มิว นิษฐา เปิดใจกรณีดราม่า การ์ดดารากระทืบลูกนายพล ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องด้วย แค่มากินข้าวแล้วก็ไป เห็นเหตุการณ์แค่คนมุงกันเท่านั้น ตอนแรกยังขำ ๆ แต่มาตอนนี้เรื่องใหญ่ไปแล้ว จากกรณีที่ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ ได้ไปเที่ยวกินดื่มที่ร้านมาลินสกาย จ.เชียงใหม่ แล้วถูกการ์ดกระทืบ ซึ่งเขาเผยว่า การ์ดนั้นน่าจะเป็นการ์ดของดาราที่มากินเที่ยวในวันนั้น ซึ่งมีดาราทั้ง มิว นิษฐา, แต้ว ณฐพร, หมาก ปริญ, อุ้ม ลักขณา จนทำให้ พล.ต. วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38) ออกมายืนยันว่า จะจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ล่าสุด (27 พฤศจิกายน 2559) มิว นิษฐา หนึ่งในแก๊งดารา ก็ได้ออกมาเผยว่า วันนั้นเราไปถ่ายละครกัน เมื่อเลิกกองทีมงานที่รู้จักกับอุ้ม ลักขณา ก็ชวนไปร้าน เราก็สนุกกันในโต๊ะของเรา จนมีผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของร้าน มาบอกพวกตนว่า เป็นคนของทางร้าน หากมีอะไรก็สามารถมาบอกได้ ส่วนตอนที่ไปเข้าห้องน้ำก็ปกติ ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติมีเรื่องที่ว่า ดาราสั่งการ์ดให้รุมกระทืบ ? หลังจากเลิกแล้วเราก็กลับบ้านไป ประมาณ 5 ทุ่มเกือบเที่ยงคืน ซึ่งเราเองก็งงว่าทำไมถึงมีชื่อของเราไปอยู่ในรายชื่อของคนที่รุมกระทืบด้วย มันไม่มีอะไรเลย เราไปเข้าห้องน้ำ ออกมาก็ปกติ ไม่เห็นว่ามีคนทะเลาะกันหน้าห้องน้ำ อีกอย่างตนก็ไม่ได้สังเกตใคร เพียงแค่ก่อนที่ตนจะกลับ ตนเห็นคนมุง ๆ กันที่มุม แต่ไม่เห็นว่าเขาทำอะไรกัน คนมองว่าดาราใช้สิทธิพิเศษเข้าห้องน้ำ ? ห้องน้ำนั้นมี 2 ห้องคือ ห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิงก็มีแค่ 2 ห้อง ซึ่งตนก็ยังไปต่อคิวกับแต้วอยู่เลย ตนไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์อะไร เข้าไปแค่ 2 คนก็เต็มแล้ว การ์ดที่มาด้วย เป็นการ์ดของดาราหรือไม่ ? เราเองไม่มีการ์ด เราไปกันแค่ทีมงาน ไปนั่งกินข้าวกันที่โต๊ะปกติ จะมีก็แค่พนักงานเสิร์ฟเดินไปเดินมา ตั้งแต่เกิดเหตุตนก็ยังไม่ได้เจออุ้ม เพราะเราไม่ได้สนิทกัน ตอนที่เห็นข่าวตนยังขำ ๆ กับตัวเอง แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ทำไมไม่เข้าไปช่วยคนที่โดนรุม ตอนนั้นตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีเรื่องอะไรกัน ตนเห็นแค่ว่ามีคนมุงกันที่มุมหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรด้วยซ้ำ และเราก็จะกลับกันอยู่แล้ว บางคนที่อ่านข่าวก็เชื่อไปแล้ว เราเองเป็นนักแสดง เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรควรทำ เราไม่เอาชื่อเสียงมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนทางช่องเองนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไร ตนกล้าพูดเลยว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนักแสดงเลย การ์ดคนนั้นก็เป็นคนของที่ร้าน ไม่ใช่คนของเรา ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ถามอะไร เพราะท่านรู้ว่าไม่เกี่ยวกับเรา และขอบคุณที่คนของฝั่งนั้นออกมาพูด ทำให้เรื่องนี้มีน้ำหนักมากขึ้น
