หมู พิมพ์ผกา หอบหลักฐานโต้กลับเว็บคู่กรณี ลั่นเป็นถึงผู้บริหารทำไมไม่พูดเรื่องจริง

          หมู พิมพ์ผกา ตั้งโต๊ะแถลง หอบหลักฐานโต้กลับเว็บคู่กรณี ปมแอบอ้างใช้รูป นาย ณภัทร ยันคุยกับคู่กรณีแล้ว แต่อีกฝ่ายอ้างไม่เคยคุย ย้ำคืนเงินครบทุกบาททุกสตางค์แล้ว
           วันที่ 28 มิถุนายน 2561 หมู พิมพ์ผกา ได้ออกมาชี้แจงปมถูกเว็บไซต์แห่งหนึ่งกล่าวอ้างว่าไม่ได้แอบอ้างใช้ภาพ นาย ณภัทร  ไปใช่ แต่มีการเซ็นสัญญากันก่อนยกเลิกทีหลัง (อ่านเพิ่มเติม เว็บแถลงถูก หมู อ้าง ใช้รูปนาย ณภัทร ไม่ได้รับอนุญาต ยันมีการเซ็นสัญญาจริง) โดย หมู พิมพ์ผกา เปิดเผยว่า พี่หมูได้รับการติดต่อมาให้น้องเป็นพรีเซ็นเตอร์เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ตรวจสอบแล้วก็ปกติดี การตกลงคือใช้ภาพนิ่ง 5 ภาพ วิดีโอ 1 ภาพ น้องที่ติดต่อเข้ามาบอกว่าน้องเพิ่งจบใหม่ บริษัทใหม่จดทะเบียน 200 ล้าน น้องก็บอกว่าน้องจบใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ เราเองก็สอบถามปกติว่าใช้เอเจนซี่ไหน น้องก็บอกว่าน้องยังใหม่ให้เราแนะนำเอเจนซี่ให้ ซึ่งมีแชทการพูดคุย พี่หมูก็ได้แนะนำเอเจนซี่อันดับหนึ่งของประเทศไป หลังจากนั้นเขาก็ไปคุยกันเอง แม่ไม่รู้เรื่องแล้ว แต่เขากลับบอกว่าเรามีส่วนได้ส่วนเสียด้วย

           สาเหตุที่ยกเลิกสัญญาทางเขาแจ้งว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่แม่ขอยกเลิกสัญญากับเขาด้วยคำว่าทำให้น้องเสื่อมเสียชื่อเสียงภายในระยะเวลา 1 เดือน สาเหตุเพราะมีเพจ ใต้เตียง มธ. ออกมาเตือนภัยนักศึกษาว่ามีเว็บไซต์เข้ามาในมหาวิทยาลัย เอาบัตรประชาชนนักศึกษาไปถ่ายรูป แม่จึงเห็นว่าไม่ชอบมาพากล และยังมีโบรชัวร์เป็นภาพน้องเกาคางที่ฮิตในโซเชียล รูปนี้เป็นรูปที่มีลิขสิทธิ์ด้วย พอเซ็นสัญญากันปุ๊บงานถ่ายภาพยังไม่เริ่มต้น แต่เขามาขอแม่ 1 รูปเพื่อเอาลงหน้าเว็บเป็นขวัญกำลังใจให้พนักงาน เขามาขอภาพไฟล์ใหญ่ แต่เราไม่มีให้ เขาก็แจ้งไลน์มาว่าขอรูปดังกล่าวไปใช้ ตนก็แจ้งไปที่เจ้าของลิขสิทธิ์ว่าเขาแจ้งขอใช้ 1 เดือน และแม่ก็ถามว่าจะถ่ายภาพนิ่งกันวันไหน แต่ปรากฎว่าเพจเตือนภัยขึ้นโบรชัวร์นี้ขึ้นมา แม่ก็ตกใจว่าทำไมถึงกล้าเอาภาพนี้ไปใช้ในโบรชัวร์ ทั้งที่คุยกันแค่ลงเว็บ


           แม่ยกเลิกสัญญาเพราะเห็นเพจเตือนภัย และทราบเรื่องที่เขาเอาบัตรประชาชนนักศึกษาไปถ่าย แม่เลยเห็นว่าไม่น่าจะดีแล้ว อันดับสองคือเอาภาพที่มีลิขสิทธิ์ไปทำโบชัวร์ แม่เลยขอยกเลิกสัญญาในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 และแม่คืนเงินให้เขาทุกบาททุกสตางค์ ทางเขาก็ตกลงเรื่องยกเลิกสัญญา ตามจริงโฆษณาตัวนี้ 5,800,000 บาท แต่เขาบวกเพิ่ม 500,000 บาท เป็นค่านายหน้า รวมเป็น 6,300,000 บาท แล้วเขาก็โอนเงินมาก่อน แต่ยังไม่มีใบเสนอราคา ใบวางบิล แม่ก็ยิ่งแปลกใจ แม้แต่ใบเสร็จรับเงินเราก็ต้องโทร. ไปถามเขาว่าไม่เอาไปทำใบกำกับภาษีเหรอ และแม่ก็ได้โอนเงินคืนไปอีก 500,000 บาท แม่คืนเงินเขาทุกบาททุกสตางค์ เพราะแม่ต้องการเอาน้องนายออกจากเว็บไซต์นี้ให้เร็วที่สุด ทางเขาอาจเข้าใจว่า 500,000 คือค่าลิขสิทธิ์ แต่จริง ๆ คือค่านายหน้าจากทางพนักงาน และมีการหัก ณ ที่จ่ายด้วย 3 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทางฝั่งเขาต้องการหลักฐานแม่ส่งให้ได้ สรุปคือแม่ไม่ได้รับเงินจากเขาแม้แต่บาทเดียว

           มาถึงประเด็นที่เขากล่าวหาว่าแม่แอบอ้างในการที่แม่โพสต์รูปแรกว่าแอบอ้าง แม่เห็นนักศึกษาคนหนึ่งทวีตภาพน้องนายอยู่บนตึก ซึ่งเป็นภาพลิขสิทธิ์ที่เขาเอาไปทำบิลบอร์ด ทำโบรชัวร์ว่าน้องจะไปมหาวิทยาลัยนี้ แต่เราก็งงว่างานนี้โผล่มาได้ยังไง งานก็ยกเลิกไปแล้ว คืนเงินทุกบาททุกสตางค์ไปแล้ว เพราะงั้นคำว่าแอบอ้างตามประสาคนเป็นแม่ แม่เลยคิดว่าจะทำยังไงให้นักศึกษารู้ว่าอย่าให้บัตรประชาชนเขานะ ถ้าเห็นภาพน้องนายไปใช้อย่าหลงเชื่อ ตอนยกเลิกสัญญาแม่เห็นว่ามีในเว็บ ในโบรชัวร์ แต่ไม่เห็นว่ามีบิลบอร์ดด้วย แม่โพสต์คืนนั้นเพราะแม่ต้องการปกป้องลูกของแม่ แม่ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรนอกจากแอบอ้าง แล้วเขาก็จะใช้คำนี้เพื่อฟ้องแม่


          เรื่องที่แม่เขียนว่าสินค้าราคาแพงที่แม่เขียนลงในโพสต์หมายถึงสินค้าเกินจำเป็น เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา พวกสินค้าฟุ่มเฟือย ถามว่านักศึกษายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองถ้าไม่มีเงินผ่อนจะทำยังไง แม่ไม่อยากให้เกิดการสร้างค่านิยมแบบผิด ๆ ถ้าผ่อนไม่ไหวจะเกิดปัญหาสังคมขึ้นแม่ แต่ไม่ได้หมายถึงของเขาแพง แม่หมายถึงสินค้าราคาแพง

           ส่วนเรื่องขอคิวเขาบอกว่าแม่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน เขาจึงอ้างว่าเขาเลยต้องใช้ภาพนั้น (เปิดภาพหลักฐาน) เขามาขอคิวน้องนาย 1 อาทิตย์ แต่เราก็บอกเขาว่าน้องติดงาน ต้องมีการนัดล่วงหน้าก่อนหน้านี้ และแม่ก็มีให้คิว 8, 16, 17 พฤษภาคม ให้เลือกว่าจะใช้วันไหน เขาก็มีการทำอาร์ตเวิร์คมาให้แม่ดู ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ดูแลศิลปินที่แม่ดูแล้วบอกว่าห้ามมีสินค้าอยู่บนตัวน้อง เขาก็แก้เอาภาพสินค้าขยับออกไป ทางแม่เลยสอนเขาว่าหน้าที่ของเราคือโปรโมตแบรนด์ ตัวเว็บไซต์เท่านั้น เพราะน้องมีสินค้าจับจองเกือบทุกแบรนด์แล้ว สิ่งนี้เลยเป็นสิ่งที่เขากล่าวอ้างว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่นี่คือสิ่งที่ผู้ดูแลศิลปินต้องทำ แต่แม่แจ้งเรื่องยกเลิกสัญญาไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่เพราะเรื่องที่เคยแจ้งไป แม่งงว่าอยู่ดี ๆ ทำไมมีบิลบอร์ด แม่ไม่เคยเห็นเลย 13 มิถุนายน หลังยกเลิกสัญญา เรากลับเห็นภาพนี้ขึ้นมาก


           เรื่องการเจรจาเขาบอกว่าติดต่อเราไม่ได้ แต่เรามีหลักฐานทุกอย่าง แม่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นถึงผู้บริหารทำไมไม่พูดเรื่องจริง เขาคุยกับผู้ช่วยแล้วบอกอยากคุยกับแม่ แม่จึงบอกว่าแม่คุยได้แต่ต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้น เพื่อหวังให้เขาแก้ไขให้ถูกต้อง และเราก็คุยกันเกือบชั่วโมงให้เขาหาทางแก้ไขว่ารูปน้องยังถูกใช้ กลายเป็นสิ่งที่เราไปเล่าไปคุยกับเขา เขากลับมาโยนของเสียใส่เราให้ประชาชนเข้าใจผิด วันที่คุยกันแม่ถามเขาว่าได้ผลิตโบชัวร์ใหม่หรือยัง แต่เขาเงียบ ก่อนที่อีกวันจะมีแจ้งว่าผลิตโบรชัวร์ใหม่มา และมาพูดว่าไม่ได้คุยกับแม่ ทั้งที่คุยกันเป็นชั่วโมง

          แม่ขอเขาไป 3 ข้อในการแก้ปัญหา คือ

           1. ค่าเสียหาย ค่าปรับที่นำรูปน้องไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ล้านบาท

           2. คือแพลนตารางงานว่าแต่ละอาทิตย์คุณไปที่ไหนบ้างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเขาจะไม่ใช้รูปน้องแล้ว

           3. ออกหนังสือแถลงการณ์ขอโทษและรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

          ทางเขาจะขอคุยและบอกจะเอาทนายมาด้วย แต่ตอนนั้นแม่ยังไม่มีทนาย แม่บอกว่าถ้าทนายมาคุยจะไม่จบนะ ทางแม่แค่เจตนาให้เขาปรับปรุงองค์กร แต่เขาดึงดันว่าจะเอาคนมา 7-8 คน มาคุยด้วย แม่เลยต้องหาทนายมาคุย แม่กลัวว่าเขาจะเอารูปน้องนายไปใช้อีก แม่ไม่ยอม ตอนนี้ก็ยังมีน้องนักศึกษาส่งรูปมาให้ตลอดว่ายังมีรูปน้องนาย เขามีจดหมายแถลงการณ์ออกมาว่าเขาไม่ได้แอบอ้าง เขาจะไปเอาผิดเด็กที่ทวีตภาพน้องนายว่าดีใจจะได้เจอ แต่เขาก็ไม่ยอมรับ แม่ก็บอกว่ามีหลักฐานเยอะ เราก็ส่งให้เขา มีวันเวลาครบ

          ทางด้านทนายเจมส์ กล่าวว่า หลังจากที่ผมได้รับมอบหมายให้เจรจาตนก็ได้เสนอ 3 ข้อตามที่กล่าวมา ซึ่งข้อที่ 1 และ 3 เขายินดี แต่ข้อที่ 2 ให้ตารางเวลาเฉพาะไปมหาวิทยาลัย เนื่องจากเราไม่อยากให้นักศึกษาติดภาระผ่อนสินค้า และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะไม่ใช้ภาพน้องนายไปอีก แต่เขาตอบกลับมาว่าไม่ได้ โทร. ไปก็ไม่รับสาย จนมีการแถลงข่าว การนำภาพเราไปใช้โดยไม่ขออนุญาตเป็นการผิดลิขสิทธิ์ต้องไปถามเจ้าของภาพ แต่เรามีเรื่องทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

          แม่หมู ยังเผยต่อว่า ขณะนี้กำลังมีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมหลังการยกเลิกสัญญากับทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เรื่องฟ้องถ้าผิดแล้วยอมรับผิดเราก็จบ เรื่องก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่พอมาเป็นแบบนี้แม่ก็ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากให้มีคดี มันเครียด แต่ว่าถ้ามีคดีเกิดขึ้นจริงเราก็คิดว่าเราทำทุกอย่างบนความถูกต้อง ถ้าเขามาไกล่เกลี่ยแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะไม่ใช้รูปน้องอีก แต่หลังจากเมื่อวานเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับแม่อีก แม่ก็คุณเป็นลูกผู้ชาย คุณคุยกับแม่เกือบชั่วโมง ทำไมคุณถึงกล้าพูดว่าไม่ได้คุยกับแม่เลย แล้วแม่จะเชื่ออะไรคุณได้อีก เรื่องนี้มันกวนใจแม่มาก เรามีหลักฐานทั้งหมด แม่ไม่กลัวว่าจะมีการกระทบกับงานของน้อง แม่มั่นใจว่าเราทำงานเป็นมืออาชีพ ใจจริงแม่อยากให้ทำว่าอย่าโกหกแม่ ผิดก็ขอโทษ ผิดก็ยอมรับผิด ไม่ใช่โยนไปโยนมา