ายกระดูกหัก บางคนก็โดนฟันหน้าเลยก็มี เธอจึงตัดสินใจหอบหลักฐานทั้งใบรับรองแพทย์ กระเป๋าเป๋เปื้อนเลือด และภาพจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความในที่สุด เนื่องจากอยากให้ตำรวจช่วยเฝ้าระวังกันมากกว่านี้ อย่างน้อยติดไฟส่องสว่างในบริเวณนั้นก็ยังดี
และประเด็นที่ว่าเธอแต่งตัวอวดรวยมากไปจนโจรเพ่งเล็งนั้น เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และวันนั้นเธอก็ไม่ได้เมาด้วย อย่างไรก็ดีเธอคิดว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคนได้ว่าไม่ควรประมาท ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ควรเดินตอนกลางคืนคนเดียว
คลิป นาทีเฉียดตาย ไฮโซเพ็ญ รวยพันล้าน บู๊เดือด สู้โจร! คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 2 เครดิตรายการคนดังนั่งเคลียร์ โพสต์โดยคุณ thaich2
