ทนายซาร่า รับเอง 6 ปีไมค์จ่ายไป 7 ล้าน ผ่านมือซาร่า 2.9 ล้าน-ชี้วาดิมไม่ขอตรวจ DNA

          วู๊ดดี้ : นายแบบที่มาทำงานที่เมืองไทยส่วนมาก เอเจนซี่ต่างประเทศจะส่งมา ก็จะอยู่ 3-4 เดือน

          วู๊ดดี้ : น้องเคยเข้ามาหางาน เข้ามาแคสติ้งงานที่เมืองไทยบ้าง แต่ผมไม่เคยร่วมงานกับน้องเลย

          วู๊ดดี้ : พอได้ยินครับ ถามพี่เต๋าเลยครับ (หัวเราะ)

          เต๋า : ส่วนใหญ่เพื่อนที่ได้นายแบบมาก็ได้มาตามที่เที่ยวนี่แหละ แล้วมารู้อีกทีว่าเขาเป็นนายแบบ เป็นโมเดล

          วู๊ดดี้ : ถ้าฮอตหน่อยก็ได้เยอะ มีงานเดินแบบอย่างแฟชั่นวีก ก็ได้ทุกแบรนด์ ถ่ายแบบก็จะได้ เพราะมีนิตยสารออนไลน์บ้าง แมกกาซีนบ้าง

          วู๊ดดี้ : เราก็คิดได้หลายแง่ ยิ่งเข้ากลุ่มเบื้องหลังเมาท์กันสนุกครับ เป็นเรื่องที่คนอยากรู้

          เต๋า : กลุ่มเบื้องหลังเมาท์ว่าไงบ้าง

          วู๊ดดี้ : เขาก็บอกว่าจะจับผู้ชายหรือเปล่า แต่ประเด็นคือ น้องนายแบบอายุ 19-20 เองนะ น้องเขาไม่ได้มีฐานะอะไรให้น้องเขาจับ ก็คิดว่าน้องเขายังมาทำมาหากินที่เมืองไทย เป็นความผิดพลาดหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ ผิดพลาดแล้วเลยตามเลย คนเขาก็เมาท์เยอะ เป็นกระแสมากเลย

          เต๋า : แหล่งข่าวบอกว่าเจอกันในผับที่ภูเก็ต

          เต๋า : ถ้าถามเรา เราเลิกกับคนเก่าแล้ว เราเจอคนใหม่ แล้วเรารักคนใหม่ เราอยากไปอยู่ภูเก็ตก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แล้วเขามีพื้นเพอยู่ในภูเก็ตอยู่แล้ว ทำมาหากินง่ายกว่าอยู่กรุงเทพฯ

          เต๋า : เข้าใจว่าไมค์น่าสงสาร เพราะโดนสังคมทีแรกประณาม สาปไมค์ไว้เยอะ ก็ต้องบอกว่าช่วงออกมายอมรับใหม่ ๆ คนด่าเยอะ โดยเฉพาะแม่ ๆ เลี้ยงเดี่ยวด่าเยอะ แต่พอวันหนึ่งเราได้รู้อะไรหลายอย่างว่าน้องส่งเสียลูกให้ลูกทุกบาททุกสตางค์เลย มีไม่มีส่งให้ก่อน ซึ่งมันหายากในสังคมไทย เพราะส่วนใหญ่ผู้ชาย 90 เปอร์เซ็นต์ในบ้านเราคือมักจะเทและทิ้งภาระให้ผู้หญิงและเด็ก แต่ไมค์ไม่ใช่ เขายังรักซาร่าและแม็กซ์เวลล์อยู่เลย ต้องบอกว่าเป็นครอบครัวที่น่าเศร้ามาก อีกคนรัก อีกคนหมดใจ

          เต๋า : ถามเรา เราก็เห็นใจซาร่า เพราะเขาเป็นผู้หญิงและเลี้ยงลูกคนเดียว แต่พอรู้ว่าไมค์ พิรัชต์ ส่งเสียเลี้ยงดูหมดทุกอย่าง มันหาผู้ชายแบบนี้ไม่ได้แล้วนะในสังคมแบบนี้ มันไม่มีแล้วนะ เป็นพ่อที่น่ารัก เรื่องนี้จริง ๆ ไม่มีอะไรเลย อดีตผัวเมียงอนกัน

          น้ำแข็ง : นานแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ค่ะ

          น้ำแข็ง : จริง ๆ เราจำดีเทลไม่ได้ เพราะเราค่อนข้างคอมเมนต์ปกป้องเพื่อนไปเยอะมาก แต่หลัก ๆ เลยที่คอมเมนต์จะเป็นข่าวที่เป็นข้อมูลเท็จ เรื่องการกีดกัน ขอยืนยันว่าไม่เคยมี เพราะซาร่าเปิดโอกาสให้คุณพ่อมาเจอตลอด เมื่อไรก็ได้ เราก็ปกป้องในส่วนที่ไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนไหนที่เป็นเรื่องจริงเราก็ไม่ได้ยุ่ง

          น้ำแข็ง : น่าจะพวกข่าวเท็จนี่แหละค่ะ ข่าวกีดกัน หรือเอาซาร่าออกมาสู้กันในศาล แล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้คนมาคอมเมนต์ ซึ่งคนภายนอกไม่ได้รู้ว่าจริง ๆ  ฝั่งซาร่าเจออะไรมาบ้าง

          น้ำแข็ง : มีปรึกษาบ้าง แต่ส่วนใหญ่เขาตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่า และจะเป็นทางทีมทนาย จริง ๆ ซาร่าเขามีสัญชาตญาณความเป็นแม่ เขาก็คิดถึงลูกก่อน หรือตัวพ่อของน้องแม็กซ์ เขาจะคิดถึงการปกป้องชื่อเสียงของทางนั้นก่อน ไม่งั้นเมื่อก่อนจะมีเรื่องอื่นมาอีกได้ แต่ก็ไม่มีข่าวอะไร เพราะเขาเลือกที่จะนิ่ง

          เต๋า : สาเหตุอะไรที่ทั้งคู่ไม่คุยกันเลยแล้วกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

          น้ำแข็ง : หนูคิดว่าเป็นการงอนกันหรือเปล่า เพราะเขาเคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่คบคนอื่นนะ ก็อาจทำให้มีการงอน มีความน้อยใจ และออกมาเป็นลักษณะอย่างนี้

          เต๋า : ซาร่ารู้ว่าไมค์ยังรักเขาอยู่และรักลูกอยู่ จริงไหม

          น้ำแข็ง : ไมค์รักลูกมาก ความผูกพันยังอยู่ตรงนั้น แต่ความรักอย่างชู้สาวถามว่ามีบ้างไหม ก็อาจจะมีบ้าง แต่พูดไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของเรา เขาก็งุ้งงิ้ง ๆ กันแบบนี้ตลอด

          น้ำแข็ง : คิดว่านะคะ แล้วก็มีประเด็นที่ว่ากลัวซาร่าจะเอาเงินตรงนี้ไปดูแลน้องเอมมิลี่ ซึ่งมันก็ไม่จริงนะคะ เพราะวาดิมก็ส่งเงินมาให้ตลอด แต่ช่วงนี้ส่วนใหญ่ครอบครัวซาร่าดูแลอยู่ แต่วาดิมติดต่อตลอด

          น้ำแข็ง : จริง ๆ เขาเคยมีง้องแง้งกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่วาดิมเริ่มรู้ว่านี่เป็นลูกของเขา เริ่มตั้งท้อง เขาก็พยายามดีกัน พยายามจะกลับมาและคุยเรื่องแต่งงาน หลักฐานเขาคุยกันเรื่องแต่งงานมีจริง หนูเห็นมาแล้ว แต่ด้วยระยะทาง ความไม่เข้าใจ บางทีคุยกับวาดิมเขาก็โกรธ ว่าทำไมคนมาว่าเขาไปด้วย

          เต๋า : น้องซาร่ากับวาดิมเจอที่ไหน

          น้ำแข็ง : เจอกันตอนแคสต์งานค่ะ ไม่ได้เจอในผับ เขาเจอกันตอนแคสต์งาน คุยสักพักก็ไปเที่ยวกันบ้างตามประสาคนสนิท

          น้ำแข็ง : จริงค่ะ มีเหตุผลนะ เราพยายามไม่ให้วาดิมออกมาพูด ซาร่าเขาอยากให้อยู่เงียบ ๆ แต่วาดิมไม่เข้าใจ เขาก็ถามว่า ถ้ายูให้ไอเงียบ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะลังเลว่าเพราะอะไร ใช่หรือไม่ แต่จริง ๆ แค่อยากทำให้วาดิมไม่ได้โดนไปด้วย

          น้ำแข็ง : หนูยังตอบไม่ได้เลยค่ะ แต่การกลับมาเจอกันและคุยกันหลังช่วงโควิดต้องมี แต่เขาไม่ได้หนีนะคะ เพิ่งคุยเมื่อวาน น้องบอกว่าอีก 2 เดือนอยากกลับมา แต่พอดูไปดูมาคงเป็นปลายปีหน้า เขาเห่อลูกมากจริง ๆ แต่ดีเอ็นเอต้องตรวจเพื่อความสบายใจ

          น้ำแข็ง : จริง ๆ ซาร่าค่อนข้างแยกไม่ให้แฟนใหม่กับลูกได้เจอกัน แต่ก็มีเจอกันประมาณ 2-3 ครั้ง น้องเขาก็เล่นกับวาดิมเหมือนพี่น้องเล่นกันสนุก

          เต๋า : แต่มีภาพนอนกอดกัน อาบน้ำให้กันแล้วนะ

          น้ำแข็ง : วาดิมมีสัญชาตญาณความเป็นพี่ชาย และตอนนี้มีสัญชาตญาณความเป็นพ่อเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เขาโกรธมากเวลาใครว่าแล้วโยงไปหาเอมมิลี่

          น้ำแข็ง : ถ้าว่ากันตามตรงเขาไม่พร้อมนะคะ แต่ถามว่ารับได้ไหม ตั้งแต่วันแรกเขารับได้ ตั้งแต่วันแรกที่เขารู้ เขาตั้งใจโฟกัสทำงานเพื่อหาเงินเตรียมให้น้อง

          น้ำแข็ง : สัก 6 เดือนได้ค่ะ น้องเป็นโมเดล ก็ต้องย้ายประเทศตามเอเจนซี่ที่ให้ไปประเทศโน้นประเทศนี้ แต่ตอนนี้เขาอยู่จีน

          ทนายกิ่ง : ก็ไปดูที่ศาลมาเหมือนกัน เพื่อดูว่าคำร้องเขียนยังไงบ้าง แต่พอไปถึงคำร้องอยู่ที่ท่านผู้พิพากษา ท่านกำลังอ่านว่าอะไรยังไงบ้าง ก็เลยดูไม่ได้ ต้องดูศาลสั่ง

          ทนายกิ่ง : ซาร่าอาจมีความงงนิดหนึ่งว่าต่อไปจะต้องเป็นยังไง การถอนมีผลดีหรือผลเสียกับเด็กมากกว่า ตอนนี้มีประเด็นในสังคม ถอนไปอาจคิดว่าจะยุติลง แต่ถามว่าผลเสียคืออะไร คือน้องอาจไม่ได้รับการอุปการะจากคุณพ่อในตอนที่เขายังเป็นเด็กอยู่

          ทนายกิ่ง : ถ้าเรื่องการถอน ซาร่าไม่ได้เครียดมาก แล้วแต่ทางคุณพ่อ คุณพ่อจะถอนก็เป็นสิทธิ์ของเขา ทางครอบครัวซาร่าก็คอยซัพพอร์ต

          เต๋า : แต่ซาร่าบอกว่าเขาไม่เคยขอเงินไมค์นะที่ผ่านมา ไมค์มีจิตใจที่รักลูกเขาเลยให้เอง

          ทนายกิ่ง : มันเครียดด้วยกระแสสังคมทั้งหมดอยู่แล้ว ตอนนี้ที่ผ่านมาคุณซาร่าไม่ได้เรียกร้องอะไร ทางคุณไมค์อยากให้ลูกเดือนละ 3 หมื่น 4 หมื่น 5 หมื่น ก็แล้วแต่

          ทีนี้เขาก็มีการคุยกัน ลูกเข้าโรงเรียนไหนดี เขารับผิดชอบให้ ที่ผ่านมาก็ได้คุยกัน แต่พอวันนี้เขาไม่ได้รับผิดชอบแล้ว ทางฝั่งซาร่าก็ต้องรับผิดชอบเอง แต่โชคดีที่ครอบครัวซาร่าช่วยได้ พอกลับไปอยู่บ้านที่ภูเก็ต ค่าใช้จ่ายก็น้อยลง ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ไม่ต้องจ่ายค่าคนขับรถ พี่เลี้ยงเด็ก เขามีปู่ย่าตายายช่วยเลี้ยงน้อง ทำให้ค่าใช้จ่ายมันน้อยลง ตรงนี้ครอบครัวเขาช่วยได้

          ทนายกิ่ง : เข้าใจว่าเรื่องครอบครัวนี้ค่อนข้างยาก คุณไมค์อยากจะเจอลูก อยากให้ลูกเรียนกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันฝั่งคุณซาร่าเขาก็ซัพพอร์ตเรื่องค่าใช้จ่ายในกรุงเทพฯ ไม่ไหว เขาไปอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าดีกว่า หลายอย่างเลยทำให้ไม่มีทางเลือก ต้องกลับไปอยู่ภูเก็ตเหมือนกัน ก็เข้าใจว่าน้องก็อยากเจอคุณพ่อมาก คิดถึงคุณพ่อ ฝั่งซาร่าก็ได้แจ้งไปแล้วว่าแม็กซ์เวลล์คิดถึงแดดดี้ ตอนนี้รอฝั่งคุณพ่อตอบกลับมา

          เต๋า : อะไรที่ทำให้เขาระเบิดลงไปยื่นฟ้อง

          ทนายกิ่ง : ถ้าคิดจากฝั่งของเรา อาจเป็นการสื่อสารกันไม่ค่อยลงตัวในช่วงมีนาคม พฤษภาคม ช่วงติดโควิด ช่วงที่ทางซาร่าพาน้องกลับไปอยู่ภูเก็ต ช่วงที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนคอนโด โรงเรียน แล้วตัดสินใจกันไม่ได้ คุณพ่อก็อยากให้รีบตัดสินใจ เพราะกลัวลูกไม่มีที่เรียน ฝั่งคุณแม่ก็คิดว่าอยากให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย อยากพาลูกไปดูโรงเรียน ดูสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ว่าลูกโอเคไหม มันเลยทำให้เขาไม่สามารถตัดสินใจช่วงโควิดได้

          ตอนปลายมิถุนายน กรกฎาคม ก็เริ่มพาลูกตระเวนดูโรงเรียน แต่มันไม่ทันแล้ว เพราะคุณไมค์ก็ไปยื่นคำร้องตั้งแต่มิถุนายนแล้ว พอไปยื่นแล้วคุณซาร่าก็ได้รับหมายศาลเดือนกรกฎาคม ก็ทำให้คนสองคนไม่คุยกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

          ทนายกิ่ง : เนื่องจากคุณพ่อถอนคำร้องไปแล้ว ต้องมาดูว่าศาลจะให้ทางเราคัดค้านไหม เราก็คุยกันอยู่ว่าจะยังไงดี

          ทนายกิ่ง : ไม่ให้ถอน ให้พ่อเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อันนี้เป็นทางคดี ถ้ามีการยื่นเข้ามาและอีกฝั่งหนึ่งได้สู้ไปแล้ว ศาลก็ต้องถามอีกฝ่ายหนึ่งด้วยว่าโอเคไหมที่จะถอนเรื่องออกไปจากศาล ตอนนี้ฝั่งซาร่าก็เข้าใจว่าน้องจะไม่ได้รับการอุปการะตอนนี้ แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจฝั่งคุณพ่อ แต่อนาคตถ้าทั้งคู่กลับมาคุยกันได้ ไม่แน่อนาคตอาจจับมือกันพ่อแม่ลูกไปจดทะเบียนก็แล้วแต่ หรือคุยกันได้อยากกลับมาอุปการะก็เป็นไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนก็ได้ เพราะที่ผ่านมาเขาให้การอุปการะกัน มีการเยี่ยมเยียนตลอดระยะเวลา 6 ปี คุณพ่อก็ได้เจอน้อง ซาร่าก็ให้สิทธิ์มาตลอด ก็อาจกลับมาเป็นแบบนั้นได้ ความจริงน้องแม็กซ์เวลล์รักพ่อมาก และแจ้งไปแล้ว ก็รอฝั่งคุณพ่อตอบกลับมาว่าจะยังไงบ้าง

          ทนายกิ่ง : เท่าที่ถามซาร่าเขาก็แจ้งมาว่าไม่ใช่ของจริง ฝ่ายวาดิมมีการถามเหมือนกันว่ามาจากไหน ใครเป็นคนทำ เขาก็โดนกระทบเหมือนกันเพราะเขาก็มีลูก เขาก็รู้สึกโดนกระทบหลายส่วนเหมือนกัน

          ทนายกิ่ง : เข้าใจว่าเกิดวันที่ 2 กรกฎาคม ได้ฟังมาก่อนหน้าที่จะหลุดแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันช่วงเดือนกรกฎาคม

          เต๋า : เรื่องปกติ อดีตสามีภรรยาทะเลาะกันเพราะมีลูก เป็นเรื่องปกติ

          ทนายกิ่ง : ถ้าดูจากข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา ที่ได้ไปก็น่าจะ 7 ล้าน แต่เงินผ่านเข้าบัญชีคุณซาร่าจริง ๆ สัก 2.9 ล้าน เงินค่าอุปการะเลี้ยงดู 3-5 หมื่น ค่าพี่เลี้ยง 1.2 หมื่น ค่าคนขับรถอีก 1.5 หมื่น อันนี้ฝ่ายคุณพ่อโอนให้คุณซาร่าในการจ่าย ส่วนเรื่องค่าประกัน ค่าโรงเรียน งานวันเกิด จิปาถะ ทางคุณพ่อจะจ่ายตรง เลยไม่ได้ผ่านบัญชีซาร่า

          ทนายกิ่ง : เท่าที่ถามคุณซาร่า เข้าใจว่าเขาไม่ได้รู้จักเป็นเพื่อนกัน ไม่เคยเจอกัน แต่เคยคุยผ่านวีแชต

          ทนายกิ่ง : พยายามให้เขาส่งมาให้ดูเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าเหมือนโดนบล็อกไปแล้ว พอโดนบล็อกข้อมูลหายหมด เขาคุยกันเรื่องอะไรเราไม่เห็นด้วยตา ก็ไม่อยากจะพูดออกไป

          ทนายกิ่ง : เราไม่ได้อยู่ตรงนั้นเราก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ถามเขาบอกว่าฝ่ายชายไม่เคยขอตรวจ วาดิมเขาก็เห็นข่าวตรงนี้เหมือนกันว่ามีการขอตรวจดีเอ็นเอ ทางคุณซาร่ากับวาดิมก็คุยกันว่าเขาไม่จำเป็นต้องตรวจนะ เขามั่นใจว่าเอมมิลี่คือลูกเขา เขาพูดประมาณแบบนี้

          ทนายกิ่ง : ทุกครอบครัวมีหมด มีความไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน ประเด็นคือทุกครอบครัวก็ต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจกัน ซึ่งมันต้องใช้เวลา แต่ถ้าทั้งคู่พยายามลดทิฐิ มองเพื่อลูกเป็นหลัก คือเวลาตัดสินใจทำอะไรเพื่อลูกทุกอย่างมันก็จะคุยกันได้ อยากให้มองประโยชน์น้องเป็นหลัก

          ทนายกิ่ง : ความจริงเขาพร้อมนะ อยากคุยให้เรียบร้อย ถ้าทางฝั่งคุณพ่อฝั่งคุณไมค์พร้อม ฝั่งคุณซาร่าก็พร้อมเหมือนกัน