เพชรพันปี อภิมหาโชคไพศาล คือใคร ? รู้จักเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ดีกรีไม่ธรรมดา

เพชรพันปี คือใคร ?

ชีวิตส่วนตัว อดีตสะใภ้หมื่นล้าน

เจาะรายได้ธุรกิจ เพชรพันปี

          หลังจากตั้งตัวใหม่กับการทำธุรกิจค้าขายเพชร จากฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ซึ่งชื่อของ น.ส.เพชรพันปี อภิมหาโชคไพศาล เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทดังกล่าว มีการถือหุ้นบริษัทมากถึง 3,590 หุ้น มูลค่าหุ้น 3,730,135 บาท และถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 71.80%

          อย่างไรก็ตาม มีการแจ้งดำเนินธุรกิจตอนจดทะเบียนว่าเป็นร้านขายปลีกเครื่องประดับ ในขณะที่ตอนส่งงบการเงินปีล่าสุด แจ้งวัตถุประสงค์ว่าเป็นการขายปลีกชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมใหม่ของยานยนต์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้

• ปี 2559 รายได้ 491.38 บาท ขาดทุน 14,508.62 บาท
• ปี 2560 รายได้ 61,636.99 บาท กำไร 46,636.99 บาท
• ปี 2561 รายได้ 69,760.08 บาท กำไร 54,760.08 บาท
• ปี 2562 รายได้ 73,795.22 บาท กำไร 58,795.22 บาท
• ปี 2563 รายได้ 66,990.93 บาท กำไร 49,490.93 บาท

เพชรพันปี ดราม่าหวย 24 ล้าน โยงกรณี “บิ๊กเอ็ม”

          ชื่อของ เพชรพันปี เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากกรณีอ้างว่าถูกลอตเตอรี่ออนไลน์ของหงษ์ทองฯ งวดวันที่ 1 ตุลาคม 2565 รวมมูลค่า 24 ล้านบาท และได้แจกลอตเตอรี่ใบที่ถูกรางวัลที่ 1 ให้กับ บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม นักแสดงช่อง 7 เนื่องจากเป็นลูกค้าของร้านเพชร ทำให้เรื่องดังกล่าวฮือฮาไปทั้งโซเชียล ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเผยเอาไว้ว่า เลขที่ได้มานั้นเป็นเลขจากความฝัน ได้มา 6 ตัวตรงจากท้าวเวสสุวรรณ

          จากนั้นได้กลายเป็นกระแสร้อน เมื่อ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ออกมาแฉกระบวนการถูกหวยทิพย์ของหงษ์ทองฯ โดยต่อมา บิ๊กเอ็ม ยอมรับว่าไม่ได้ถูกรางวัลดังกล่าวจริง และไม่นานก็มีประกาศปลดฟ้าผ่าจากต้นสังกัดช่อง 7 จนงานนี้ เพชรพันปี ไลฟ์ทั้งน้ำตา วอนผู้ใหญ่ช่อง 7 ให้โอกาส บิ๊กเอ็ม เนื่องจากคนที่ผิดนั้นคือเธอเอง อีกทั้งล่าสุด ลูกชายเพชรพันปี ก็ออกมาโพสต์คลิปยืนยันว่าหวย 24 ล้านไม่ได้ถูกจริง แต่เซตขึ้นมาเพื่อการตลาด โดยมีหงษ์ทองฯ เป็นผู้นำเงินมามอบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์

          ถือเป็นเซเลบที่เรื่องราวของเธอโด่งดังขึ้นมาในชั่วพริบตา ส่วนมหากาพย์ถูกหวยทิพย์นี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ต้องรอติดตามกันต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Phechpanpee Apimahachockpaisan, Instagram phechpanpee