x close

เจอผู้ชายร้าย ๆ แล้วทำไมผู้หญิงยังทนอยู่


ผู้ชายร้าย ๆ ทำไมผู้หญิงยังทน

          ก่อนคบกันก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะถอดเขี้ยวเล็บ จนใคร ๆ ต่างพากันชื่นชมว่าผู้หญิงแสนดีอย่างคุณสามารถปราบเสือให้อยู่หมัดได้ แต่จริง ๆ แล้วเขี้ยวเล็บที่ถอดออก เขากลับแอบเอาไปซุกไว้ในกระเป๋าซ้าย-ขวา แล้วค่อย ๆ ล้วงออกมาใส่ตอนคุณเผลอน่ะสิ แม้คุณจะจับสัญญาณได้ว่าเขายังไม่เลิกเจ้าชู้ แต่คำว่า  "รัก" ก็ดึงคุณไว้เสมอ แถมพอมาเจอลูกอ้อนของเขาหน่อยเดียว คุณก็ยอมให้อภัยเขาแต่โดยดีแล้ว เป็นแบบนี้มาหลายครั้งหลายคราแต่คุณก็เลิกไม่ได้ซะที แม้คนรอบข้างจะเตือนอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดคุณได้ มันเกิดอะไรกับผู้หญิงแสนดีอย่างคุณล่ะเนี่ย !? ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ก็ตามเข้าไปหาคำตอบกันเลยค่ะ...

1. กลัวความเหงา

          ก็ร้องเพลงโสดมาตั้งนาน พอมีคนรักให้ควงแขนเดินเล่น ซบไหล่ตอนดูหนังทั้งที จะปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ ได้อย่างไร คุณก็เลยต้องกล้ำกลืนฝืนทน ยอมเช็ดน้ำตาดีกว่าปล่อยให้เขาไปกับคนอื่น ถึงแม้ตอนที่อยู่กับคุณ เขาโทรศัพท์คุยกับสาวอื่นคุณก็ยอม แล้วก็งัดเหตุผลต่าง ๆ นานามาอ้างกับคนรอบข้างว่าเขาดีอย่างนู้นอย่างนี้ เพื่อจะได้เลิกแอนตี้เขาซะที หรืองัดไม้ตายสารพัดเพื่อไม่ให้เขาเดินจากไป นั่นเพราะว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนกลัวความเหงาจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณอีกครั้ง ส่วนหนึ่งนั้นมาจากผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะติดอยู่กับความเชื่อเดิม ๆ ที่ว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ จึงต้องการคนมาดูแลหัวใจน้อย ๆ ในความเป็นจริงคุณยังมีเพื่อน มีครอบครัวอยู่นะ และอย่าลืมว่าโลกนี้ก็ไม่ได้มีผู้ชายคนเดียวซะหน่อย

2. สถานะการเงินของตัวเองไม่มั่นคง

          อย่างที่รู้ ๆ กันทั่วไปว่าเมื่อแต่งงานออกเรือนกันไปแล้ว ผู้ชายจะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่วนผู้หญิงก็อยู่บ้านทำกับข้าว รอสามีกลับมาทานข้าวพร้อมกัน ฉะนั้นเมื่อเธอเจอใครคนนั้นที่มีความพร้อมทางฐานะ ที่สามารถดูแลเธอได้แล้ว ต่อให้เขาร้ายแค่ไหนเธอก็ทนได้ และถ้าพร้อมทางด้านหน้าตาด้วยแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็จะถือเป็นโชคสองชั้นของเธอเลยทีเดียว แบบนี้มีเหรอเธอจะจากไปง่าย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็มีศักยภาพเท่ากันหมด อยู่ที่คุณต่างหากว่าเลือกใช้ชีวิตแบบไหน ที่สำคัญเดี๋ยวนี้มีผู้หญิงเกือบจะ 100% ชอบออกมาทำงานนอกบ้านแทนการเป็นแม่บ้านแล้วล่ะค่ะ

3. หลงใหลไปกับเพอร์เฟคท์ชั่นนิสต์

          ทั้งรูปร่างหน้าตาเหมือนถอดแบบออกมาจากนิตยสาร หน้าที่การงานก็มั่นคง ควงกันออกงานสังคมเป็นว่าเล่น ทั้งหล่อทั้งอนาคตไกล แถมเรื่องบนเตียงก็ฮอตได้ใจขนาดนี้ ร้อยทั้งร้อยก็ดิ้นไม่หลุด ต่อให้คุณโกรธเขามากขนาดไหน สุดท้ายคุณเองนั่นแหละที่จะต้องเป็นฝ่ายง้อ ใครจะว่าเสียศักดิ์ศรีก็ช่าง นาทีนี้ขอมีแค่เขาก็สุขใจแล้ว แต่แหม...ลองคิดในทางกลับกันนะคะ ว่าถ้าเขาแก่ตัวไปคุณจะรับเขาได้อีกไหม อย่าลืมว่าร่างกายไม่ใช่ของที่ยั่งยืน ทางที่ดีหาคนดี ๆ คบกันยืด ๆ เอาไว้ข้างกายดีกว่านะ

4. ไม่อยากสูญเสียสถานะทางสังคม

          รู้ทั้งรู้ว่าเขาแอบไปมีผู้หญิงอื่นซุกไว้ แต่คุณก็จำยอมสะกดคำว่าอดทนทุก ๆ วัน เพราะถ้าจบกันตอนนี้จะเอาหน้าตาไปไว้ที่ไหน หรือถ้าใครถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเลิกรา คุณจะตอบว่าอย่างไรดีถึงจะเสียหน้าน้อยที่สุด อีกทั้งกว่าจะได้ออกงานมีหน้ามีตาในสังคมคุณต้องเสียเงินไปเท่าไร จะให้บอกลากันง่าย ๆ คงไม่มีทาง แต่เราอยากให้คุณคิดง่าย ๆ นะคะว่าการมีหน้ามีตาในสังคมเป็นแค่มโนธรรม มันทำให้มีความสุขได้จริงหรือเปล่า ทำไมไม่ลองถอดมันออกซะ เชื่อเถอะว่าความสุขอยู่แค่หลังหน้ากาก...แค่นั้นเอง

5. ขาดเพื่อน

           เมื่อก่อนคุณอาจจะเคยมีเพื่อนเยอะแยะ โทรศัพท์นัดกันไปไหนมาไหนไม่ว่างเว้น แต่เมื่อเขาเข้ามาก็ตัดทุกช่องทางการติดต่อ เพื่อน ๆ จะชวนไปแฮงก์เอาท์ที่ไหนก็ตอบปฏิเสธซะทุกครั้ง จนทำให้คุณค่อย ๆ ห่างหายจากกลุ่มเพื่อนทีละนิด พอหันซ้ายแลขวาก็เหลือเขาอยู่คนเดียว ซึ่งแรก ๆ ทุกอย่างก็สวยงาม ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ แต่พอพักหลัง ๆ คุณจะชวนเขาไปไหนก็อิดออด แถมเวลาเจอสาวสวยทีไรก็ทำท่าทางกรุ้มกริ่ม หรือแอบดอดไปมีกิ๊กบ้างบางเวลา ซึ่งคุณก็อภัยให้เขาเรื่อยมา เหตุเพราะคุณไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ จึงกล้ำกลืนฝืนทน แต่จริง ๆ แล้ว เพื่อนไม่ว่าจะห่างหายกันไปนานขนาดไหน ก็จะมีเส้นใยบาง ๆ ที่สามารถต่อติดกันได้เสมอ หรือต่อให้โกรธกันอย่างไร เพื่อนที่ดีจริงก็ย่อมอยู่ข้างเพื่อนเสมอ บอกเลิกแฟนได้แต่บอกเลิกความเป็นเพื่อนไม่ได้หรอก

6. ครอบครัวไม่บอกให้เลิก

          ครอบครัวมีอิทธิพลในการตัดสินใจของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การใช้ชีวิต และการแต่งงาน เมื่อพวกเขาบอกว่าดีคุณก็ต้องก้มหน้ายอมรับไปบอกว่าดี ทั้ง ๆ ที่ในใจแสนอึดอัด เพราะคนดีของที่บ้านคุณกลับกลายเป็นผู้ร้ายเมื่ออยู่กับคุณสองต่อสอง ที่สำคัญชอบทำให้คุณเสียน้ำตาเสมอ จะเล่าให้ที่บ้านฟังก็กลัวพวกเขาเป็นห่วง เลยปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้แหละ แต่จริง ๆ แล้วไม่ดีแน่ ๆ ขีดเส้นให้เดินกันขนาดนี้ พวกเขาไม่ได้เป็นคนแต่งงานนะ ถ้าอยู่ไปไม่มีความสุขจะทู่ซี้อยู่ทำไม จบ ๆ กันไปเลยดีกว่า

7. ทุ่มไปแล้วทั้งกายและใจ

          หวังมัดใจให้เขามีคุณคนเดียว มีเขาอยู่ในทุกอณูความฝันของคุณ ตั้งแต่ช่วงฮันนีมูน มีลูก และครองรักกันไปจนแก่ ขาดเขาไปไม่รู้ชีวิตนี้จะเดินต่อไปทางไหนดี เหมือนคนไม่รู้ทิศทาง จึงกลัวที่จะสูญเสียเขาไปให้ใคร คงทำใจไม่ได้แน่ ๆ ยอมให้เขามีกิ๊กมีกั๊ก บางคนอาจรู้อยู่เต็มอกแต่ก็ปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป เห็นแบบนี้แล้วเหนื่อยใจแทนจริง ๆ ค่อย ๆ ถอนตัวออกมาดีกว่า ก่อนที่คุณจะขุดหลุมฝังตัวเองไปมากกว่านี้

8. ความเจ้าชู้เป็นเรื่องธรรมดา

          คุณปล่อยให้เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นโดยเต็มใจ เพราะคิดว่าปล่อยให้เขาไปหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกบ้านคงไม่เป็นไร เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เช่น เรื่องเซ็กส์...คุณคิดว่าอาจให้เขาได้ไม่พอเลยยินยอมให้เขาไปมีอะไรกับคนอื่นที่สามารถเติมเต็มให้เขาได้ แล้วเหมาว่าการทำแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้น แต่บางครั้งอาจให้ผลตรงกันข้าม ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกเยอะแยะที่ทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวได้ ที่สุดแล้วคุณสองคนน่าจะเป็นคนเติมเต็มซึ่งกันและกันมากกว่าให้บุคคลที่สามมาทำให้นะคะ

          ความเจ้าชู้กับผู้ชายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ถึงแม้ผู้ชายมากกว่าครึ่งจะเคยนอกใจ และในกลุ่มผู้ชายที่เคยนอกใจกว่า 70% จะบอกว่าคู่ของเขาไม่เคยจับได้ก็ตาม แต่อย่าไปเหมารวมว่าผู้ชายทั้งโลกจะเป็นแบบนี้ เพราะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้คุณจะถูกทิ้งหรือทิ้งเขา คุณก็ยังมีเพื่อน มีครอบครัว อย่าลืมว่าก่อนมีเขาคุณก็ตัวคนเดียว แล้วทำไมจะกลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้ อีกอย่างผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียวสักหน่อย ยังมีผู้ชายดี ๆ รอคุณอยู่มากมาย อาจจะเจอกันช้าสักหน่อยแต่ก็คุ้มกับการรอคอยไม่ใช่เหรอ อยากให้รู้ไว้นะคะว่าคนที่เขารักกันจริงไม่มีใครอยากให้คนรักต้องเสียน้ำตาเพราะเขาหรอกค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจอผู้ชายร้าย ๆ แล้วทำไมผู้หญิงยังทนอยู่ อัปเดตล่าสุด 8 ธันวาคม 2558 เวลา 19:16:36 6,718 อ่าน
TOP