จากเหตุการณ์กราดยิง ที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเอา นานา ไรบีนา วิตกกับเหตุการณ์นี้ไม่น้อย เพราะมีลูกน้องที่เป็นพนักงานร้านตัดผม เนเวอร์ เซย์ คัท สาขาเทอร์มินอล 21 โคราช ติดอยู่ในห้างด้วยนั้น
โดยล่าสุด (11 กุมภาพันธ์ 2563) one บันเทิง ได้เผยบทสัมภาษณ์ นานา เล่าถึงนาทีระทึก หาทางช่วยพนักงานของตัวเองที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน และมีคนเข้ามาขอหลบในร้านรวม 19 คน ซึ่งทั้งหมดนั้นปลอดภัยดี แต่ตลอดเวลา 5 ชั่วโมง ที่ตัวเธอต้องคอยพูดให้กำลังใจกับพนักงานและคอยประสานเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจมาก
โดยนานา เล่าว่า วันนั้นตนไปพักผ่อน พอได้รับโทรศัพท์จากน้องพนักงาน ว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาในห้างเทอร์มินอล 21 ซึ่งตอนนั้นปิดร้านแล้ว และมีคนอื่น ๆ ชาวต่างชาติเข้ามาหลบในร้านด้วย ใจตนอยากจะกลับ ไม่อยากไปไหนแล้ว เพราะห่วงพนักงานทุกคน เขาคือทีมงานของเรา ตนคุยตอนแรกแล้ว ตอนหลังก็บอกให้เขาดึงสายโทรศัพท์ออก เพราะต้องเงียบที่สุด การคุยคือต้องเงียบที่สุดเท่าที่จะเงียบได้ แล้วหลังจากนั้นก็ให้เลขาตนติดสายไว้ตลอดเลย
ส่วนตนเองก็ไปหาข้อมูล แต่ระหว่างนั้นก็จะ โทร. หาเลขา ซึ่งเลขาก็จะมีอีกหูที่ฟังน้องอยู่ เขาได้ยินอะไร เขาเห็นคนเดินผ่านร้านหรืออะไรก็ตาม บางทีข้อมูลที่เราให้ เราก็จะไปให้เขารู้สึกตกใจไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วตอนนั้นที่เขาเห็นตนก็ไม่รู้เป็นผู้ร้ายหรือเปล่า ตนก็จะบอกเขาว่าไม่เป็นไรนะ อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคือต้องคอยให้กำลังใจเขาด้วย ตนพยายามติดต่อทั้งทางห้างเอง หน่วยงานภาครัฐ เอกชนทุกฝ่ายเลยเพื่อที่จะแจ้งให้ทราบว่า คนของเราติดอยู่ในนั้น เป็น 5 ชั่วโมง ที่หายใจไม่ทั่วท้องเลย
คือมันรู้สึกว่าอยากจะให้เขาออกแล้ว แล้วมีช่วงหนึ่งจังหวะโทร. ไปหาเขาได้ยินในหูโทรศัพท์เป็นเสียงปืนดังประมาณ 6 นัดติดกัน ตนก็บอกให้ใจเย็น หลบไว้อย่าออกไป คือร้านที่โคราชเนี่ย สาขานี้เป็นร้านที่ค่อนข้างจะกระจกรอบเลย กระจกบานใหญ่ใสแจ๋ว แล้วก็ไฟสว่างมาก ไม่ได้ปิดเพราะว่าเป็นไฟห้าง แล้วห้างก็ไม่ได้ปิดไฟในร้าน แต่มีความโชคดีคือร้านมีห้องซักผ้า แต่เป็นห้องผนังเบาก็มีคนที่มาหลบในร้านก็ไปหลบอยู่ในนั้นด้วย บางส่วนก็หลบอยู่ตรงกำแพงข้างในร้าน หลบตรงโต๊ะแคชเชียร์อยู่ข้างหลังด้วย
ต่อมาทราบว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว คือรู้แล้วว่าตัวผู้ร้ายอยู่ตรงไหน ซึ่งเป็นชั้น LG อยู่ข้างล่างเรา 1 ชั้น แต่เหมือนตำแหน่งใกล้กันมาก เวลาเสียงปืนดังมันได้ยินชัดมาก สุดท้ายก็ได้รับการช่วยเหลือจากกู้ภัย ทหาร สห. ที่อยู่ตรงทางเดินจากลานจอดรถ ซึ่งร้านค่อนข้างจะใกล้พอสมควร พอหลังจากมีคนทราบว่ามีพนักงานของตนติดอยู่ตรงนั้น เลยมีคนมาตรวจการก่อนว่าจะเอาออกไปได้ไหม อีกสักแป๊ปน้องเขาก็เห็นคนชั้น 4 เริ่มทยอยลงมา ก็เลยค่อย ๆ เดินออกแล้วมีเจ้าหน้าที่มารับตรงทางออก จังหวะที่เขาออกไปก็มีเสียงปืนดังอีก เขาก็หมอบกันที่พื้น เราก็ยังไม่วางหูและบอกให้น้องหมอบ ๆ พอสงบก็ไปปั๊มน้ำมันข้าง ๆ เราก็โทร. หาทุกคนจนถึงบ้านเรียบร้อย
ทั้งนี้ ตนได้โทร. หาพนักงานทุกคนให้หยุดเลย ไม่ต้องมาทำงานเลยแบบไม่มีกำหนด ทางบริษัทจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ปกติ คือตอนนี้เงินมันไม่สำคัญเท่าสภาพจิตใจพนักงาน เขาบอกตนว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตนฟังคำนี้แล้วรู้สึกว่าทุกคนไม่น่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลย แค่การกระทำของคนคนเดียวเพื่อเหตุผลส่วนตัวของตัวเองเท่านั้น
เหตุการณ์นี้มันโหดร้ายมาก เราเป็นประชาชน ห้างเราก็ต้องเดิน ให้เราใช้ชีวิตยังไง วันนี้อะไรคือความปลอดภัยของประชาชน ของทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ มันต้องมองไปที่แก่นว่าสิ่งที่เป็นสิ่งเร้าให้คนร้ายทำมันคืออะไร อันนั้นต่างหากคือจุดต้นตอที่จะแก้ปัญหาได้ ซึ่งตนก็เข้าใจว่ามันไม่ง่าย แต่วันนี้โลกนี้มันอยู่ยาก มันน่ากลัวจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับทางญาติผู้เสียชีวิตทุกคน ขอแสดงความนับถือจิตใจของทุกคนที่สู้ รวมถึงอยากจะส่งกำลังใจให้กับญาติผู้บาดเจ็บ ยังรักษาตัวอยู่ อยากให้หายกลับมาเร็วที่สุด และที่สำคัญมาก ๆ อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนด้วย