ล่าสุด (21 กันยายน 2564) เดลินิวส์ออนไลน์ ได้สอบถามไปยังเอ็มมี่ถึงกรณีดังกล่าว เจ้าตัวเผยว่า เหตุเกิดเมื่อคืนนี้ เพื่อนบอกว่าเรียกตนนานมาก มาจับที่จมูกแล้วเหมือนไม่หายใจ จึงเป่าปากและปั๊มหัวใจขึ้นมาใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งปกติคนทั่วไปแค่กดหน้าอก 1-2 ครั้งต้องตื่นแล้ว เขาเปิดตาเอ็มมี่แต่ก็ไม่ตอบสนอง มันนิ่งไปหมดเลย เพื่อนก็ปั๊มหัวใจจนตนหายใจ จากนั้นจึงนำส่งโรงพยาบาลสินแพทย์
ทั้งนี้ วันที่ไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 แพทย์บอกว่าถ้าไม่มีอาการก็ไม่ต้องกินยา พอกลับมาบ้านก็ขึ้นไปอาบน้ำจากนั้นก็รู้สึกหนาวผิดปกติ หนาวเข้าไปในกระดูก มือชา ขาชา เหมือนเดินออกจากห้องน้ำไม่ไหว ปากสั่นไปหมด ตนจึงกินยาเข้าไปและบอกเพื่อนว่าถ้าตนไม่ไหวให้พาไปที่โรงพยาบาลนี้ หลังจากนั้นรู้สึกเหมือนจะพูดให้ช่วยหน่อย แต่ไม่ไหวแล้วและก็หมดสติไปเลย
ส่วนการรักษาที่โรงพยาบาลใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ไม่ได้เข้าห้องไอซียู หมอบอกว่าตนมีไข้ขึ้นสูง ทำให้เกิดมีภาวะหลับลึก ปลุกไม่ตื่น ร่างกายเกือบช็อก ส่วนที่ก่อนหน้านี้ตนไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีส่วนที่ทำให้ร่างกายเกือบช็อกในครั้งนี้หรือไม่นั้น ทางแพทย์ยังไม่ได้วินิจฉัย เนื่องจากพอตนฟื้นคืนสติ ก็ขอทางแพทย์กลับบ้านเลยในคืนนั้น ซึ่งตนได้แจ้งเรื่องของฉีดวัคซีนกับทางแพทย์ทั้งหมด และทางแพทย์ก็อยากตรวจร่างกายเพิ่มเติม แต่ตนก็บอกตัวเองไหว และขอกลับบ้าน เนื่องจากเป็นห่วงลูก
ส่วนตัวก็ไม่รู้เลยว่าเป็นผลจากวัคซีนหรือไม่ จริง ๆ แพทย์ยังไม่อยากให้กลับบ้านแต่ตนอยากกลับเอง รู้สึกว่าร่างกายยังไหวอยู่ ตอนนี้ยังมีไข้ 40.2 มีปวดที่ปลายนิ้วมือ ปลายนิ้วเท้า ช่วงหัวเข่าและหลัง หน้าอกร้อน และปวดหัวหนักมาก
โดยทางแพทย์คิดว่ามันน่าจะเกิดจากการที่พักผ่อนน้อย และตนมีอาการเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดงอยู่แล้ว เลยคิดว่าอาจทำให้ร่างกายไวต่อการฉีดวัคซีน จนมีผลดังกล่าวมากกว่า ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้แพ้วัคซีนแต่น่าจะเป็นผลข้างเคียง เพราะก่อนไปฉีดตนนอนน้อยเนื่องจากต้องตื่นมาป้อนนมลูกทุก 2 ชั่วโมง เบื้องต้นแพทย์ให้ยาคลายกล้ามเนื้อและยาลดไข้ ให้มากินตามอาการ
อย่างไรก็ตามเอ็มมี่ได้ไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 20 กันยายน โดยก่อนหน้านี้ เอ็มมี่ รับวัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 ในวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าตัวยังได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊ก เอ็มมี่ อมลวรรณ ขอบคุณทุกความห่วงใย พร้อมให้กำลังใจตัวเองว่าจะสู้ เอ็มมี่ต้องรอด ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะ ยังมีอีกหลายคนรอทำงานกับเอ็มมี่ ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายท่านที่ยังอยากสนับสนุน เอ็มมี่ต้องเข้มแข็ง มันต้องผ่านไปได้