x close

เอ๋ นรินทร เปิดใจนาทีช่วยภารกิจถ้ำหลวง-ไม่ขอรับคำว่าฮีโร่ ดีใจที่ทีมหมูป่าปลอดภัย

          เอ๋ นรินทร ณ บางช้าง เปิดใจ นาทีช่วยปฏิบัติการภารกิจค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ไม่ขอรับคำว่าฮีโร่ ดีใจที่เด็ก ๆ ทีมหมูป่าปลอดภัย


         นับว่าเป็นภารกิจที่หลาย ๆ คนต่างเอาใจช่วย และมีการร่วมมือจากหลายฝ่าย สำหรับปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง หนึ่งในนั้นคือ คุณเอ๋ นรินทร และคุณเป้ เรืองฤทธิ์ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องของการดำน้ำ และอุปกรณ์ดำน้ำ โดยล่าสุด (13 กรกฎาคม 2561) ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจบภารกิจผ่านรายการคุยแซ่บSHOW ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

- ไปอยู่ถ้ำหลวงทั้งหมดกี่วัน ?
          เอ๋ นริทร :
น่าจะประมาณครึ่งเดือน รอบแรกก็ประมาณ 10 วันแล้วรอบที่ 2 ประมาณ 5 วัน

- ตอนแรกที่ไปคือวันไหน ?
          เอ๋ นริทร : พี่เห็นข่าววันที่ 24 ตอนเช้าแล้วก็ไปถึงถ้ำหลวง วันจันทร์ที่ 25 ตอนค่ำ


- พอทราบข่าวแล้วรีบบินไปเลยไหม ?
          เอ๋ นริทร :
ไม่ค่ะ ตอนแรกก็พยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของพื้นที่เพื่อที่ให้เราเข้าไปช่วยเหลือได้ แล้วตอนแรกก็ยังไม่มีใครอนุญาต เพราะเห็นว่าทางทีมซีลเขาปิดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วมาช่วงบ่ายก็เห็นข่าวว่าถ้าเจอเด็กแล้วก็คงต้องหาวิธีนำเด็กออก ซึ่งตอนนั้นพี่เป้ เขาเป็นนักดำน้ำถ้ำอยู่ แล้วเขาก็จะมีอุปกรณ์ดำน้ำมี Connection ส่วนตัวกับนักดำน้ำถ้ำด้วยกัน แล้วเขาก็แบบว่าให้ทำยังไงดีอยากจะไปช่วย พี่ก็เลยโพสต์ไปว่าขอให้เราได้ไปช่วยเถอะ

- ทีมนรินทร มาได้ยังไง ?
          เอ๋ นริทร :
คือทุกคนเขาก็เรียกกันว่านรินทรคือเราไม่ได้เป็นมูลนิธิ เราไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่ตั้งมาเพื่อกู้ภัยหรือใด ๆ เราเห็นว่าอันนี้น่าจะทำประโยชน์ได้ อยากจะช่วยจริง ๆ ก็ไปมันเลยไม่ได้ตั้งชื่อทีมเอาไว้ ทุกคนก็เลยเรียกว่าทีมนรินทร

- แล้วทีมนรินทรมีทั้งหมดกี่คน ?
          เอ๋ นริทร : ประมาณ 15-16 คน จะมีเธอ พี่เอ๋ประสานงาน 4 คนแล้วที่เหลือก็จะเป็นนักดำน้ำที่เป็น connection ของคุณเป้ มาช่วย มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ


- งั้นแสดงว่าทั้งวงการดำน้ำจะต้องรู้จักกันหมดมี Connection กัน ใช่ไหมครับ ?
          เอ๋ นริทร :
คือต้องบอกว่าวงการดำน้ำในเมืองไทยเนี่ยไม่ใหญ่มาก ทุกคนจะรู้จักกันหมด ว่าใครทำอะไรมีศักยภาพด้านไหนบ้าง ต้องบอกว่าแทบจะรู้จักร้านดำน้ำเกือบทุกร้าน

- คุณเป้นี้คือเชี่ยวชาญด้านการดำน้ำถ้ำใช่ไหม ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
เอาจริง ๆ จะเป็นในเรื่องของด้านเทคนิคซะมากกว่า ถ้าการดำน้ำในถ้ำจริง ๆ โดยส่วนตัวผมเคยดำมานานแล้ว แต่ว่าผมมี Network ที่เป็น ครูมีเทรนเนอร์ที่สอนในเรื่องของการดำน้ำถ้ำ

- ถ้ำหลวงเป็นถ้ำที่ยากที่สุดจริงไหมเท่าที่เจอมา?
          เป้ เรืองฤทธิ์  :
ตามที่ได้คุยกันในหมู่นักดำน้ำถ้ำ ที่เป็นครูที่มาเจอประสบการณ์จริง มีประสบการณ์ดำทำมา 20 กว่าปี ดำถ้ำมาเกือบจะทั่วโลกแล้วเนี่ย อันนี้เป็น Top 1 ใน 3 ที่ยาก ที่สุดที่เคยเจอมา


- พอได้ยินข้อมูลแบบนี้แล้วเรารู้สึกเป็นไงบ้าง ถอดใจเลยไหม ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
ไม่ถอดใจครับ อันนี้เป็นข้อดีของทุกคนที่อยู่หน้างานเลย ไม่ใช่แต่ทีมเราอย่างเดียวคือ เขามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ว่าเราต้องไปเจอให้ถึงตัวเด็ก แล้วต้องพยายามเอาตัวเด็กออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไร เราจะโฟกัสอยู่จุดเดียวก็คือทำยังไงเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา แล้วก็ค่อย ๆ แก้กันไปทีละสเต็ป

- ที่สัมผัสมาจริง ๆ มันยากลำบากมากจริงไหม ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ : ถ้าเกิดดูจากลักษณะถ้ำ ตอนที่ผมไปถึงวันแรกคือตอนนั้นน้ำอย่างท่วมไม่เต็ม ผมสามารถเข้าไปถึงโถง 3 เลยไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากนั้นน้ำก็จะท่วม ลักษณะถ้ำข้างในมันไม่ใช่ถ้ำที่เค้าทำเป็นลักษณะของการท่องเที่ยว คือมันไม่มีทางเดินแบบสะดวกสบาย เหมือนโถงที่ 1 กับโถงที่ 2 ผมว่ามันมากกว่ายากลำบากเพราะมีทั้งการปีน ขึ้นบางส่วนก็เหมือนกับทางชันเป็นเหวลึกลงไป ต้องมุดบางทีต้องคลานเข่าเข้าไป มันไม่มีทางที่จะสามารถเดินได้สบายจริง ๆ


- อากาศข้างในเป็นยังไงบ้างหนาวไหม ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
อุณหภูมิในถ้ำโดยเฉลี่ยนแล้วตอนที่อยู่โถง 3 ประมาณ 25 องศาเซลเซียส แต่ว่าอุณหภูมิน้ำจะอยู่ที่ 21 ถึง 22 องศาเซลเซียส ครับ

- เห็นว่าถุงของนักดำน้ำหนักมาก ขนาดไหน ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
ที่พวกผมแบกกับหน่วยซีลก็ประมาณ 25 ถึง 30 กิโลกรัม

- ระยะเวลาที่จะเข้าไปถึงโถง 3 ใช้เวลาเท่าไหร่?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
ก็จากปากทางจนถึงโถง 3 ประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ถ้าเดินจริง ๆ เอาเต็มที่หน่วยซีลเขาเดินกันก็ประมาณ 50 นาทีถึงชั่วโมงกว่า ๆ เพราะแบกของไปด้วย


- ความรู้สึกตอนที่ค้นหาเป็นยังไงบ้าง ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
ความรู้สึกตอนแรกที่คุยกับหน่วยซีลวันแรกคือเค้ามีความรู้สึกว่าต้องเจอแน่ ๆ เพราะเขาสามารถเข้าไปถึงพัทยาบีชได้แล้วแต่ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะว่าตอนนั้นมีเกี่ยวกับเรื่องน้ำเริ่มขึ้น อากาศหมดอะไรหมดเขาก็ต้องถอยกลับมาก่อน แล้ววันต่อมาก็กลับเข้าไปใหม่แต่ว่าไปต่อไม่ได้ เพราะทางมันแคบและน้ำก็เริ่มท่วมสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วเราก็ต้องถอยร่นกลับมาเรื่อย ๆ

- ในฐานะนักดำน้ำสามารถอธิบายเหตุการเสียชีวิตของจ่าเอกสมาน กุนันได้หรือเปล่า ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ : สาเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ นี่เราไม่ทราบจริง ๆ ต้องบอกอย่างนั้น เพราะว่าตอนที่เกิดเหตุจ่าสมานแกหมดสติไปแล้ว พยายามช่วยแต่ก็ไม่สามารถสำเร็จได้ นี่เป็นคำบอกเล่าของหน่วยซีลต่อ ๆ กันมา เพราะตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ที่หน้างาน แต่สาเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ อาจเกิดได้หลายอย่าง อาจจะต้องเอาอุปกรณ์ออกมาเช็กดูว่าตอนนั้นอุปกรณ์ที่ใช้งานเป็นยังไง หรืออากาศ เค้าใช้อากาศหมดหรือเปล่า หรือร่างกายอาจจะเหนื่อยเกินไป พักผ่อนน้อย เป็นไปได้ครับ


- พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนักดำน้ำที่เหลือมีกังวลบ้างไหม?
          เป้ เรืองฤทธิ์ :
ผมคิดว่าบางคนก็ต้องมีกังวลบ้าง แต่อันนั้นคือข้อดีของหน่วยซีล คือทุกคนมีสภาวะที่พร้อมมาก และทุกคนมีจุดมุ่งหมายอยู่อย่างเดียวคือต้องพาน้องออกมาให้ได้ ไปถึงตัวน้องให้ได้ อย่างท่านผู้การที่อยู่ข้างในก็บอกว่าเราก็เสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่เรามีหน้าที่สำคัญที่เราจะต้องทำเพราะฉะนั้น เราต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่เจอก็คือไม่กลับ

- วินาทีที่เจอน้องส่งข่าวกันยังไง ?
          เอ๋ นรินทร :
ตอนที่รู้ข่าว ทีมของพวกเราก็ขึ้นมาพักที่รีสอร์ทพอดี พวกเราก็รู้ข่าวก่อนออกทีวีแค่ 1 นาทีเองค่ะ ก็เฮกันเลย

          เป้ เรืองฤทธิ์ : ตอนนั้นพวกเรากำลังจะกินข้าวกันครับ ก็รีบกิน หลังจากนั้นก็รีบแต่งตัวเพื่อที่จะกลับไปที่ถ้ำหลวงเผื่อว่า เขาจะต้องการความช่วยเหลือรีบไปสแตนบายครับ


- มีหลายคนชื่นชมว่าเป็นฮีโร่ ?
          เอ๋ นรินทร :
หลาย ๆ คนก็มาเรียกพวกพี่ว่าฮีโร่ ก็พูดเลยนะคะว่าไม่ใช่ว่าแค่ตรงนี้ เราไม่กล้ารับคำนี้ เพราะว่าอันนี้มันเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่มากพวกพี่ทุกคนถือว่าเป็น เกียรติในชีวิตด้วยซ้ำที่ได้มีส่วนร่วมเล็ก ๆ ในภารกิจครั้งนี้ คำว่าฮีโร่หรือซุปเปอร์ฮีโร่มันอีกเยอะมากเลยที่สมควรจะได้รับ เรามันเป็นแค่มดปลวกตัวเล็ก ๆ ไม่ต้องให้เกียรติเราขนาดนั้นก็ได้ ไม่จำเป็น มันเป็นหน้าที่ของคนไทยที่ต้องช่วยกันค่ะ

          เป้ เรืองฤทธิ์ : ในส่วนของนักดำน้ำเองนะครับ ผมก็ขอพูดแทน ทุกคนว่า โดยเฉพาะทีมทหารบก หน่วยป.พ. หน่วยป่าไม้ ที่เขาเป็นคนยกอุปกรณ์ของหนักเข้าไปในถ้ำ โถง 3 ถ้าเกิดเราไม่ได้พวกเขา เราก็ดำน้ำไม่ได้เหมือนกัน เราไม่สามารถที่จะแบกอุปกรณ์พวกนั้นเข้าไปหมดได้ แล้วถ้าเกิดเราแบกเข้าไปเองเราก็ไม่สามารถดำน้ำได้เหมือนกัน

- ในฐานะที่เราเป็นนักดำน้ำหนักใจไหมที่จะต้องนำน้อง ๆ ออกมาโดยวิธีการดำน้ำ ?
          เป้ เรืองฤทธิ์ : หนักใจแน่นอนครับเพราะว่า คือต่อให้เราวางแผนดีแค่ไหนก็แล้วแต่ทุก ๆ เหตุการณ์เราก็รู้สึกหนักใจ กลัวว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น


- อยากจะบอกอะไรกับน้อง ๆ ทั้ง13คน ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ใจดีที่ไปช่วยออกจากถ้ำ ?
          เอ๋ นรินทร :
อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าอย่าโทษตัวเอง ที่ทำให้ต้องเกิดเรื่องราวเสียเงินมากมายหรือว่า เสียคนไปหรืออะไร อย่าไปลงโทษตัวเองเด็ดขาดเพราะว่า เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ก็แค่ให้น้องน้องรอดปลอดภัยออกมา ทุกคนก็แฮปปี้แล้ว เหลือน้อง ๆ ก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่ทุกคนแฮปปี้แล้ว แล้วก็พยายามอย่าฟังเยอะ หนูมีหน้าที่ทำอะไร หนูทำให้เต็มที่ เรียนหนังสือให้เต็มที่ เล่นกีฬาให้เต็มที่ ไปเอาชนะ นำรางวัลกลับมาให้ทีมนั่นคือ รางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนไทยทั้งประเทศแล้ว

- ฝากถึงคนที่เสพข่าวนี้แล้วนำมาตีความกันต่าง ๆ นานาหน่อย
          เอ๋ นรินทร : อยากจะบอกนะคะว่า ถ้าเอาข่าวให้ชัวร์ แล้วก็ให้ถูกต้องและชัดเจนที่สุด ข่าวจากทางราชการถูกต้องและชัดเจนที่สุดแล้วค่ะ บางครั้งเราก็เข้าใจว่าทุกคนอย่างที่จะ มีส่วนร่วม แสดงความรู้สึก แต่บางทีพอมันไปแล้วมันพลาดเนี่ย มันก็ กลับมาแล้วถูกตีความกันไปอีกแบบหนึ่ง แล้วมันก็จะมากคนมากความ ขึ้นด้วยเรื่อย ๆ ฉะนั้น ก่อนจะแชร์ก่อนจะอะไรช่วยเช็กก่อนสักหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้เรื่องพวกนี้มันไวมาก รบกวนนิดนึงนะคะ และตอนนี้มัน Happy Ending แล้ว เด็ก ๆ มีชีวิตใหม่อย่างสมบูรณ์แล้ว คือเหมือนได้เกิดใหม่ เขาก็เป็นลูกหลานคนไทย เราก็ดูแลเขาอย่างดีที่สุด ในสิ่งที่ควรจะทำ แล้วก็อย่าให้เด็กน้อย ๆ ต้องมารับรู้อะไรในสิ่งที่มันไม่สมควร เพราะจะทำให้เขารู้สึกติดใจกับความรู้สึกแย่ ๆ ไปตลอด ใส่แต่เรื่องที่ดีให้เขา เขาจะมีชีวิตที่ดีแน่นอนค่ะ

          ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอ๋ นรินทร เปิดใจนาทีช่วยภารกิจถ้ำหลวง-ไม่ขอรับคำว่าฮีโร่ ดีใจที่ทีมหมูป่าปลอดภัย โพสต์เมื่อ 13 กรกฎาคม 2561 เวลา 21:06:31 6,289 อ่าน
TOP