สาวนักเต้นบัลเลต์ โชว์รอยแผลผ่าตัดจากมะเร็งเต้านม สร้างแรงบันดาลใจให้กับหญิงสาวทั่วโลก
มะเร็งเต้านม โรคร้ายที่สามารถเกิดขึ้นกับผู้หญิงได้ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด ซึ่งถ้าหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ และรักษาได้ทันท่วงทีก็จะกำจัดเจ้าเนื้อร้ายนี้ออกไปได้ ซึ่งการรักษาก็มีหลากหลายวิธี แต่นอกจากการให้ยาหรือทำคีโมแล้วยังต้องอาศัยแรงใจจากตัวผู้ป่วยเองด้วย เหมือนอย่าง แม็กกี้ คูเดอร์คา (Maggie Kudirka) เธอคนนี้เป็นมะเร็งเต้านมแต่กว่าจะตรวจพบก็เข้าสู่ระยะที่ 4 แล้ว ทว่าการเป็นโรคร้ายนี้ไม่ได้ทำให้เธอหมดกำลังใจท้อถอยแต่อย่างใด เธอเรียนรู้ที่จะต่อสู้และอยู่กับมันให้ได้แม้จะต้องเจ็บปวดมากเท่าใดก็ตาม
แม็กกี้ คูเดอร์คา (Maggie Kudirka) นักบัลเลต์วัย 25 ปี จากรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2557 หลังจากที่แพทย์ได้วินิจฉัยออกมาว่าก้อนเนื้อในหน้าอกข้างซ้ายของเธอมันคือมะเร็ง อีกทั้งยังเข้าสู่ระยะที่สี่แล้ว
ทันทีที่ได้ยินข่าวร้ายจากแพทย์วินิจฉัย แม็กกี้ก็รีบถามถึงขั้นตอนการรักษา ซึ่งแพทย์ก็ได้แนะนำให้เธอผ่าตัดเต้านมทั้งสองข้างออก แม็กกี้พอใจกับการรักษาด้วยวิธีนี้มาก เพราะว่าเธอนั้นไม่ชอบเต้านมทั้งสองข้างของตนเองมาโดยตลอด แถมยังบอกอีกว่าตัวเธอนั้นมีหน้าอกที่ใหญ่กว่านักบัลเลต์คนอื่น ๆ ทำให้เธอต้องคอยเอาผ้ารัดทุกครั้งที่เต้น
ในช่วงแรกนั้นแม้ว่าแม็กกี้จะกดดันและเครียดกับโรคมะเร็ง แต่ไม่นานนักเธอก็หันมาเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ โดยการมองโลกในแง่บวก แม็กกี้กล่าวว่าเธอรู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น พูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น รวมไปถึงการเต้นที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะเธอไม่รู้ว่าเวลาที่จะได้อยู่บนโลกใบนี้มันเหลืออีกเท่าไร ดังนั้นเธอจึงทำทุกเวลาทุกนาทีให้มีค่ามากที่สุด
เพื่อนนักเต้นของเธอซึ่งร่วมงานด้วยกันในบริษัท Joffrey Concert Group ได้บอกว่าแม็กกี้มีความคิดที่เปลี่ยนไป แม้เธอจะได้รับข่าวร้ายว่าตนเองเป็นโรคมะเร็ง แต่แม็กกี้เองกลับคิดในแง่บวก อีกทั้งยังพิสูจน์อีกว่าเจ้าเนื้อร้ายนี้ไม่สามารถทำอะไรเธอได้โดยการโชว์รอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดเต้านมออกไป
ในวิดีโอการแสดง แม็กกี้ได้แสดงการเต้นบัลเลต์ที่งดงาม รวมไปถึงรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดเต้านม และพูดคุยถึงประสบการณ์ที่ต้องอยู่กับเจ้าเนื้อร้ายนี้
แม็กกี้คิดว่าก้อนเนื้อที่อยู่ในอกข้างซ้ายของเธอคือกล้ามเนื้อที่มีปัญหา ไม่ใช่มะเร็งที่กำลังกัดกินตัวเธอจากข้างใน และแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดทุกครั้งแต่เธอก็ไม่ได้บอกความรู้สึกนี้ให้ใครฟัง เพราะเธอยังอยากที่จะเต้นและแสดงบนเวที
แต่ทว่าหลังจากการแสดงบนเวทีครั้งสุดท้ายของเธอ แม็กกี้ก็ไม่สามารถยกแขนได้อีกต่อไป เพราะเจ้าเนื้อร้ายได้ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและกระดูกของเธอ ซึ่งนั่นหมายความว่าร่างกายของเธอไม่สามารถต้านทานมันไหว ได้แต่คอยรักษาโดยการทำคีโมและให้ยาไปตามอาการเท่านั้น
แม็กกี้รักการเต้นบัลเลต์มาก รักเท่ากับชีวิตของเธอ เพราะเธอรู้จักมันตั้งแต่ 4 ขวบ ดังนั้นโรคร้ายที่เธอเป็นอยู่นี้ไม่สามารถพรากเธอออกจากสิ่งที่เธอรักได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเธอ แต่แม็กกี้ก็ยังจะขอเต้นบัลเลต์ต่อไป
บนโลกนี้ไม่มีใครที่มีสามารถต้านโรคมะเร็งได้ ไม่มีใครที่สมบูรณ์ ทุก ๆ คนสามารถเป็นโรคมะเร็งได้ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตาม ดังนั้นสาว ๆ จึงควรรักษาสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย และไปตรวจร่างกายทุก ๆ ปีนะคะ หรือถ้าใครที่กำลังต่อสู้กับเนื้อร้ายนี้อยู่ก็ขอให้เข้มแข็ง รักตัวเองเข้าไว้ อดทนและไม่ย่อท้อเหมือนอย่างแม็กกี้กันนะคะ
ข้อมูลจาก : dailymail.co.uk และ today.com
