ล่าสุด (9 มิถุนายน 2564) กรีน อัษฎาพร ก็ออกมาเปิดใจผ่านรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 ว่า หลังพ่อเสียชีวิตเราต้องใช้หนี้สิน 8 หลักแทนคุณพ่อ หนี้ที่มีเยอะกว่ารายได้ที่มี ตอนนี้ยังใช้หนี้ไม่หมด เรื่องหนี้สินก็ดีขึ้น ตอนนี้มีน้องสาวช่วยด้วย เวลาเจอปัญหาคนในครอบครัวก็ไม่ทิ้งกัน ญาติ ๆ ก็ช่วยเหลือกัน ใครสามารถช่วยได้ก็ช่วย
มดดำ คชาภา ยังเอ่ยถึง ธันวา สุริยจักร พระเอกหนุ่มหวานใจสาวกรีน ที่มาช่วยเหลือเรื่องหนี้ด้วยว่า มาช่วยกันโปะหนี้ทำให้ไม่มีโอกาสไปใช้เงินฟุ่มเฟือย เวลาไปเที่ยวก็เห็นไปแต่ไหว้พระ ส่วนตัวแล้วก็สงสารกรีนทั้ง ๆ ที่ปกติไม่ค่อยสงสารชะนี แต่ไปเจอบนเครื่องบินฟังแล้วรักเลย ต้องหาเงินใช้หนี้ ผู้หญิงวัยอย่างกรีนอยู่วงการบันเทิงควรที่จะได้ใช้อะไรบ้าง แต่ต้องเอาเงินไปโปะหนี้ เอาเงินไปต่อยอดเปิดร้านคาเฟ่ แต่ตอนนี้ก็ต้องปิดไปก่อน เจ้าตัวก็เผยว่า ร้านตอนนี้ปิดถาวรเพราะโควิด จริง ๆ อยากประคับประคองมากกว่านี้ แต่อาจต้องควักเลือดเนื้อของเรา ซึ่งไม่ไหวจริง ๆ เรามีภาระ ธันวาก็มีภาระ เลยยอมตัดบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้เรามีชีวิตต่อไป
กรีน ยอมรับว่า ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ แต่คิดว่าวันหนึ่งก็อาจเป็นวันของเราก็ได้ แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเท่านั้นเอง ถามว่าก่อนพ่อจะจากไปได้เรียกธันวาไปฝากเรื่องกรีนไว้บ้างไหม นางเอกสาวเผยว่า ก็มี เพราะคุณพ่อจะสนิทกับธันวา เหมือนฝากฝังให้ดูแล เขาชอบคุยกันเรื่องชีวิต กับธันวาคบกันมา 7-8 ปีแล้ว สิ่งที่พิสูจน์เขาไม่ทิ้งเราตอนเราลำบาก เขาอยู่ด้วยทุกสถานการณ์ เขาทำให้เราอยู่ในลู่ทางที่ดีขึ้น ถึงแม้เราจะเจอปัญหา คือตัวเขา วิธีคิดของเขา เรื่องการเงิน สิ่งที่พ่อแม่สอนเขามา ทำให้เราไม่เป๋ แล้วเขาก็เป็นตัวอย่างให้เรา
คือธันวาเขาเป็นดารา เป็นพระเอก แต่ทุกวันนี้เขายังอยู่ห้องคอนโดเล็ก ๆ แค่ 26 ตร.ม. เขาไม่แคร์เรื่องนั้น เขาบอกว่าอยู่คอนโดเล็ก ๆ เขาไม่ต้องเสียค่าเช่าเยอะ เขาเป็นคนต่างชาติ เขาต้องต่อวีซ่าตลอด เขาต้องเก็บเงินมาทำแบบนี้ เขาก็อยากรวย เขามีเป้าหมายเหมือนเรา เราอยากรวย มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราเลือกที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวานด้วยกันทั้งคู่ เอาเงินไปต่อเงิน ยอมลำบากไปก่อน
ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นยังไม่ได้มองถึงจุดนั้น เรามองเป้าหมายของเรามากกว่า ทางเขาเองก็มีเป้าหมายที่ประเทศเขา กับบ้านเขา พ่อแม่ของเขา เราเองก็มีเป้าหมายสำหรับแม่ของเรา เราอยากให้มันเคลียร์ภาระผูกพันทั้งหมดไปก่อน เชื่อว่าฟ้าหลังฝนสำหรับเราย่อมดีเสมอ ตัวธันวาเขาตั้งเป้าแต่งงานต้องทำเงินให้ได้ 100 ล้านก่อน มันเป็นแรงกระตุ้นแรงจูงใจให้เราไปถึงจุดนั้นให้ได้
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ลำบาก ทำงานไปนั่งน้ำตาไหล บางทีก็มองชีวิตเราทำไมเป็นแบบนี้ มองชีวิตคนอื่น ทำไมเราไม่มีเส้นทางที่สบาย ทำไมต้องขรุขระ สุดท้ายอยู่ที่มุมมองมากกว่า ถ้าเราเลือกมองคนที่สูงกว่าเรา เราไม่มีทางเทียบเขาได้ เราลองมองคนที่เขามีน้อยกว่าเรา เขายังสู้ชีวิตได้ และกำลังใจสำคัญที่ดีที่สุดก็คือครอบครัว ตอนนี้เราเหลือแม่คนเดียว เลยอยากสู้ให้ถึงที่สุด อยากให้แม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
กรีน ยังยอมรับอีกว่า ช่วงที่พ่อเสียต้องขายรถเพื่อเอามาจัดงานศพให้พ่อ แต่เราไม่เป็นไร ไม่ซีเรียส ก็สลับใช้กับแม่ได้ อะไรตัดได้ก็ตัดไปก่อน อยู่แบบพอเพียงไปก่อน เราไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อซื้อของโน่นนั่นนี่ประดับร่างกายอะไร ถ้าสำหรับทำงานเข้าใจได้ดูที่ความจำเป็น แต่ถ้าชีวิตปกติจะไม่ซื้อไม่ใช้จ่ายเยอะ