แม่น้องวันใหม่ โอนเงิน 210,000 คืน ออฟฟี่ แม็กซิม พิสูจน์ใจแม่ไม่ใช่คนโลภ แม้ลูกสาวเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ใครจะกล้ารับ เงินมาจากไหนก็ไม่รู้
จากกรณีที่ ที่คุณแม่น้องวันใหม่ ได้โอนเงินกว่า 210,000 บาทคืนออฟฟี่ แม็กซิม โดยพบว่า ออฟฟี่ได้เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยซื้อเครื่องช่วยหายใจให้น้อง ในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 แต่ไม่ระบุวันปิดรับบริจาค ก่อนที่จะมีการโอนเงินให้แม่น้องวันใหม่เพียง 13,550 บาท โดยไม่ทราบยอดบริจาคที่แท้จริง จนเมื่อเรื่องแดงขึ้นว่าอาจจะมีการโกงเงินบริจาค ในวันที่ 25 มิถุนายน ออฟฟี่ก็ได้โอนเงินให้แม่น้องวันใหม่ 210,000 บาท แต่แม่น้องวันใหม่ไม่รับ และจัดการโอนเงินจำนวนดังกล่าวคืนในวันเดียวกัน (อ่านเพิ่มเติม แม่น้องวันใหม่ โอนเงินบริจาคคืน ออฟฟี่ ชี้ ไม่ใช่เครื่องมือสร้างภาพใคร !)
ทั้งนี้ ออฟฟี่ได้ไลฟ์พูดถึงกรณีเปิดรับบริจาคของ น้องวันใหม่ ว่า ออฟฟี่ได้ยืนยันว่า เงินบริจาคทุกอย่างยังคงอยู่ และตนยอมรับว่า มีการเปิดรับบริจาคจริง แต่ที่ยังไม่ปิดรับบริจาค เพราะเครื่องช่วยหายใจราคาหลายล้านบาท จึงเปิดบัญชีไว้เลย เมื่อยอดเงินถึงแล้ว ถึงจะปิดบัญชีแล้วเอาไปซื้อเครื่องให้น้อง แต่ช่วงที่ตนขาดการติดต่อกับครอบครัวน้องวันใหม่ไป ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย แต่ตนไม่มีเจตนาโกงเลย
ทั้งนี้ ออฟฟี่ได้ไลฟ์พูดถึงกรณีเปิดรับบริจาคของ น้องวันใหม่ ว่า ออฟฟี่ได้ยืนยันว่า เงินบริจาคทุกอย่างยังคงอยู่ และตนยอมรับว่า มีการเปิดรับบริจาคจริง แต่ที่ยังไม่ปิดรับบริจาค เพราะเครื่องช่วยหายใจราคาหลายล้านบาท จึงเปิดบัญชีไว้เลย เมื่อยอดเงินถึงแล้ว ถึงจะปิดบัญชีแล้วเอาไปซื้อเครื่องให้น้อง แต่ช่วงที่ตนขาดการติดต่อกับครอบครัวน้องวันใหม่ไป ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย แต่ตนไม่มีเจตนาโกงเลย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ด้านทีมข่าว ได้สัมภาษณ์ น.ส.จิดาภา กุลธนบุญวัฒน์ หรือ เฟิร์น คุณแม่ของน้องวันใหม่ เผยว่า ตอนนี้น้องวันใหม่อายุ 6 ชวบ 6 เดือน และครอบครัวต้องดูแลน้อง 24 ชั่วโมง เพราะน้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ น้องวันใหม่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่อายุ 4 เดือน อันเกิดจากโครโมโซมผิดปกติ การดูแลต้องให้ยาน้องทุก 4 ชั่วโมง ดูดเสมหะ ให้นมและอาหารทางการแพทย์ทุก 6 ชั่วโมง เปลี่ยนผ้าอ้อม ทำแผล และพบแพทย์ทุก 3 เดือน
ส่วนค่าใช้จ่ายต่อเดือนนั้น ตกที่ราว 40,000 บาท ทั้งค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตนเองหารายได้เพียงคนเดียว และต้องดูแลตาที่ป่วย และยายที่เพิ่งออกจากงาน และหลานอีก 1 คน ซึ่งสิ่งที่ตนต้องการคือ เงิน เอาไว้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ หากเครื่องช่วยหายใจพังก็ต้องตามช่าง หากช่างไม่สะดวก ก็ต้องนั่งบีบเครื่องแอมบูลเอง
ส่วนประเด็นออฟฟี่ หลังมีประเด็นการรับบริจาคนั้น ก็มีคนมาต่อว่าน้องวันใหม่ ต่อว่าแม่ หาว่าโลภ แต่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ออฟฟี่ได้โอนเงินมาให้ตน 210,000 บาท และตนก็โอนเงินคืนไป หากตนโลภจริงตนก็คงเก็บเงินไว้แล้ว และที่ตนโอนเงินคืนนั้น เพราะไม่รู้ว่าเงินนั้นได้มาอย่างไร เรื่องบริจาค ส่วนตัวตนก็ยังรู้สึกดีกับออฟฟี่เหมือนเดิม
ส่วนค่าใช้จ่ายต่อเดือนนั้น ตกที่ราว 40,000 บาท ทั้งค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตนเองหารายได้เพียงคนเดียว และต้องดูแลตาที่ป่วย และยายที่เพิ่งออกจากงาน และหลานอีก 1 คน ซึ่งสิ่งที่ตนต้องการคือ เงิน เอาไว้เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ หากเครื่องช่วยหายใจพังก็ต้องตามช่าง หากช่างไม่สะดวก ก็ต้องนั่งบีบเครื่องแอมบูลเอง
ส่วนประเด็นออฟฟี่ หลังมีประเด็นการรับบริจาคนั้น ก็มีคนมาต่อว่าน้องวันใหม่ ต่อว่าแม่ หาว่าโลภ แต่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ออฟฟี่ได้โอนเงินมาให้ตน 210,000 บาท และตนก็โอนเงินคืนไป หากตนโลภจริงตนก็คงเก็บเงินไว้แล้ว และที่ตนโอนเงินคืนนั้น เพราะไม่รู้ว่าเงินนั้นได้มาอย่างไร เรื่องบริจาค ส่วนตัวตนก็ยังรู้สึกดีกับออฟฟี่เหมือนเดิม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
