แต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง สวยหวานฟรุ้งฟริ้งแบบไม่ง้อช่าง

          แต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง สำหรับวันสำคัญของสาว ๆ หากใครที่มีงบจำกัดและไม่อยากจะจ้างช่างแต่งหน้าราคาแพง ๆ ลองมาดูเทคนิคแต่งหน้าเจ้าสาวที่กระปุกดอทคอมเอามาฝากกันเลยค่ะ รับรองว่าสวยเป๊ะไม่ต่างจากช่างมืออาชีพแต่งให้เลยล่ะ


          สำหรับคุณสาว ๆ ที่ใกล้ถึงวันสำคัญอย่าง "วันแต่งงาน" หลายคนคงจะหัวหมุนกับการเลือกช่างแต่งหน้าทำผมกันอยู่แน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ เพราะในวันพิเศษแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากจะสวยที่สุด เริดที่สุด แต่ทั้งนี้สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่มีงบจำกัด และอยากจะลองฝึกแต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเทคนิคการแต่งหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเองจากคุณ cherzzy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมมาให้คุณสาว ๆ ได้ลองฝึกแต่งตามกันดูแล้วค่ะ บอกเลยว่าลุคนี้แต่งออกมาแล้วสวยหวานฟรุ้งฟริ้งไม่ต่างจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพแต่งให้เชียวล่ะ อิอิ มาดูกันเลย
          สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาทำ How to แต่งหน้าในลุคเจ้าสาวค่ะ ที่จริงหลาย ๆ คนในวันพิเศษแบบนี้น่าจะมีช่างแต่งหน้ากัน แต่ถ้าใครอยากลองแต่งหน้าในแบบเจ้าสาวด้วยตัวเองก็ลอง ๆ ดูจาก How to ของเราก็ได้นะคะ เผื่อเป็นแนวทางได้นะ ส่วนถ้าใครที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าสาวก็สามารถนำการแต่งหน้าลุคนี้ไปใช้สำหรับแต่งไปงานกันก็ได้นะคะ


How to นี้เราทำเป็นวิดีโอด้วยนะคะ เผื่อใครสนใจแบบวิดีโอลองเข้าไปดูกันได้นะคะ


          เริ่มแรกเราจะบำรุงกับเตรียมผิวหน้าด้วย Begin Natural face mist ก่อนค่ะ ตัวนี้เป็นทั้งบำรุงและช่วยรีเฟรชให้ผิวสดชื่นไปในตัวค่ะ



          เราจะเริ่มจากแต่งคิ้วกับตาก่อนนะคะ เพราะว่าลุคนี้จะแต่งตาเยอะหน่อย เดี๋ยวพวกผงอายแชโดว์อาจหล่นลงมาบนหน้าได้ ตอนเช็ดออกพวกรองพื้นอะไรอาจหลุดออกด้วย เลยเก็บพวกงานผิวไว้ทีหลังค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ค่ะ




          1. ถอนขนคิ้วให้เป็นทรงในระดับหนึ่งก่อน

          2. ใช้ดินสอเขียนคิ้ววาดโครงคิ้วแล้วก็เติมด้านในนิดหน่อยค่ะ

          3. ใช้แปรงหัวตัดสำหรับคิ้วเบลนด์ ๆ ให้สีกระจายสม่ำเสมอทั่วคิ้วค่ะ สังเกตตอนหัวคิ้วขั้นตอนที่ 2 เราจะไม่เขียน แต่อาศัยการเบลนด์มาในขั้นตอนนี้แทนค่ะ

          4. ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดค่ะ โดยปัดย้อนทางกับขนคิ้วก่อนเพื่อให้สีติดชัดแล้วค่อยปัดไปตามแนวขนคิ้วเพื่อให้คิ้วเรียงเส้นค่ะ

ต่อมาขั้นตอนที่ 2 ตาค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้



          Laura mercier : caviar stick eye colour #rosegold

          Nars : long-wear eyeliner

          Maybelline : lasting drama gel eyeliner #01 black

          Lifeford : hi-precise eye pen

          Lancome : grandiose smudge proof mascara




          1. ทาอายไพรเมอร์ หรือคอนซีลเลอร์ ไปบริเวณเปลือกตาค่ะ ในภาพนี้เราทาคอนซีลเลอร์ค่ะ

          2. ใช้สี 1 ทาบริเวณเบ้าตาแล้วใช้สี 2 ทาทับค่ะ เป็นการเบ้าตาแบบไม่เข้มมากค่ะ

          3. ใช้สีน้ำตาลทอง สี 3 ทาบริเวณหางตา

          4-5. ใช้สี 4 คือน้ำตาลเข้มทาบริเวณหางตาและรอยพับเปลือกตา แล้วทับอีกทีด้วยสีน้ำตาลเข้มอมม่วงคือสีที่ 5

          6-7. ใช้สีดำ สีที่ 6 ทาเป็นรูปตัว V บริเวณหางตา ทาขอบ ๆ หางตาล่างด้วยแล้วเบลนด์ค่ะ

          8. ใช้อายแชโดว์แบบแท่งทาบริเวณเปลือกตา

          9. ใช้อายแชโดว์สีที่ 7 ซึ่งเป็นสีชมพูอ่อน ๆ ผสมชิมเมอร์ ทาทับลงบนบริเวณอายแชโดว์แบบแท่ง รวมทั้งหัวตาด้วย

          10. เติมอายแชโดว์บริเวณหางตาที่คิดว่าอ่อนไปอีกที

          11. เขียนขอบตาล่างด้วยดินสอ

          12. ใช้เจลไลเนอร์เขียนขอบตาบน วาดหางบริเวณหางตาด้วย

          13-14. ใช้อายไลเนอร์แบบปากกาเขียนเป็นเส้นบาง ๆ บริเวณขอบตาบน เพื่อให้แนวอายไลเนอร์ดูมีมิติมากขึ้น

          15. ติดขนตาปลอม

ขั้นตอนต่อไป ผิวหน้าค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้


          Mac : pro longwear concealer #nc20

          Cathy doll easy nose up

          Laura mercier : silk creme moisturing photo edition poundation #medium ivory

ลุคนี้เราไม่ทำแบบใส ๆ นะคะ หนักหน่อยนาน ๆ ทีเนอะ ต้องการความแน่น 55+


          เริ่มจากการทาคอนซีลเลอร์สีอ่อนกว่าสีผิวนิดหนึ่งบริเวณใต้ตาจนถึงโหนกแก้ม ถือเป็นไฮไลท์ไปในตัวเลย



สร้างเฉดดิ้งให้กับใบหน้า


          เราใช้ Cathy doll easy nose up ด้วยหัวทาบริเวณข้างสันจมูก ข้างแก้ม ข้างหน้าผาก ข้างกรามทั้งสองด้าน แต่ยังไม่ต้องเกลี่ยนะคะ อันนี้เราจะให้มันเป็น Base ชั้นแรกของเฉดดิ้งค่ะ


          จากนั้นลงรองพื้นเลือกแบบที่ปกปิดดีหน่อย แต่เว้นไม่ต้องทาตรงบริเวณที่ลงคอนซีลเลอร์ไว้นะคะเดี๋ยวจะหนาเกิน ใช้แปรงทาให้ทั่วค่ะแล้วก็ใช้ฟองน้ำหมาด ๆ กด ๆ เกลี่ย ๆ อีกรอบค่ะ เพื่อความเรียบเนียนแน่นทน

จากนั้นใช้แป้งฝุ่นทาทับค่ะ




ขั้นตอนต่อไป คอนทัวร์ & ไฮไลท์



          แล้วต่อกันที่ไฮไลท์ตามจุดสูงสุดของใบหน้า ได้แก่ โหนกหน้าผาก โหนกคิ้ว สันจมูก โหนกแก้ม และคาง



ขั้นตอนต่อไป แก้มค่ะ


          เราใช้ Crayon : duo blusher #bubble gum ปัดวน ๆ สองสีเข้าด้วยกันจะเป็นแนวชมพูอ่อน ๆ หวาน ๆ แล้วปัดลงบนแก้มค่ะ


          ครั้งนี้เราจะปัดแบบบน ๆ หน่อยค่ะ แถว ๆ โหนกแก้มเพราะอยากได้ลุคแนวหวาน ๆ ดูเด็กหน่อย 55+



ขั้นตอนเกือบสุดท้ายแล้วค่ะ ปาก !!


          บำรุงปากกันก่อนค่ะ เดี๋ยวปากแห้ง เราใช้ Eos lip balm ชอบใช้เพราะมันแอบมีรสหวานด้วย 55+

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้นะคะ


          Too faced : lip insurance

          Revlon : super lustrous lipstick #pink in the afternoon



          แล้วทาทับด้วยลิปสติกเนื้อครีมค่ะ ของ Revlon อันนี้ไม่แพงและสีสวยมาก ใช้ได้ทุกโอกาสเลย

และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ เย้ ๆๆๆๆๆ

 
          เซตทุกอย่างด้วย Begin natural face mist อีกครั้งค่ะ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ^^ เย้ ๆ

สำหรับ Finish look นะคะ



          สามารถดูการแต่งหน้าลุคอื่น ๆ ของเราได้ที่นี่นะคะ ขอบคุณค่ะ www.facebook.com/cherrychanakarn


          ได้เทคนิคแต่งหน้าเจ้าสาวให้สวยหวานฟรุ้งฟริ้งด้วยตัวเองกันไปแล้ว คราวนี้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายก็ไม่ต้องง้อช่างให้เสียเงินราคาแพง ๆ กันแล้วล่ะค่ะ อิอิ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปฝึกแต่งหน้าให้สวยเป๊ะก่อนที่จะถึงวันสำคัญของคุณกันเลยดีกว่า ^^