x close

หมอเจี๊ยบ แจงดราม่า กระดูกร้าวก่อนชก 10 Fight 10 ต้องฉีดยาชา ที่มาคือแบบนี้ !

            หมอเจี๊ยบ ลลนา ขอเคลียร์สาเหตุ กระดูกร้าวก่อนขึ้นชก 10 Fight 10 กับ เชียร์ ฑิฆัมพร จนต้องฉีดยาชา หลังเจอคนดราม่าใส่ สงสัยว่าทำไม่ถูกต้อง
หมอเจี๊ยบ ลลนา

ภาพจาก Instagram diabutsara

            กลายเป็นประเด็นดราม่าต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับการแข่งขันระหว่าง 2 สาว หมอเจี๊ยบ ลลนา กับ เชียร์ ฑิฆัมพร ในรายการ 10 Fight 10 ซีซั่น 2 โดยทั้งคู่ต่างแลกหมัดกันอย่างดุเดือด และผลออกมาคือเสมอ ขณะที่เชียร์ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนมีการเปิดเผยจาก นุ้ย สุจิรา ว่า เจี๊ยบกระดูกซี่โครงหักตั้งแต่ซ้อม แต่ยังกัดฟันสู้ โดยไม่ได้ใช้อะไรดาม แต่ฉีดยาชาแทน ซึ่งก็มีคนสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แบบนี้อันตรายเกินไปไหม ทำไมยังขึ้นชกได้ หากบาดเจ็บทำไมไม่เลื่อนชกไปก่อน และยังมีคนสงสัยอีกว่าการที่หมอเจี๊ยบฉีดยาชา ทำให้ไม่แฟร์กับคู่ชกอีกคนหรือไม่

           อ่านข่าว : คนสงสัย หมอเจี๊ยบ ลลนา ซี่โครงหัก แต่ทำไมยังขึ้นชก 10 Fight 10

หมอเจี๊ยบ ลลนา

ภาพจาก Instagram diabutsara

           ล่าสุด (7 พฤศจิกายน 2563) หมอเจี๊ยบ ลลนา ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน IG ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง พร้อมเปิดใจเคลียร์ทุกประเด็นแบบชัด ๆ ดังนี้

           - ช่วงดึก ๆ คืนวันก่อนแข่ง ตนซ้อมชกท่าต่าง ๆ แต่เกิดอุบัติเหตุ ผิดท่า จนร่วงลงไปกับพื้น แล้วรู้สึกเจ็บมาก ทำอะไรก็เจ็บ ตามรูปที่น้ำตาไหลไปกินข้าวไป

           - คิดว่าแย่แล้ว พรุ่งนี้คงขึ้นชกไม่ได้แน่ ๆ แต่อะไรจะเกิดขึ้นถ้าชกไม่ได้กะทันหันแบบนี้ รู้สึกโกรธตัวเองที่มาเจ็บตอนนี้

           - เป็นห่วงทั้งรายการว่าจะทำยังไง คนที่รอดูคู่เราต้องผิดหวัง ทั้งตนเองและคู่ชกที่ซ้อมมานานก็เพื่อการแข่งวันพรุ่งนี้ ถ้าหาคนอื่นมาชกแทน หรือเลื่อนคู่อื่นมาก่อน เขาก็อาจไม่ได้พร้อม

           - ในหัวคิดว่าทำยังไงถึงจะชกวันพรุ่งนี้ได้ จึงปรึกษาอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก เฉพาะทางด้านกายภาพ ที่รักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ ระหว่างการซ้อมทั้งเชียร์และเจี๊ยบมาตลอด

           - ผลอัลตราซาวด์พบว่าอาการบาดเจ็บมาจากรอยร้าวที่กระดูกซี่โครง ทางเดียวที่จะทำให้ขึ้นชกได้คือฉีดยาชาบริเวณซี่โครงที่ร้าว เพื่อให้สามารถหายใจในสภาวะใกล้เคียงคนปกติ ไม่เจ็บเกินไป เพื่อสามารถถ่ายรายการให้ลุล่วงได้

          - ด้วยความเป็นหมอ ตนจึงประเมินตัวเองและรับได้กับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง จึงตัดสินใจขึ้นชกในสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ หากเป็นคนทั่วไปหรือนักชกคนอื่น ๆ อาจจะเลื่อนชกไปจนกว่าจะหายดี หรืออาจถอนตัวไปเลย

 หมอเจี๊ยบ ลลนา

 หมอเจี๊ยบ ลลนา

 หมอเจี๊ยบ ลลนา

           - ตนเป็นคนบอกเรื่องนี้กับพี่นุ้ย กับเชียร์ เรื่องกระดูกร้าวและใช้ยาชาเอง และทราบว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ได้มีเจตนาโกงหรือเอาเปรียบคู่ต่อสู้ หมอผู้รักษามีจรรยาบรรณและศักดิ์ศรีในการรักษาคนไข้อย่างเท่าเทียม

           - ตนเองไม่เคยอยากได้ชัยชนะถ้าต้องแลกมาด้วยการทำสิ่งที่ผิด หากผิดจริงตนคงไม่ทำ หรือหากทำก็คงเลือกที่จะไม่บอกใคร

           - ข้อเท็จจริงทางการแพทย์เกี่ยวกับยาชา คือ สามารถช่วยออกฤทธิ์ลดทอนความเจ็บปวดได้เฉพาะจุด เฉพาะที่ฉีดซี่โครงที่ร้าวเท่านั้น ไม่สามารถออกฤทธิ์ไปทั่วร่างกาย

           - ยาชาเพียงช่วยให้ตนหายใจแล้วไม่เจ็บจี๊ด ๆ หากระหว่างการแข่งโดนต่อยตรงอื่น ๆ ก็มีบาดแผล มีรอยช้ำ ยาชาไม่สามารถช่วยให้ตนต่อยได้ดีขึ้น หลบหมัดได้ดีขึ้น หรือมีพละกำลังใด ๆ มากขึ้น

           - ตนไม่สามารถฉีดยาชาทั่วร่างกายได้ เพราะไม่ใช่ใครที่ปวดแขนก็สามารถฉีดยาชาที่แขน ในทางตรงกันข้ามหากฉีดที่แขน จะทำให้กล้ามเนื้อสูญเสียการควบคุมการทำงานให้ดีตามปกติ ทำให้ลำบากกว่าเดิมอีก จึงไม่มีใครเขาทำกัน

           - ยาชา ไม่ใช่สารต้องห้าม และไม่ผิดกฎกติกาสากล เพราะความเป็นจริงคนถูกฉีดเองจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบในการแข่งขัน

           - หลังการแข่งมวยที่ตนยังดูแข็งแรงอยู่ เพราะตอนซ้อมฝึกมาหนักกว่าบนเวที บนเวทีชก 3 ยก แต่ซ้อมมา 6-8 ยก และที่ไม่มีรอยแผลจากการโดนชกเพราะหมัดส่วนใหญ่โดนเฮดการ์ด ไม่ได้ปะทะจัง ๆ ที่หน้า

          - หากหน้าถูกปะทะจากการโดนต่อย ยาชาที่กระดูกซี่โครงก็ไม่สามารถมีผลช่วยเซฟตนจากรอยช้ำหรือรอยแผลต่าง ๆ ได้แต่อย่างใด

 หมอเจี๊ยบ ลลนา

View this post on Instagram

ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วงนะคะ เจี๊ยบขอใช้พื้นที่นี้ในการอธิบายสิ่งที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับประเด็นการใช้ยาชาก่อนขึ้นชกมวยตามนี้นะคะ ช่วงดึกๆคืนวันก่อนแข่ง เจี๊ยบซ้อมชกท่าต่างๆที่จะใช้ในการแข่งขัน ปรากฎว่าเกิดอุบัติเหตุ ผิดท่าไป ทำให้เจี๊ยบร่วงลงไปกับพื้น หลังจากนั้นก็คือเจ็บมาก หายใจก็เจ็บ ขยับตัวทำอะไรก็เจ็บไปหมด ตามรูปที่น้ำตาไหลไปกินข้าวไป คิดว่าแย่แล้ว พรุ่งนี้เราคงขึ้นชกไม่ได้แน่ๆ ในหัวคิดแต่อะไรจะเกิดขึ้นบ้างถ้าเราชกไม่ได้กะทันหันแบบนี้ และได้แต่โกรธตัวเองว่ามาเจ็บอะไรตอนนี้ รายการจะทำยังไง คนที่รอดูคู่เราไม่ว่าจะทีมขาวหรือทีมดำต่างต้องผิดหวัง ตัวเจี๊ยบเองซ้อมมานานทั้งหมดเพื่อการแข่งขันวันพรุ่งนี้ คู่ชกเจี๊ยบก็ซ้อมมานานเค้าซ้อมมาเพื่อวันพรุ่งนี้แล้วเค้าจะชกกับใคร หรือถ้าให้รายการหาคนอื่นมาชกแทน ให้คู่อื่นเลื่อนขึ้นมาชกก่อนแทนคู่เจี๊ยบ เค้าก็อาจไม่ได้พร้อม ยังไม่ถึงวันของเค้า ในหัวเจี๊ยบคิดแต่ว่าจะทำยังไงได้บ้างให้สามารถขึ้นชกให้ได้ในวันพรุ่งนี้ เจี๊ยบจึงปรึกษาอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก และเฉพาะทางด้านกายภาพ (อาจารย์เป็นคนที่รักษาอาการบาดเจ็บต่างๆระหว่างการฝึกซ้อม ของทั้งทีมขาวและทีมดำ) ผลอัลตราซาวด์พบว่าอาการบาดเจ็บมาจากรอยร้าวที่กระดูกซี่โครง ทางเดียวที่จะพอทำให้สามารถขึ้นชกได้คือฉีดยาชาที่บริเวณซี่โครงที่ร้าว เพื่อให้สามารถหายใจในสภาวะใกล้เคียงคนปกติ หายใจแล้วไม่เจ็บจนเกินไป ให้สามารถขึ้นไปชกได้  ให้สามารถถ่ายรายการลุล่วงไปได้ ด้วยความที่ตัวเจี๊ยบเองเป็นหมอ เจี๊ยบประเมินตัวเจี๊ยบเองและรับได้กับความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง เจี๊ยบตัดสินใจขึ้นชกในสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ หากเป็นคนทั่วไป หรือ นักชกคนอื่นๆ อาจต้องเลื่อนชกไปอีกเป็นเดือนๆจนกว่าซี่โครงที่ร้าวอยู่จะหายดีก่อน หรือ ถอนตัวไปเลย เพราะทุกคนย่อมอยากไปแข่งในแบบที่สภาพร่างกายที่ตัวเองสมบูรณ์ที่สุด ไม่มีใครอยากลงแข่งทั้งๆที่กระดูกซี่โครงตัวเองยังร้าวอยู่ โดยเจี๊ยบเองเป็นคนบอกกับพี่นุ้ย บอกกับเชียร์ และคนอื่นๆเรื่องกระดูกร้าวและการใช้ยาชาเอง ส่วนตัวเจี๊ยบทราบว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ใช่มีเจตนาโกง หรือถือเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ หมอผู้รักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬามีจรรยาบรรณและศักศรีในการรักษาคนไข้ทุกคนอย่างเท่าเทียม และตัวเจี๊ยบเองไม่เคยอยากได้ชัยชนะถ้าต้องแลกมาด้วยการทำสิ่งที่ผิด หากเป็นสิ่งที่ผิดจริงเจี๊ยบคงเลือกที่จะไม่ทำ หรือหากทำคงเลือกที่จะไม่บอกใคร เพราะหากเจี๊ยบไม่บอกใครก็คงไม่มีใครรู้ด้วย (อ่านต่อในคอมเม้น)

A post shared by Lalana Kongtoranin (@jeab_lalana) on

           ทางด้าน เดียร์ บุศรา ก็ได้โพสต์ภาพที่หมอเจี๊ยบ นอนกับน้องหมา โดยมีคราบน้ำตาอาบแก้ม และภาพเอกซเรย์ซี่โครง กับภาพคอมเมนต์จากคนที่ต่อว่าหมอเจี๊ยบค่อนข้างรุนแรง พร้อมข้อความว่า "เดียร์ลงรูปนี้เพราะอยากให้รู้ว่าคนเราไม่ได้เข็มแข็งได้ทุกวัน ก่อนพิมพ์อะไร กระแสใด ๆ ขอให้เห็นใจและศึกษาหาข้อมูลกันก่อน"
 หมอเจี๊ยบ ลลนา

ภาพจาก Instagram diabutsara

View this post on Instagram

พี่เจี๊ยบพูดกับเดียร์ว่า "ซี่โครงหักเจ็บไม่เท่าไหร่ แต่ทางใจเจ็บมากกว่า" เดียร์ลงรูปนี้เพราะอยากให้รู้ว่าคนเราไม่ได้เข็มแข็งได้ในทุกวัน ก่อนพิมพ์อะไร กระแสใดๆ ขอให้เห็นใจและศึกษาหาข้อมูลกันก่อนนะคะ 🙏🙏🙏 ****ข้อเท็จจริงทางการแพทย์เกี่ยวกับยาชาคือ ยาชาสามารถช่วยออกฤทธิ์ลดทอนความเจ็บปวดได้ในบริเวณเฉพาะจุด เฉพาะที่ฉีดตรงซี่โครงซี่ที่ร้าวเท่านั้น เหมือนเวลาเราไปถอนฟันแล้วหมอฉีดยาชาตรงฟันที่จะถอน เราโดนหยิกขา ขาเราก็ยังเจ็บอยู่ดี ยาชาไม่สามารถออกฤทธิ์ไปทั่วร่างกาย ยาชาเพียงช่วยให้เจี๊ยบหายใจแล้วไม่เจ็บจี้ดๆ หายใจในสภาวะที่ใกล้เคียงกับคนปกติ หากระหว่างการแข่งเจี๊ยบโดนต่อยหน้า โดนต่อยท้อง หรือโดนต่อยตรงอื่นๆ ก็มีบาดแผล มีรอยช้ำ ยาชาไม่สามารถช่วยให้เจี๊ยบต่อยได้ดีขึ้น หลบหมัดได้ดีขึ้น หรือมีพละกำลังใดๆมากขึ้น และเจี๊ยบไม่สามารถฉีดยาชาทั่วร่างกายได้ เพราะไม่ใช่ใครที่ปวดแขน ก็สามารถมาฉีดยาชาที่แขน ในทางตรงกันข้าม หากฉีดยาชาที่แขนจะทำให้กล้ามเนื้อสูญเสียการควบคุมการทำงานให้ดีตามปติ ทำให้คำนวณแรงในการชกยากขึ้น ลำบากขึ้นกว่าเดิมอีก จึงไม่มีใครเค้าทำกัน ยาชา(Lidocaine)จึงไม่ใช่สารต้องห้าม และไม่ผิดกฎ​กติกาสากล หลังการแข่งมวยเจี๊ยบดูยังแรงดีอยู่เพราะตอนที่ซ้อม เจี๊ยบฝึกซ้อมมาหนักกว่าบนเวทีจริงเยอะ บนเวทีชกแค่ 3 ยก เจี๊ยบซ้อมมา 6-8 ยก หน้าเจี๊ยบไม่มีรอยแผลจากการโดนชก เพราะหมัดส่วนใหญ่โดน Head guard ไม่ได้ปะทะจังๆเข้าที่หน้าเจี๊ยบ และหากหน้าเจี๊ยบถูกปะทะจากการโดนต่อย ยาชาที่กระดูกซี่โครงก็ไม่สามารถมีผลช่วย save เจี๊ยบจากรอยช้ำต่างๆ หรือ save เจี๊ยบจากการหน้าแหก ดั้งหัก หรือเลือดกำเดาไหลได้เลย

A post shared by Butsara S. (@diabutsara) on

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอเจี๊ยบ แจงดราม่า กระดูกร้าวก่อนชก 10 Fight 10 ต้องฉีดยาชา ที่มาคือแบบนี้ ! อัปเดตล่าสุด 7 พฤศจิกายน 2563 เวลา 23:36:21 8,856 อ่าน
TOP