หลังออกจากโรงพยาบาลไม่ทันไร ก็ลุยทำงานต่อแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงและผู้จัดคนเก่ง หนิง ปณิตา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีอาการเครียดและพักผ่อนน้อย จนวูบล้มหมดสติ ต้องใส่เฝือกคอและนั่งรถเข็น ทำกายภาพบำบัดอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายวัน และตอนนี้อาการของเจ้าตัวก็ดีขึ้นมากแล้ว
แต่ก็ไม่วายโดนเมาท์หนัก ทั้งโดนข่าวลือว่าถูก จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ สามี ซ้อมจนเดี้ยง ไปจนถึงขั้นแกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจกันเลยทีเดียว ทำเอาสาวหนิงปรี๊ดแตก ต้องออกมาโพสต์ไอจีตอกกลับแรงว่า "คนแบบนี้มีปากไว้แค่พูด"
ล่าสุด (26 มีนาคม 2562) ไนน์เอ็นเตอร์เทน รายงานว่า ทีมข่าวได้พบเจอกับสาวหนิง จึงสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าตัวชี้แจงว่า ข่าวลือที่ว่าเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกสามีซ้อม ไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าตกใจที่ได้ยินข่าว ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน และตนก็ยังไม่ได้คุยกับสามีเรื่องข่าวนี้ แต่ถ้ามีการใช้ความรุนแรงในชีวิตคู่ ตนคิดว่ามันก็ไม่ควรจะเป็นชีวิตคู่แล้ว และตนคงไม่อยู่ ต่อให้สตรองแค่ไหนก็คงอยู่ไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวเมาท์ว่า สาเหตุที่สาวหนิงล้มป่วยจนเข้าโรงพยาบาล เป็นเพราะเครียดที่สามีแอบนอกใจไปซุกกิ๊ก อีกทั้งก่อนหน้านี้เจ้าตัวยังเคยร้องไห้ขณะไปกินข้าวกับ เป้ย ปานวาด เพื่อนสนิท และยังโพสต์อินสตาแกรมสื่อความหมายเป็นนัย ๆ ว่า "รักจริงต้องให้อภัย รักจริงต้องซื่อสัตย์ ความรักไม่ได้ทำให้ทุกข์ ความไม่ซื่อสัตย์ต่างหากทำให้เธอทุกข์"
เรื่องนี้สาวหนิงไม่ได้ตอบรับว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และก็ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ขอตอบ อยากให้ไปถามสามีเอง เพราะคงตอบคำถามให้ไม่ได้
คุณแม่ลูกหนึ่ง เผยว่า มันก็มีเหนื่อยบ้าง เรื่องที่ผ่านมาเป็นธรรมชาติของชีวิตคู่ ทำให้เข้าใจความเป็น "ผู้ชาย" มากขึ้น และขอยืนยันว่าครอบครัวยังมีความสุขยังอบอุ่นดี ทุกเรื่องราวในชีวิตคือบทเรียนดี ๆ บทหนึ่งที่ผ่านเข้ามา ถ้าหากเราทำความเข้าใจกับมันได้ มันก็จะสามารถเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้
ถ้าถามว่า จิน ยังเป็นสามีที่ดีอยู่ไหม ตนก็ขอตอบว่าเขายังเป็นคนที่ดีและน่ารักอยู่ และขอยืนยันว่าครอบครัวยังมีความสุข ยังอบอุ่นดี ตอนนี้ น้องณิริน ลูกสาววัย 6 ขวบ ยังไม่รับรู้ข่าวที่เกิดขึ้น แต่เรื่องแบบนี้ก็คงถึงหูลูก แต่ตนก็หมั่นปรึกษาจิตแพทย์เด็กอยู่เสมอ ว่าควรเลี้ยงดูลูกอย่างไรในแต่ละช่วงวัย
สำหรับอาการเจ็บป่วยที่เพิ่งผ่านมา สาวหนิงยืนยันว่าไม่ได้ถูกสามีซ้อมแน่นอน แต่ป่วยจริง ไม่ได้แกล้ง ไม่ได้สร้างกระแสเรียกร้องความสนใจ และไม่มีใครอยากเสียเงินครึ่งล้านนอนโรงพยาบาลเล่น ๆ แต่ถ้าหากมีคนที่คิดแบบนั้นจริง ตนก็คงต้องเตือนตัวเองว่าควรอยู่ให้ห่าง ๆ
สาวหนิง กล่าวอีกว่า ตอนนี้อาการโดยรวมดีขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ยังคงต้องเข้ารับการฝังเข็มและทำกายภาพบำบัดอยู่ ตนเลือกออกโรงพยาบาลมาทำงาน เพราะไม่อยากป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และตนถือคติว่า "ล้มไม่ได้" เพราะงานกับลูกคือความสุข
ภาพจาก Instagram ningpanita, jintumwattana
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน