ทำเอาช็อกไปทั้งวงการเมื่อนักแสดงสาวอารมณ์ดี "หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์" ออกมาแถลงข่าวตัดขาดความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่ม หลังจากที่คบหาดูใจกันมา 2 ปีทั้งน้ำตาพร้อมเผยจากนี้ไปจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกทุก ๆ เรื่อง
ล่าสุด (22 เมษายน 2558) เวลา 10.00 น. สาวอารมณ์ดีหนูอิมอิมได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการปากโป้ง ทางช่อง 8 ที่มี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ นุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์ รับหน้าที่พิธีกรพร้อมเปิดใจถึงรายละเอียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้งแบบหมดใจว่า...
"เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นสิ่งที่หนักมากหนักสุด ๆ กว่าทุกครั้งเพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมความพร้อมรับไม่ทันจริง ๆ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเรามัวทำแต่งานพอมาเจอแบบนี้เลยรู้สึกรับตัวเองไม่ได้ทำเอาช็อกไปเลย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นถ้าย้อนกลับไปที่แฟนคนเก่าก็มีลักษณะคล้าย ๆ กันทั้งบุคลิกการพูดจาแต่สุดท้ายก็หลอกเราเหมือนเดิม แต่กับแฟนคนเก่าเรื่องของเงินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วเพราะเขาเอาเงินมาคืนหมดแล้วก็จบกันด้วยดี"
"กับแฟนคนที่เพิ่งประกาศเลิกกันนั้นเริ่มรู้จักกันนานแล้วเริ่มจากตอนนั้นหนูทำธุรกิจขายเคสมือถือในอินสตาแกรมแล้วเค้าก็เข้ามาเป็นลูกค้าก็เลยทำได้มีโอกาสรู้จักกันจากนั้นก็ได้คุยกันมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาเป็นนักแสดงหน้าใหม่จนคุยกันและก็จีบกันตลอดบวกกับตอนนั้นเราโสดด้วยก็ยอมรับว่าอยากมีแฟนก็เลยตัดสินใจ"
"คบกันเป็นแฟนก็เลยรู้ว่าเค้าก็เป็นนักแสดงด้วยเหมือนกัน แต่หลังจากที่ตัดสินใจคบกันได้สักพักเขาก็บอกว่าเขาไม่สามารถที่จะเปิดตัวเราเป็นแฟนได้นะเพราะทางต้นสังกัดเค้าจะปั้นเขาเป็นพระเอกเลยไม่สามารถที่จะเปิดตัวหนูได้ว่าเป็นแฟน"
"ซึ่งตอนนั้นหนูคิดว่ามันเป็นเพราะอะไรมันยุคสมัยใหม่แล้ว พระเอกดังหลายคนก็ประกาศว่าตอนนี้มีแฟนยังไม่เห็นมีผลกระทบอะไรเลย แต่หนูก็บอกว่าหนูไม่ปิดนะเพราะเราเป็นคนเปิดเผยแต่อาจจะไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร"
"จากนั้นไม่นานเขาก็มาบอกกับเราว่าตอนนี้ทางต้นสังกัดไม่พอใจอิมมากเพราะอิมเป็นคนนักแสดงโลทำให้เขาดูแย่ พอเราได้ยินก็เลยรู้สึกว่าเราแย่ขนาดนั้นเลยหรือและก็ได้มีโอกาสไปเจอแม่อิมแม่ก็เตือนว่าอย่าคบกับผู้ชายคนนี้เลยเพราะเขาจะเหยียบเราติดดินซึ่งก็ไม่เชื่อแม่เพราะเรารักเขาก็พยายามจะเปลี่ยนเขาให้ได้ เลยแนะนำให้เขาไปบวชเผื่อจะมีอะไรดีขึ้น ซึ่งเขาก็ยอมไปบวช 15 วันหลังจากที่สึกออกมาทางต้นสังกัดเค้าก็ขอยกเลิกสัญญาของเขาบอกว่าไปทำเรื่องมากลัวจะเสื่อมเสียเลยทำให้หนูคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าเราหรือเปล่า"
"ต่อมาหนูก็ทำรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยวก็เลยดึงเขาเข้ามาทำงานด้วยสอนเขาตั้งแต่การทำแผนเสนอรายการ พาไปพบลูกค้าเพื่อเสนองาน พาไปช่องเพื่อคุยงาน สอนเขาทุกอย่างจนเค้าสามารถทำแทนเราได้อิมก็ไปทำงานตรงอื่นต่อเพราะไว้ใจแล้ว"
"จนไม่นานเขาก็มาบอกว่าตอนนี้ทางช่องไม่ต้องการให้อิมเป็นพิธีกรรายการนี้แล้วเพราะหน้าไม่ชัดเจนกับเรื่องของท่องเที่ยว ตอนนั้นก็งงเหมือนกันว่าหน้าเราไม่ตรงกับท่องเที่ยวอย่างไงเพราะเราก็ทำอยู่ตั้งหลายรายการ จบจากเรื่องช่องเขาก็มาบอกอีกว่าตอนนี้ลูกค้าก็จะไม่อยากให้เราเป็นพิธีกรแล้วเขาบอกลูกค้าต้องการเขาคนเดียวเท่านั้น"
"ตอนนั้นอิมยังถามเขาเลยว่าลูกค้าไม่รู้หรือว่ารายการนี้อิมเป็นเจ้าของอิมรู้สึกแย่มากเลยตัดสินใจเข้าไปคุยกับช่องว่าไม่อยากได้เราเป็นพิธีกรแล้วหรือ ซึ่งคำตอบที่ได้จากช่องคือช่องบอกว่าไม่เคยบอกเลย
ถ้าเราทำดีหรือว่าไม่ดีจะมีหนังสือเตือนไป ไม่ใช่บอกแบบนี้ รวมถึงอิมก็โทรไปหาลูกค้าที่จะตัดเราออกจากรายการลูกค้าก็บอกว่าไม่เคยพูดเหมือนกัน เลยทำให้อิมเริ่มรู้สึกว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร คนที่เรารักทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ จนตอนหลังอิมก็รู้อะไรหลายอย่างว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเขาไม่ได้โกงเราแต่เขาต้องการจะบีบเราออกจากรายการที่เป็นของเราเองเพื่อผลประโยชน์บางสิ่งบางอย่างของตัวเขา"
"ตอนหลังเขามาบอกกับอิมว่าเขาไม่ได้รักเราเป็นปีแล้วเขาบอกต่อหน้าแม่ของอิมด้วย เลยทำให้เรารู้สึกเสียใจมากว่าทำกับเราแบบนี้ได้อย่างไร เรารักเค้าหวังดีกับเขาทุกอย่างแล้วทำไมต้องทำแบบนี้กับเราซึ่งเลยทำให้อิมถึงกับช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้นและสิ่งที่อิมออกมาพูดไม่ได้ต้องการให้คนเห็นใจไม่ต้องสงสารอิมล้มแล้วเดี๋ยวก็ลุกขึ้นมายืนได้แต่ขอเวลาสักพัก"
"สิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคนรวมถึงสังคมว่าจากนี้ไปอิมกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วร่วมถึงเรื่องของธุรกิจก็ไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าเขาจะเอาชื่อของอิมไปทำอะไรขอบอกเลยว่าไม่เกี่ยวข้องกันตัดขาดกันทุกสิ่ง ต่างคนต่างอยู่ และอิมก็พร้อมที่จะเคลียร์เงินที่เขานำมาลงทุนกับอิมในตอนนั้นด้วยเพื่อจะได้จบสิ้นต่อกัน"
