โบว์ เมลดา ประวัติ 12 เรื่องน่ารู้ ของนางเอกสาวสวย ความสามารถไม่เป็นรองใคร

1. ประวัติ โบว์ เมลดา

          โบว์ เมลดา สุศรี เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2539 จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สายศิลป์ภาษาญี่ปุ่น จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบระดับปริญญาตรีจากคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

          สำหรับวีรกรรมในวัยเด็กของเธอ เห็นหน้าหวาน ๆ แบบนี้ก็แสบใช่เล่น เพราะเธอเคยฉี่ใส่กางเกงตอนเรียนอนุบาลมาแล้วขณะเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน และเคยหยิบขนมออกจากร้านค้าไปเลยโดยไม่จ่ายเงิน รอให้แม่มาจ่ายทีหลังก็มี เรียกได้ว่าเป็นเด็กที่แสบซนไม่เบาเลยทีเดียว

2. ที่มาของชื่อเล่น

          หลายคนอาจจะคิดว่าชื่อเล่นของโบว์ มาจากโบผูกผม แต่ความจริงแล้วมีที่มาจากช่วงที่เครื่องบินโบอิ้งตก เพราะจริง ๆ แล้วเธอมีชื่อเล่นว่า "โบอิ้ง" นั่นเอง

3. เคยเป็นอดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป

          โบว์ เมลดา ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงในฐานะนักร้องสาวจากค่ายกามิกาเซ่ โดยในอดีตโบว์เคยเป็นสมาชิกของวง Kiss Me Five ซึ่งมีเพลงที่มีชื่อเสียงหลายเพลง เช่น เพลง Ab (แอ๊บ) ที่มียอดผู้ชมในยูทูบกว่า 15 ล้านครั้ง

4. ประกวดเวทีนางแบบระดับประเทศ

          ก่อนจะมาเป็นนางเอกดาวรุ่งอย่างทุกวันนี้ สาวโบว์มีดีกรีนางแบบมาก่อน โดยเธอเคยได้รับตำแหน่งผู้ชนะเลิศจากการประกวดไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2013 และ โบว์ เมลดา ก็เคยติด 1 ใน 7 จากการประกวด Smile Kids บนเวทีไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2004 อีกด้วย เรียกว่าฉายแววตั้งแต่ยังเป็นเด็กกันเลยทีเดียว

5. ผลงานด้านการแสดงที่โดดเด่น

          ผลงานในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดงชิ้นแรกของโบว์ เมลดา คือละครเรื่อง ใยกัลยา ซึ่งนางเอกหน้าหวานคนนี้ก็ได้ฝากฝีไม้ลายมือทางการแสดงที่ไม่ธรรมดา จนทำให้คนดูติดกันงอมแงม แถมกระแสตอบรับยังดีเกินคาดทั้ง ๆ ที่เธอเพิ่งจะแสดงละครเป็นเรื่องแรก หลังจากนั้นก็มีผลงานละครออกมาให้เราได้ชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง คาดเชือก, โนห์รา, หงส์เหนือมังกร, คุณชายไก่โต้ง, สกาวเดือน, พชรมนตรา, มนตร์กาลบันดาลรัก และอินทรีแดง รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง รักไม่เป็นภาษา, อโยธยา มหาละลวย, อนงค์ และอนงค์ 2 

6. รางวัลด้านการแสดงเพียบ

          การแสดงของ โบว์ เมลดา ที่โดดเด่นทำให้ผลงานของเธอเข้าตากรรมการ ถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลหลายต่อหลายเวที และยังได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลนักแสดงดาวรุ่งหญิง เวทีสยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2015 จากละครเรื่อง ใยกัลยา, รางวัลนางเอกดาวรุ่ง งาน Siambanterng Star’s Light Awards 2017, รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม งานประกาศรางวัล ทีวีสีขาว ครั้งที่ 1 จากละครเรื่อง หงส์เหนือมังกร, รางวัลดารานำหญิง และสาวเจ้าเสน่ห์ ขวัญใจมหาชน เวที MAYA AWARDS 2020, รางวัลสาวปังแห่งปี จากเวที Kazz Awards 2021, รางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่น งานโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2564 จากละครเรื่อง มนต์รักหนองผักกะแยง, รางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยม จากเวที HOWE AWARDS 2022 และรางวัล Idol ไอดอลแห่งปีที่ครองใจแฟน ๆ นับไม่ถ้วน จากงาน Lifestyle Asia Thailand 50 ICONS เป็นต้น

7. สวย เก่ง ร้องเพลงเพราะ

          ต้องยกให้เธอเป็นนางเอกมากความสามารถจริง ๆ เพราะเธอคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาและการแสดง แต่ยังมีความสามารถด้านการร้องเพลงด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเธอเป็นนางเอกที่ร้องเพลงประกอบละครที่ตัวเองเล่นหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลง อยากบอกรัก ประกอบละครเรื่อง ใยกัลยา, เพลง โนห์รา ประกอบละครเรื่อง โนห์รา, เพลง ไม่มีตรงกลาง ประกอบละครเรื่อง หงส์เหนือมังกร, เพลง แค่จำได้ว่ารักกัน ประกอบละครเรื่อง มนตร์กาลบันดาลรัก และเพลง ความลับของใจ ประกอบละครเรื่อง อินทรีแดง

8. โบว์ เมลดา ศัลยกรรมไหม ?

          ประเด็นนี้เธอก็เคยออกมายอมรับแล้วว่าได้บินไปอัปดั้งไกลถึงประเทศเกาหลี ในราคา 280,000 บาท เหตุเพราะต้องการเอากระดูกที่แตกข้างในจมูกเนื่องจากอุบัติเหตุในวัยเด็กออก โดยการศัลยกรรมในครั้งนี้ทำให้เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตาเลยทีเดียว

9. จากนางเอกแถวหน้าช่อง 7 สู่นางเอกช่อง 3

          หลังจากมีผลงานให้กับช่อง 7 มาหลายปี เมื่อหมดสัญญาเธอก็ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ แต่ไม่นานนางเอกสาว โบว์ เมลดา ก็ย้ายเข้าสังกัดช่อง 3 ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยมีเหล่านักแสดงดาราร่วมสังกัดช่อง 3 เข้ามาต้อนรับสมาชิกใหม่กันเพียบ ซึ่งผลงานที่ได้ประเดิมลงจอของช่อง 3 เรื่องแรกก็คือ มนต์รักหนองผักกะแยง แสดงคู่กับพระเอกเบอร์ต้นอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ จากนั้นเธอก็มีผลงานละครเรื่อง ใต้เงาตะวัน แสดงคู่กับพระเอกสุดฮอต หมาก ปริญ ต่อด้วยผลงานกระแสแรงเรื่อง โลกหมุนรอบเธอ ที่ประกบคู่กับ 2 พระเอกอย่าง เจมส์ จิรายุ และ ไอซ์ พาริส และผลงานเรื่องล่าสุดที่ได้รับกระแสตอบรับดีตั้งแต่เริ่มต้นเลยอย่าง คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ ประกบคู่กับพระเอกหนุ่ม ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ นั่นเอง