เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์นิวส์ออสเตรเลีย รายงานว่า ทีแกน มาร์ติน นางงามและนางแบบชาวออสเตรเลีย วัย 26 ปี เจ้าของมงกุฎ Miss Australia 2014 และ Top 10 Miss Universe 2014 ต้องติดอยู่ที่บาหลี ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับออสเตรเลีย เนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่าหนังสือเดินทางของเธอเปียก ส่งผลให้เธอต้องอยู่ที่อินโดนีเซียเป็นเวลานานเกินกว่าที่คาดคิดไว้ และต้องพลาดงานสำคัญไปอีกหลายงาน
ทีแกนได้โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมถ่ายภาพหนังสือเดินทางเจ้าปัญหาดังกล่าว ต้นเหตุคือรอยเปียกน้ำขนาดเล็กบริเวณมุมขวาบนของตัวเล่ม ซึ่งนอกจากนี้ก็ไม่ได้มีร่องรอยฉีกขาดเสียหายอื่น ๆ อีก เธอระบุข้อความระบายความรู้สึกว่า "ฉันอดขึ้นเครื่องกลับบ้านเพราะมุมพาสปอร์ตเปียกน้ำแค่นิดเดียว ใครเคยพบเจอเรื่องแบบนี้บ้างไหมคะ"
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อดีตนางงามสาวเสียความรู้สึกมาก และก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อใด ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ในคืนวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทีแกนมีกำหนดเข้าร่วมงานกาล่าการกุศลที่ Pyrmont Point ในมหานครซิดนีย์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระดมทุนช่วยเหลือกองทุนผู้ป่วยโรคมะเร็ง รวมทั้งหาเงินสนับสนุนโครงการป้องกันการฆ่าตัวตาย การติดอยู่ที่บาหลีทำให้ทีแกนไม่สามารถไปร่วมงานได้ และมันทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
หลังเกิดเหตุ ทีแกนก็ได้อัดคลิปลงอินสตาแกรมสตอรี่ว่า...
"ฉันคงต้องอยู่บาหลีนานกว่าที่คิดไว้ตอนแรก ขอบคุณทุก ๆ คนที่เป็นห่วง และขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่เคยพบเจอกับอะไรแบบนี้ ฉันเสียใจมากจริง ๆ ที่ไม่สามารถไปร่วมงานเลี้ยงการกุศลได้ ฉันรู้สึกแย่มากค่ะ เพราะฉันเฝ้ารอมันมานานมาก" ทีแกน กล่าว
ขณะนี้ ทีแกนกำลังพักผ่อนอยู่ที่บาหลี ซึ่งก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอจะแก้ปัญหาหนังสือเดินทางอย่างไร ทางเดลี่เมลก็ได้ติดต่อขอพูดคุยกับเธอแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้า
ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม 2562 เลกซี่ คาราคอสตาส เด็กสาวชาวออสเตรเลีย วัย 16 ปี จากเมืองเมลเบิร์น เคยประสบพบเจอชะตากรรมเดียวกันกับทีแกน เลกซี่กับเพื่อนได้เดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซีย และเมื่อเธอลงจากเครื่องบินเพื่อข้ามผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เธอผ่าน
ปัญหาของเลกซี่คือ รอยฉีกขาดบริเวณสันตรงกลางหนังสือเดินทาง เด็กสาวถูกแยกตัวออกจากผู้โดยสารคนอื่น ๆ เธอถูกกักตัวอยู่นาน 11 ชั่วโมง และต้องซื้อตั๋วบินกลับออสเตรเลีย เพราะเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย ได้ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางเอาไว้บนเว็บไซต์ และระบุตัวอย่างหนังสือเดินทางที่เสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งรวมทั้งหนังสือเดินทางที่เปียกน้ำ หรือมีรอยฉีกขาด
ถ้าหากความเสียหายไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลด้านใน หรือทำให้ข้อมูลเสียหาย รายละเอียดทุกอย่างยังสามารถอ่านได้ชัดเจน หนังสือเดินทางนั้น ๆ ก็สามารถใช้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในการพิจารณาตรวจสอบดู และผู้โดยสารอาจไม่รู้เลยว่าหนังสือเดินทางของตัวเองใช้ไม่ได้ มารู้ตัวอีกทีก็ติดด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเซียมีความเข้มงวดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางมาก และสามารถปฏิเสธไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเมืองได้หากเล็งเห็นว่าหนังสือเดินทางเสียหาย
นอกจากนี้แล้ว เดลี่เมลยังรายงานอีกว่า เมื่อเกิดกรณีผู้โดยสารถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ ทางการอินโดนีเซียจะเรียกเก็บค่าปรับแสนแพงจากสายการบินที่นักท่องเที่ยวนั้น ๆ เดินทางมายังอินโดนีเซีย คิดเป็น 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน หรือประมาณ 153,960 บาท