สคบ. สั่งปรับกรรมการบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป รวม 1.8 ล้าน ฐานทำผิด พ.ร.บ.ขายตรง หลังคดี ธปท. แจ้งทำ e-Money ไม่ได้รับอนุญาต เพิ่งเป็นข่าวดัง
จากกรณีที่บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมี ฟิล์ม รัฐภูมิ พระเอกหนุ่ม เป็นประธานบริษัท ถูกทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้องต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ว่า มีการทำธุรกิจชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนที่ต่อมา ฟิล์ม รัฐภูมิ จะยอมรับว่าเป็นข่าวจริง พร้อมรับผิดและเตรียมแก้ไขทุกอย่างให้เป็นไปตามกำหนดนั้น (อ่านข่าว : ฟิล์ม รัฐภูมิ แถลงยอมรับผิด ปม ธปท. กล่าวโทษทำ อีมันนี่ ผิดกฎหมาย )
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกมาเผยว่า การประกอบธุรกิจขายตรงของบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป ไม่ได้ปฏิบัติตามแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ได้ยื่นขอจดไว้ต่อนายทะเบียน ซึ่งเป็นความผิดมาตรา 52 ของ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง ทำให้มีโทษปรับกรรมการบริษัททั้ง 6 ราย รวมฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นเงินรวม 1,800,000 บาท และทำบันทึกให้กรรมการบริษัท ลงนามยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่สมาชิกทุกคนไว้ส่วนหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ดี สคบ. ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัท เพย์ออล ในข้อหาอื่น อีกทั้ง สคบ. ยังเห็นว่าการดำเนินกิจการของเพย์ออล ยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป นอกจากจะทำธุรกิจชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตามที่ทราบกันแล้ว ยังได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายตรง จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 6 รายการ แต่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนการจ่ายผลตอบแทนในธุรกิจโดยไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบจนถูกลงโทษดังกล่าว
ภาพจาก payallgroup.com
