อาต้อ ลั่นไม่อาย ขอให้อั้มช่วยเหลือ เผยชีวิตลำบาก โดนโกงเงินล้านจนหมดตัว

          จากกรณีที่ อั้ม พัชราภา ได้ออกมาโพสต์ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออดีตนักแสดงอาวุโสที่เคยร่วมงานกันเมื่อสิบปีก่อน หลังอีกฝ่ายป่วยหนักหลายโรค ไม่มีคนดูแล และต้องขอข้าววัดกิน ล่าสุด (20 มกราคม 2564) อาต้อ ไกรสีห์ แก้ววิมล ก็ออกมาอัปเดตชีวิตผ่าน ถามสุดซอย ทางเนชั่น ช่อง 22 ด้วย

          โดยเผยว่า "ไม่ได้เล่นละครมา 3 ปี เพราะว่าเราไม่สบาย ร่างกายไม่ไหว ปวดกระดูก ปวดข้อ เป็นความดัน เป็นโรคหัวใจ ลิ่มเลือด เป็นไขมัน สิ่งสุดท้ายที่สาหัสสากรรจ์คือล้ม หัวไปฟาดกับพื้น สลบ เข้าโรงพยาบาล 7 วัน พอออกมาอยู่บ้านได้อาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ไม่ทราบ หมดสัญญาบ้านเช่าอีก อาก็หาที่อยู่ใหม่ พอหาที่อยู่ก็นึกถึงโกเขียว เรารู้จักกัน เขาเป็นคนดีมาก เป็นคนมีพระคุณกับอา ก็บอกว่าตอนนี้ไม่สบาย ร่างกายไม่ไหว ขอไปอยู่บ้านโกเขียวได้ไหม โกเขียวบอกว่ามาอยู่ได้ ไม่รังเกียจ แต่บ้านเป็นบ้านคนงาน พี่ต้อจะมาอยู่ได้ไหม ผมก็บอกว่าผมอยู่ได้ ที่เก่าอยู่ไม่ได้แล้ว มันหมดสัญญา"

          อาต้อ : อยู่คนเดียวตลอด ภรรยาเลิกกันนานแล้ว มีลูกคนนึง เป็นลูกสาว อายุ 32

          อาต้อ : เขาติดต่อมาไม่มากมาย พอเขามีเวลาว่างก็ติดต่อมา เพราะลูกสาวทำงานเขาไม่ได้มีรายได้มากมายพอที่จะช่วยเหลือเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็ช่วยเหลือพอเราอยู่รอดไป

          อาต้อ : มาหาครับ และบอกว่าอยู่ดี ๆ นะ อย่าให้ล้มนะ ถ้าล้มเดี๋ยวจะเดือดร้อน

          อาต้อ : ตอนนั้นนึกไม่ออก (หัวเราะ) นึกถึงโกเขียวคนเดียวเลย

          อาต้อ : ค่อยยังชั่วขึ้น แต่เวลาเดินจะเซ ร่างกายก็ไม่แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

          อาต้อ : เรื่องรายได้เขา เราไม่อยากไปเป็นภาระเขาอีกคนหนึ่ง ลูกไม่มีครอบครัว อยู่คนเดียว แต่รายได้คิดดูแล้วเดือนชนเดือน เลยไม่อยากไปรบกวนลูก

          อาต้อ : บ้านที่อาพัก เรื่องการกินการอยู่ บ้านหลังที่อยู่ ก็แบ่งกับข้าวใส่จานมาให้ ถ้ากลางวันคนทำโรงกลึงเขาก็ซื้ออาหารมาให้เราทาน 2 คนนี้ช่วยเหลือเราตลอด วันไหน 2 คนนี้ไม่อยู่ ก็ให้เด็กไปวัดขออาหารที่วัดมาทาน

          อาต้อ : ตอนนี้ลำบากสุด ๆ ครับ ไม่ใช่ที่สุด สุด ๆ เลย เหมือนเราลบศูนย์

          อาต้อ : ได้ครับ แต่บทอย่าเยอะ เพราะอายุ 75 ปีแล้ว ความจำมันอาจจะถอย

          อาต้อ : บางวันเล่น 2 เรื่อง มีเล่นกับอั้ม พราว กุหลาบเหนือเมฆ นายตำรวจตรวจหัวใจ ที่เติ้ล ลูกพี่ดวงดาว เป็นพระเอก เรือนแพ อาเล่นหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ ให้คุณไพรัช สังวริบุตร ที่จำแม่นคือเล่นกับไชยา มิตรชัย

          อาต้อ : 22 ปีครับ เข้าวงการตอนอายุ 50 ปี

          อาต้อ : ช่วงที่ผมมี กับตอนนี้ หน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนั้นมีเงินเก็บหลายแสนบาท

          โกเขียว : ก็เต็มใจนั่นแหละ แกลำบาก ก็บอกว่าถ้ามีปัญหาก็มาเลย ยินดีรับใช้ทุกอย่าง

          โกเขียว : ผมเห็นแกเป็นคนดี คนแก่ ช่วยได้เราก็ช่วย ๆ กันไป ผมก็บอกว่าให้มาดูที่พออยู่ได้ แกก็ชอบ ก็ทำห้องน้ำข้างล่างให้ แกก็อยู่ได้

          โกเขียว : แกก็บอกให้ฟังนั่นแหละ แกบอกว่ารายได้ไม่มี ลำบาก ปกติติดต่อกันไม่บ่อย 2-3 วันก็คุยกัน แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่หรอก

          โกเขียว : เคยเจอกัน 2 ครั้ง ตอนแกมาอยู่ที่นี่ ลูกสาวก็มาหา ได้นั่งคุยนั่งอะไรกัน หลัง ๆ ลูกสาวก็ไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่

          อาต้อ : ตอนนั้นมีตังค์ เล่นละครสนุกสนานก็อยากทำมั่ง คนบอกว่าทำสิ ดารามีเยอะแยะ ก็เลยเขียนบทขึ้นมา พล็อตเรื่องจนครบ ก็บอกว่าผมมีตังค์อยู่ 5 แสนนะ เขาบอกว่าดาราเอาจากช่อง 7 มา ไม่แพงเกินไป ดาราเขาใหม่ ๆ ก็มี คละ ๆ กันไป ก็เริ่มถ่ายทำ หนังใกล้จบก็ให้เขาไปตัดต่อเสริมโน่นนี่ เอ๊ะ ทำไมตังค์หมด ทุกอย่างจบแล้ว ทำไมหนังไม่มา รออีกสักเดือน เขาบอกว่าลงเสียงลงอะไรมันก็เลยช้า ก็รอ ๆ ไปรู้ข่าวอีกทีตากล้องของเราเอาละครเรื่องนี้ไปขายให้หุ้นส่วนอีกคน ประมาณ 3 แสน พอขายเสร็จอารู้ข่าว อาโกรธมาก ก็ตามหาตัวเขา เขาหนีไปอยู่เขมร ไปช่วยงานใครไม่รู้ พอกลับมาจะแจ้งตำรวจจับ ตายแล้ว เขาเสียชีวิต อาก็เลยอโหสิไป

          ก็เหลืออีกไม่เท่าไหร่ อาก็มาทำละครเฉลิมพระเกียรติ วันนั้นเข้าประชุม ประธานนั่งอยู่หัวโต๊ะ มีอีกคนชื่อเจษ บอกว่าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย อาก็หลงเชื่อ เขาบอกว่าสรุปทำ เอาละครเรื่องนี้ให้คุณเจษทำ เขากว้าง เขาเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย พอรับไปปุ๊บเขาก็พาพวกเราไปเลี้ยง เลี้ยงกันทุกเดือน เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาอ่อยเหยื่อเรา เพื่อให้เราหลงคำพูดเขา พอถามว่าละครไปถึงไหนแล้ว เขาก็บอกว่าอาอยู่เฉย ๆ อาเป็นประธาน ละครกำลังทำ เดี๋ยวพอเสร็จแล้วอาก็เป็นผู้อำนวยการสร้าง ผ่านไปหลายเดือนเข้ามันไม่อย่างนั้น มารู้ข่าวอีกทีละครเรื่องนั้นแปรพักตร์แล้ว เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนคนเขียนบทใหม่ เปลี่ยนตัวแสดงใหม่ พอเสร็จเรียบร้อยอาจะแจ้งตำรวจจับ บังเอิญเพื่อนที่รักสนิทกันอยู่ในทีมงานเขาด้วย ก็เลยเอาไงดี ก็เฉยไปแล้วกัน

          อาต้อ : โดนหมดเลย โดนคนชื่อเจษโกง

          อาต้อ : เรื่องนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่าจำไม่ได้ ที่จำได้จำได้อยู่ 3-4 คน อั้ม พัชราภา, นุ่น วรนุช, แอน ทองประสม สำหรับแอน อาเคยเล่นเป็นพ่อเขาในเรื่องอุ้มรัก นุ่น วรนุช เรื่องกุหลาบเหนือเมฆ ส่วนอั้ม พัชราภา ก็เรื่องพราว เล่นเป็นประธานที่มาประมูลกัน

          อาต้อ : เหมือนฟ้าบันดาล ฟ้าให้เราเกิดโทร. ไปที่ดาราวิดีโอ ถามว่ามีเบอร์ของอั้มไหม เขาบอกว่ามี เป็นเบอร์เก่า ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปีแล้ว เขาก็ให้เบอร์มา พอโทร. ไปก็เป็นผู้ชายรับ บอกว่าอั้มไม่ได้ใช้เบอร์นี้แล้ว เขาบอกว่าเดี๋ยวเจออั้มจะบอกให้ มีปัญหาหรือมีเรื่องอะไร อาก็บอกว่าผมไม่สบายมาก อั้มเป็นคนดีและใจดี ขอความช่วยเหลือหน่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวจะบอกให้ แล้วมารู้อีกวันว่าคนที่ผมโทรศัพท์คุยเป็นพ่อของอั้ม แล้วอั้มก็ให้คนชื่อเต้จัดการ เต้นั่งรถมาเลย ถือถุงมาใบหนึ่ง ในนั้นเป็นผ้าห่ม อั้มเอาผ้าห่มมาให้ถุงหนึ่ง ซองเงิน แต่อย่าบอกจำนวนเลย แล้วก็ถามว่าอาเป็นยังไง จะเอายังไง เต้เป็นคนดีมาก น่ารักมาก เต้บอกว่าเรื่องเงินเดี๋ยวจัดการเข้าแบงก์ อาอยู่คนเดียว แล้วเวลาเดินไปกดเงินอาระวังหน่อย เดี๋ยวทางเราจะดูแลให้

          เต้ : เคยร่วมงานในละครเรื่องหนึ่ง อาต้อเป็นพ่อของนางเอกอีกคนหนึ่ง เท่านั้นเอง

          เต้ : วันนั้นพี่เต้ไปทำธุระให้น้องอั้ม แล้วน้องอั้มก็ถามว่าพี่เต้รู้จักอาคนนี้ไหม เขาขอความช่วยเหลือมาจากทางค่ายและติดต่อมาทางเบอร์อั้ม ก็เลยบอกว่ารู้จัก อั้มเลยบอกว่าพี่เต้สะดวกไหม พอดีอั้มติดธุระ พี่เต้ไปดูแลคุณอาให้หน่อยได้ไหม พี่เต้ก็บอกว่าได้ เพราะพี่เต้ว่าง จริง ๆ น้องก็กลัวว่าจะมีคนมาหลอกหรือเปล่า แต่ตัวน้องเขาตั้งใจจะช่วยอยู่แล้ว

          เต้ : มาหาเอง ไปกับน้องหญิง น้องอีกคนหนึ่ง

          เต้ : น้องฝากเงินช่วยจำนวนหนึ่ง แล้วก็ให้ไปดูแลคุณอาว่าเป็นอะไรบ้าง ต้องการอะไร อาบอกว่าต้องการช่วยฝากลงโซเชียล ให้ประกาศ ที่สำคัญเขาอยู่ตรงนี้มานาน เขาอยากขอความช่วยเหลือ ไม่รู้จะติดต่อใคร แล้วมีคนบอกแนะนำให้ติดต่ออั้ม พี่เต้ก็เลยเป็นตัวแทนว่าจริงไหม เพราะสมัยนี้มีคนติดต่อมาแบบนี้เยอะ พอคุยกับอาแล้วก็เป็นเรื่องจริงทุกอย่าง

          เต้ : อย่างน้อยคนวงการเดียวกัน เคยทำงานร่วมกัน ในเมื่อเขาขอมาและมีความจำเป็น อั้มก็เลยมาช่วยตรงนั้น อั้มมีน้ำใจอยู่แล้ว เขาเป็นคนทำบุญเยอะมาก แต่ไม่เคยลงอะไรเลย มีแต่คนในกลุ่มที่ลงกันเองแบบนี้

          อาต้อ : ดีใจ ปลาบปลื้ม ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาแบบนี้แล้วกัน สวรรค์เห็นแล้วกันว่าอั้มเป็นคนดี ช่วยเหลือคนตลอด

          เต้ : ขอบคุณค่ะ อยู่วงการเดียวกันก็ต้องช่วยกัน คุณอาได้รับของจากหญิงไหม ได้พัดลมหรือยังคะ

          อาต้อ : ได้เรียบร้อยแล้วครับ

          เต้ : เดี๋ยวจะมี น้องเบนซ์ ปุณยาพร จะซื้อไม้เท้าที่เป็นสามง่ามไปให้นะคะ

          อาต้อ : ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวฝากลูกเต้ไปกราบขอบคุณแม่พระของอาต้อด้วย เป็นคนใจบุญ เป็นคนดีมาก ๆ ไม่ใช่ว่าได้ของเขาแล้วมาเชียร์มาชมนะ เราได้สัมผัสเขาผิวเผินก็รู้แล้วว่าเป็นคนใจดี น่ารัก ช่วยเหลือคนตลอด

          เต้ : ตอนนี้เราก็ช่วยประมาณหนึ่งก่อนเท่าที่พวกเราทำได้ แต่คิดว่าคุณอาน่าจะมีคนมาช่วยเยอะ เพราะประสบเคราะห์ตรงนี้จริง ๆ ไม่ได้มาหลอก คิดว่าน่าจะมีคนมาช่วยอีก แต่พี่เต้เป็นตัวแทนน้องอั้ม เป็นใบเบิกทางให้คนมาช่วยทำบุญกัน เหมือนสะพานบุญช่วย ๆ กัน

          อาต้อ : อาถือว่าคนเราขึ้นสูงได้ก็ลงได้ แต่การลงของเรา เราลงแบบไหน เราลงแบบไม่ได้คดโกงเขา เราก็ภูมิใจ วันนี้อามาขอความช่วยเหลือคนโน้นคนนี้ อาภูมิใจที่เขาช่วยเรา ถ้าเขาไม่ช่วยเราสิเราเสียใจ ทั้งที่เรารู้จักกัน เล่นละครด้วยกัน แต่คนที่เราไม่ได้โทร. ไปหาเขา เขาไม่ช่วย นั่นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนดูรายการเราแล้ว นี่อาต้อนี่หว่า ช่วยสักหน่อย ขอกราบด้วยใจจริงที่เขาช่วยเหลือเรา

          อาต้อ : ไม่มีแล้วครับ ตอนนี้คิดว่าอยากติดต่อ พี่เอก สรพงษ์ ยังติดต่อไม่ได้ ติดต่อ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ก็ติดต่อไม่ได้

          อาต้อ : วันนี้แหละที่นึกได้ คุณพ่อต๊อด เรียนหนังสือที่เซนต์คาเบรียลด้วยกัน คุณสันติเป็นคนดีมาก ติดดิน ให้เพื่อน ๆ เข้าโรงอาหาร ควักเงินจ่ายคนเดียว ซื้อข้าวหมูแดงแจก แล้วก็เอากับข้าวให้คนรถไปทาน คุณสันติเป็นคนใจดีมาก

          อาต้อ : คิดครับ เหมือนเรามีดวง พอคุยกับคุณพ่อเขาเสร็จ รุ่งขึ้นเต้โทร. มาเลย พอได้ของปุ๊บ อั้มโทร. เลย คุยกับอั้มขนลุกเลย อั้มต่อสายมาเอง 3 ครั้งติด ๆ ดีใจจนพูดไม่ถูก คุยกับลูกอั้มน้ำตาตกในเหมือนกัน ดีใจ ซึ้งใจที่เขามาช่วยเรา เล่นละครด้วยกันไม่กี่เรื่อง เป็นมนุษยธรรม เราขอให้คนอื่นช่วยอาไม่อาย เพราะเวลาเราตกลงมาจะหาใครช่วย เราก็ขอให้คนที่ใจดีช่วยเรา ทำบุญให้เรา นั่นประเสริฐที่สุดแล้ว ขอกราบล่วงหน้าคนที่จะช่วยอาด้วย