จากกรณีที่อดีตนักร้อง ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง ถูกจับกุมพร้อมแฟนหนุ่ม และชาวไต้หวันอีก 1 คน ภายในบ้านพักย่านถนนรามอินทรา พบหลักฐานเป็นยาเสพติดหลายรายการ ทั้ง ยาเค, ยาไอซ์, ยาบ้า, ยาอี, กัญชาแห้ง และอุปกรณ์การผลิตยาเสพติด
ล่าสุด (19 มิถุนายน 2562) รายการโหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ เปิดใจสัมภาษณ์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ถึงคดีที่เกิดขึ้น
พี่โพสต์ว่าปุ๊กกี้มีสิทธิ์ประหารชีวิต ขนาดนั้นเลยเหรอ ?
เดชา : เพราะยาเสพติดที่จับได้มีตั้ง 12 รายการ ดูที่เขาแถลงข่าว รายการหลัง ๆ จะเป็นพวกยาไอซ์ทั้งนั้นเลย หนึ่ง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 คือ เคตามีน น้ำหนักรวม 5,170 กรัม บรรจุในถุงใส ซุกซ่อนในที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลมสีบรอนซ์สลับดำ จำนวน 39 ชิ้น ภายในกล่องกระดาษสีน้ำตาล 4 กล่อง มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 เคตามีน น้ำหนัก 2 กรัม บรรจุในขวดน้ำยาสระผม
เคตามีนเหมือนกัน ทำไมต้องแยก ?
เดชา : เพราะมันอยู่ในภาชนะที่ต่างกัน ต้องแยกหมดเลย ถ้าหลายที่หลายทาง ความรับผิดต้องดูว่าใครเกี่ยวข้อง 3 ถึง 6 เป็นยาไอซ์หมดเลย และมียาบ้าด้วย ยาบ้าสีส้ม มีอยู่ 8 เม็ด อยู่ในถุงซิปล็อก มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 เอ็กตาซี 10 เม็ด อยู่ในถุงซิปล็อก มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 เคตามีนอีก รวมทั้งมีวัตถุต้องสงสัยคล้ายกัญชา น้ำหนักรวมห่อหุ้ม 10 กรัม
ทั้งหมดประมาณ 13 รายการ แล้วยังไง ?
เดชา : ไม่ต้องไปดูอย่างอื่น ดูแค่ยาไอซ์อย่างเดียว ยาเสพติดประเภท 1 มี 196.6 กรัม ก็ประหารชีวิตแล้ว ใครมีครอบครองเพื่อจำหน่ายก็โทษประหารนะ
ปัญหาที่เกิดขึ้น เธอยอมรับว่าทำเอง ได้ลดโทษไหม ?
เดชา : โดยทั่วไปที่ศาลตัดสินก็สัก 25 ปี ถ้ารับสารภาพทุกอย่าง แต่ถ้าไปซัดทอด ไปจับตัวการใหญ่ ได้ยาเสพติดมามากกว่าที่จับ อันนั้นก็จะลดลงจาก 25 ปี อาจเหลือ 10 ปีก็ได้ เรื่องเกิดเพราะชาวไต้หวันเขาไปเปิดโรงแรมเพื่อรอรับเคตามีน เขาเปลี่ยนที่พักตบตาเจ้าหน้าที่ ต่อมาตำรวจไปสืบว่าไปพักที่ลาดกระบัง เตรียมกลับไต้หวันวันที่ 18 ตำรวจไปจับ พบของกลางเป็นที่เขี่ยบุหรี่ และมีการขยายผลไปถึงชลวิทย์ สามีคุณปุ๊กกี้ เขาบอกว่ามีนายทุนใหญ่ชาวไต้หวันให้การซัดทอด เขาบอกสามีปุ๊กกี้ขับรถนำยาเคไปส่งให้ที่ลาดกระบัง ตำรวจก็เลยจับได้ทั้งสองคน
ถ้าคุณปุ๊กกี้สู้มาว่าไม่รู้เรื่อง อยู่บ้านเฉย ๆ ?
เดชา : ก็สู้เหมือนคดีเอมี่ไง คดีหลุดไปคน กลายเป็นเหลือแค่เสพ อันนี้ภาพคล้าย ๆ เอมี่เลย คดีนั้นทนายเขาสู้ โดนแค่เสพ จำคุกแค่ 3 เดือนนะ
แต่ปุ๊กกี้เขารับสารภาพ ?
เดชา : คดีนั้นคุณเอมี่เขาปฏิเสธอย่างเดียว ว่าเขาไม่รู้เรื่องว่าสามีมียาเสพติดในบ้าน เขาเลยหลุดไป แต่ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ก็ขึ้นศาลเหมือนกัน
โทษหนักถึงประหารเหรอ ?
เดชา : เพราะว่าถ้ามียาเสพติดประเภท 1 สารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัม จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต กฎหมายเขียนไว้ชัดเลย โทษไม่ประหารก็จำคุกตลอดชีวิต มีแค่สองอย่าง ถ้ารับสารภาพก็เหลือ 25 ปี ลดเต็มที่แล้ว แต่ถ้าเกิดซัดทอดต่อ ซื้อยามาจากใคร จับได้ก็ลดอีก อาจเหลือ 10 ปี หรือต่ำกว่า 10 ปีก็ได้ เขาเรียกมาตรา 100/2
ในมุมพี่มองยังไง ?
เดชา : ผมมองว่าถ้าถูกจับคาหนังคาเขา เราก็ไม่ควรสู้ เพราะมันชัดเจน คดีนี้เป็นการจับโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือท่านรองสมเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เขาวางแผนสืบมานาน พยานหลักฐานค่อนข้างชัด ไม่ควรสู้คดี
ถ้าตอนแรกเขาออกตัวว่าแค่เสพ อาจยังมีโอกาส ?
เดชา : ถ้าบอกว่าแค่เสพก็จะคล้าย ๆ กับคดีเอมี่ ก็ไปสู้คดี หรือไปจ้างทนายสู้คดี แล้วศาลจะเชื่อไหม แต่โดยทั่วไปจับขนาดนี้ คาหนังคาเขาไม่น่ารอด
เขาบอกว่าอาจไปถึงขั้นผลิตเลยคืออะไร ?
เดชา : คือมันมีน้ำยาแปลก ๆ ที่เขาเจอ เอามาผสมแล้วทำเป็นยาเสพติด อันนี้เรียกผลิต เอาอะไรต่าง ๆ มาผสม ทีนี้การผลิตพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ นอกจากเอาสารเคมีมาผสมกับยาเสพติดแล้ว มันยังหมายถึงการบรรจุ เห็นไหมมีถุงซิปเล็ก ๆ การแบ่งจำหน่ายเขาก็เรียกว่าการผลิต ก็เบากว่าการผลิต แบ่งเป็นถุง ๆ ซิปเล็ก ๆ ซอยย่อย
ข้อกฎหมาย โทษผลิตหนักไหม ?
เดชา : หนัก ครอบครองเพื่อจำหน่ายก็หนัก โทษสูงสุดคือประหารเหมือนกัน พอ ๆ กัน ผลิตเพื่อจำหน่ายเพื่อขายก็ตลอดชีวิต
แล้วตำรวจไปเจอแบบนี้ มันไม่ยิ่งทบคดีทบโทษไปเหรอ ?
เดชา : เขาดูฐานความผิดสูงสุด ถ้าประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นแล้ว เพราะมันนับโทษต่อไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น ยาไอซ์ 198 กรัม สารบริสุทธิ์มันก็ใกล้เคียงกัน เพราะยาไอซ์ส่วนใหญ่เป็นสารบริสุทธิ์ พอเกิน 20 กรัม ก็ประหารกับจำคุกตลอดชีวิต มาตรา 66 วรรคท้าย เพราะฉะนั้นโทษมันสูง รับสารภาพแล้วศาลอาจสั่งจำคุกตลอดชีวิตก็ได้ ไม่ 25 ก็ได้ ถ้าอยากลดโทษก็ต้องซัดทอด ล่อซื้อต่อ ซื้อยามาจากใคร ใครเป็นตัวการใหญ่ ไปล่อซื้อ จับได้มากกว่าของเดิม โทษก็จะลด
ที่บอกว่าจะมีดาราเข้ามา ?
เดชา : นี่ไง เขาเรียกมีการซัดทอด ซัดทอดไปจับดารา ก. พอซัดทอดก็จับ ๆ ลดโทษได้มากกว่ากึ่งหนึ่ง
ที่มีข่าวว่าคดีเรื่องเงิน 10 ล้านที่หมุนเวียน และมีบัญชีที่โยงไปถึงดาราบางคนที่โอนเงินเข้ามา ?
เดชา : คุณปุ๊กกี้เขาถูกจับค้ายาเสพติด เขายอมรับว่าทำมานานแล้ว ดาราพวกนั้นจะติดต่อเขาเพื่ออะไร ยาไอซ์ ยาเค ยาบ้า
อาจติดต่อขายอาหารเสริมหรือเปล่า ?
เดชา : ก็ต้องดูว่าประกอบอาชีพขายอาหารเสริมหรือเปล่า ถ้าไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องอาหารเสริมก็ต้องฟันว่าซื้อยาเสพติด พวกนั้นก็ติดคุกเหมือนกัน โดนข้อหาครอบครองยาเสพติดหรือข้อหาเสพก็ว่ากันไป แล้วเส้นทางเงิน มีเงินเข้าเงินออกก็ต้องรู้แล้วว่าติดต่อกันเรื่องอะไร ยิ่งมีเงินเข้าเงินออกมีความถี่มาก มันก็เรื่องยาเสพติดอย่างเดียว พอโดนยาเสพติดก็ไปกฎหมายฟอกเงิน
ในปี 2555 คุณยู่ยี่ อลิสา ถูกจับ มียาเสพติดเป็นโคเคน 1 ถุง น้ำหนัก 251 มิลลิกรัม น้อยมาก เอาเข้าจากเวียดนามมาไทย ถูกจับได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ตำรวจพบพิรุธเลยไปขอค้นตัว เจอโคเคนในกระเป๋าเดินทาง
ศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี ปรับ 1.5 ล้าน ?
เดชา : ถ้าจำไม่ผิด ปี 2555 เป็นกฎหมายเก่า โทษมันหนัก ถ้ากฎหมายปัจจุบัน กรณีดังกล่าวเขาเรียกว่าการนำเข้า ไม่จำเป็นต้องมากหรือน้อย แค่นำเข้ามาโทษขั้นต่ำก็ 10 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต โทษมันหนักไง การนำยาเสพติดหรือส่งออกโทษมันหนักเป็นเรื่องอันตราย
ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ ?
เดชา : ไม่เกี่ยวกับเรื่องจำนวนมากหรือน้อย แค่นำเข้ามา ก็ต้องระวัง โทษมันหนัก
ตอนนี้มีสายกับคุณเต๋า ทีวีพูล คุณเปิดประเด็นว่าจะมีดารา ส. คนหนึ่งติดคุก คนเขาดึงไปเกี่ยวกับปุ๊กกี้ที่มีคดียาเสพติด ใช่หรือเปล่า ?
เต๋า : คนละคดีกัน อันนั้นโดนฟ้องเท็จ คนละคดีกัน ปุ๊กกี้เป็นคดียาเสพติด แต่อันนี้ฟ้องเท็จ คนละคดีกัน
ที่เขียนมาว่าดาราติดคุกเยอะนะพักนี้ เดี๋ยวจะมีดาราติดคุกอีกคน คือ ส. ?
เต๋า : ก็ฟ้องเท็จไงคะ ต้องถามพี่ทนายข้าง ๆ ว่าฟ้องเท็จคดีอาญามันเป็นยังไง
เดชา : ติดคุก 5 ปี
เต๋า : นั่นแหละมันไม่ได้เกี่ยว วงการบันเทิงไม่มีใครติดยา เป็นวงการใส ๆ คุณหนุ่มใส่ร้าย
สรุปคุณไปโหนเรื่องปุ๊กกี้เขาว่างั้น ?
เต๋า : ไม่ได้โหน ปุ๊กกี้ก็ทำงานกับเขามาตั้งหลายครั้ง ปุ๊กกี้มันน้องเลยนะ
เขาเป็นยังไง ที่เคยรู้จัก ?
เต๋า : เขาเป็นคนดีนะ โดยส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวกับยาเสพติด เป็นคนที่นิสัยน่ารัก ใจถึงพึ่งได้ เป็นคนรักลูก มีอะไรเกี่ยวกับลูกจะเซนซิทีฟมาก น่ารัก คุณหนุ่มน่าจะเคยเจอเขานะ แต่เรื่องยาเสพติดเราไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปทำอะไรมา เพราะหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย
ระแคะระคายไหม ?
เต๋า : ไม่มี ๆ ตอนนั้นเจอกัน เขาพาไปเยี่ยมลูก หนีผัวเก่ากัน แล้วขับรถหนีกันมา
คุณอย่าไปอ้างอย่างนั้น ?
เต๋า : อ้าว เขามีผัวกี่คนล่ะ ไม่บอกว่าคนไหน เราสนิทกัน
ตอนเขาถูกจับ ตกใจไหม ?
เต๋า : ตกใจเลย มาดูตอนเช้าตีสี่ลูกสาวโดนรวบ ยังไงล่ะ เราก็ตกใจ คุณหนุ่มไม่ตกใจเหรอ คนในวงการโดน เขาก็น่ารักกับเราตลอด
จะไปเยี่ยมไหม ?
เต๋า : เดี๋ยวรอดูก่อน ปุ๊กกี้เขาเคยมาร่วมรายการพี่ต้อย แอ็คเนอร์ เคยร่วมกันเป็นพิธีกร น่ารัก ถ้ามีโอกาสจะไปเยี่ยม
ส. ไม่ได้เกี่ยวกับคดีนี้ ?
เต๋า : ไม่เกี่ยว แต่จะติดคุกเหมือนกัน
คนเลยไปจับจ้องดารา ส. ?
เต๋า : ไมใช่ แล้วอย่าไปบอกว่าเป็นคนโน้นคนนี้ไม่ใช่เลย
ตอนนี้คนไปตามคุณนุ๊ก สุทธิดา เยอะเลยตั้งแต่คุณไปพิมพ์เนี่ย ?
เต๋า : ไม่ใช่ นุ๊กเขาเปลี่ยนศาสนา มีลูกไปแล้ว เมื่อก่อนเขาเปรี้ยว เดี๋ยวนี้เขาเรียบร้อยแล้ว
คุณพิมพ์แบบนั้น คนเลยเข้าใจแบบนั้น ?
เต๋า : อ้าว ทำไมไม่คิดว่า น. คะ คนจะรู้จักว่านุ๊กก่อนสุทธิดา
แล้ว ส. ที่คุณพูดคือใคร ?
เต๋า : บอกไม่ได้ เดี๋ยวมันตื่นตูม ไม่ได้
ถ้าบอกคุณจะเข้าไปกับปุ๊กกี้ ?
เต๋า : ไม่อยู่ ๆ คนละคดี
กรณีคุณจอยซ์ ไทรอัมพ์ส คิงดอม ถูกจับร่วมกับแฟน เป็นเอเย่นต์รายใหญ่ ?
เดชา : คดีจะติดมากติดน้อยดูที่จำนวนยาเสพติดเป็นหลัก สารบริสุทธิ์มากหรือน้อย ถ้าน้อยก็ติดคุกน้อย ดูตามสารบริสุทธิ์ แค่นั้นเอง
วันนี้สามารถกลับคำให้การได้ไหม ?
เดชา : ได้ เยอะแยะไป ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ในชั้นจับกุมให้การอย่างหนึ่ง พอขึ้นศาลก็ให้การอย่างหนึ่งก็เยอะ
แล้วมันช่วยได้เหรอในเมื่อพูดไปแล้ว ?
เดชา : บางคดีก็ชนะ บางคดีก็แพ้ ถ้าถามผมส่วนตัวเรารับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุม แถลงข่าวทุกอย่างเรียบร้อย เราไม่ควรสู้คดี สู้ยาก อย่าไปหลงเชื่อพวกกุนซือ หน้าม้าทั้งหลายเยอะ เดี๋ยวเข้าคุกจะมีพวกกุนซือ ขายใบลดโทษ มีแนวโน้มวิ่งคดีต่าง ๆ อย่าไปหลงเชื่อ
ถ้าคุณปุ๊กกี้โยนให้สามี ชี้เป้าให้สามี ว่าเขาไม่เกี่ยวข้อง แต่ถูกบังคับ ?
เดชา : ก็จะคล้าย ๆ คดีเอมี่ที่หลุด เพราะเขาบอกว่าของกลางเป็นของสามี เอมี่ก็หลุดเหมือนกัน
เอมี่ถูกจับมียาไอซ์ ครอบครอง 70 กรัม ศาลยกฟ้องคดียาไอซ์ แต่โดนเสพ เหลือ 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ?
เดชา : คดีนั้นสามีเขายอมรับว่ายาเสพติดเป็นของเขา ตัวเขาแค่เสพ อันนี้ก็ทั้งผัวทั้งเมียยอมรับทั้งคู่
ถ้าวันหนึ่งขึ้นศาล ชี้เป้าใหม่ได้ไหม ?
เดชา : ก็เป็นไปได้ ถ้าเจอทนายความ กุนซือดี ก็กลับคำให้การก็ได้ ถ้าสู้ชนะก็หลุด ก็คล้าย ๆ กัน แต่ถ้าไม่หลุดก็หนัก ประหารเลย ในเมื่อรับสารภาพแถลงข่าวขนาดนี้อย่าไปสู้เลย สู้ยาก ยาเสพติด
กรณีดาราที่เขาตามหาตัว อักษรย่อที่หลุดออกมา ถ้าเจอตัวความผิดเป็นยังไง ?
เดชา : ก็แล้วแต่ ถ้าซื้อน้อยความผิดก็น้อย น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น น้อยกว่า .375 มิลลิกรัม อันนี้ก็โดนแค่เสพ เอาไปรักษา แต่ถ้าเกิดซื้อบ่อยและไปขายต่อ ก็โดนข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ขั้นต่ำก็ 4 ปี ส่วนจะสูงสุดเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับปริมาณยาเสพติด
อย่างกรณีคุณยู่ยี่ ทำไมไม่ออกมาซะที ?
เดชา : อันนั้นโทษมันหนัก ข้อหานำเข้าไง นำเข้ายาเสพติดโทษมันหนัก 10 ปี ถึงตลอดชีวิต โอ้โห โทษหนัก ต้องใช้เวลานาน
ไม่สามารถสู้อะไรได้อีกเลย ตัวเธอพยายามสู้นะ ?
เดชา : โอ้โห อย่าสู้เลย มันชัดเจน ที่เขาจับในดอนเมือง ถ้าพยานหลักฐานชัดเจน การตรวจปัสสาวะ ยาเสพติด มันสู้ยาก
เขาโดนหนักเพราะ ?
เดชา : คำว่านำเข้า นำเข้าก็เหมือนผลิต โทษพอ ๆ กัน
ในมุมนักแสดง พี่มองยังไง มีนักแสดงถูกจับเรื่องยาเสพติด ?
เดชา : หนึ่ง นักแสดงได้เงินง่ายและชอบเที่ยวเตร่ คนเที่ยวเตร่ก็จะเสพพวกยาอี กินแล้วคึก เคยกินไหม
ไม่เคย ไม่ถูกกันกับยาเสพติด กลัวมาก ?
เดชา : เคนี่ใช้สูดดม ถามพวกขี้ยามา เคเอามาดม สัก 30 นาทีก็เมา ไม่ต้องกินเหล้า ตำรวจจะรู้เลย เวลาเข้าผับ ถ้าโต๊ะไหนเต้น ๆ ดิ้นสุด ๆ แต่เหล้าไม่เติมเลย พวกนี้คือดมเค ถ้าคุณเมาเหล้าแล้วเต้น เหล้าก็กิน ๆ ไปเรื่อย พวกนี้ให้สันนิษฐานไปก่อน เหล้าไม่ลด
เคตามีน ทำไมประเภทที่ 2 ทำไมไอซ์ประเภทที่ 1 ?
เดชา : เขาดูจากความร้ายแรง อันตรายต่าง ๆ ของฤทธิ์ยา
กระท่อมล่ะ ?
เดชา : กระท่อมโทษเบา เหมือนกัญชา ต่อไปกัญชาก็จะเสรีแล้ว
ปุ๊กกี้จะเป็นยังไงต่อไป ?
เดชา : ต้องขึ้นศาล เขาแจ้งข้อหาเบื้องต้นไป 2 ความผิด ต่อไปมีข้อมูลมากขึ้นก็แจ้งเพิ่มไปเรื่อย ๆ
โอกาสรอดไม่มี ?
เดชา : ไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่าติดคุกกี่ปี หรือประหารหรือไม่มากกว่า ก็แล้วแต่ ต้องดู ถ้ารับสารภาพก็จะลดลงมา ก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ ๆ คุกแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องเชื่อหน้าม้านะ เสียเงินวิ่งเต้นประกันตัวสู้คดี อย่าไปเชื่อ พวกที่ซ้ำเติมประชาชนเยอะ
