โอ วรุฒ เคยเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของวงการ การันตีด้วยเรตติ้งและกระแสของละครที่เล่น แต่อยู่ ๆ วันหนึ่ง โอ-วรุฒ วรธรรม ก็หายหน้าไปจากวงการบันเทิง มาสาย เบี้ยวงาน เนื่องมาจากอาการติดเหล้า ทำเอาผู้จ้างผู้จัดเอือมระอา เป็นเหตุให้เจ้าตัวไร้งาน ชื่อเสียง เงินทอง ภาพลักษณ์ดี ๆ ที่เคยมีหายวับไปกับตา จนถึงขีดสุดที่เหล้าทำลายทุกอย่าง อาการหนักถึงขั้นสมองไม่สามารถควบคุมการเดิน รวมถึงควบคุมปัสสาวะอุจจาระไม่ได้
มาวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป โอ วรุฒ กลับตัว เลิกเหล้าและพร้อมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ หวนเล่นละครอีกครั้ง ซึ่งรายการ เปิดโปง ทางช่อง 2 ข่าวลึก บันเทิงร้อน โดยสันติ เศวตวิมล และ เอ-วราภรณ์ แสนสุข ทำหน้าที่พิธีกร มีเรื่องเล่าและคำตอบของหลาย ๆ คำถามที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าตัวมาฝากกัน
ก่อนหน้านี้ติดเหล้า มาสาย เป็นเจ้าชายสายเสมอ ?
โอ วรุฒ : มีตั้งแต่นัด 8 โมงไปเที่ยง นัดเที่ยง ไป 6 โมง นัด 6 โมง ไป 5 ทุ่ม หรือถึงขั้นยกกอง
ทางกองเขาว่ายังไงบ้าง ?
โอ วรุฒ : ครั้งแรกเขาก็ยังเฉย ๆ อยู่แหละ แล้วมันมาหนักตรงหลัง ๆ ที่ผมดื่มเหล้าจัด คือมันลุกไม่ได้เลย ลุกไม่ขึ้น หรือลุกขึ้นก็ไปทำงานโดยที่ไม่มีสภาพ แล้วเบี้ยวเขาทั้งคิวเลย
ยกกองครั้งหนึ่งนี่เสียหายเท่าไหร่ ?
โอ วรุฒ : อย่างแรง หลายแสน ยิ่งวันนั้นผมว่าน่าจะเกินครึ่งล้านนะครับ ก็ต้องกราบขอโทษด้วย
ผู้ใหญ่ไม่เตือน ?
โอ วรุฒ : ก็เตือนครับ เมื่อไหร่จะเลิกสาย ถ้าสายอีกฉันจะตัดบทแกนะ ตัดให้มันน้อยลง ช่วงเช้าก็ไปถ่ายอย่างอื่นกัน ชอบมาสายก็ไปถ่ายบ่าย ๆ
ผู้ใหญ่เตือนไม่กลัว ?
โอ วรุฒ : กลัวครับ ก็ไปนอนที่โน่นเลย ไปหลับที่หนองแขม (กองถ่าย) ดื่มเหล้าอยู่ดึก ๆ ขับรถไปหนองแขมเลย ไปจอดนอนโน่นเลย พอถึงเวลาเขาก็มาปลุก
คิดไหมว่าเราต้องเลิกเหล้าแล้ว ?
โอ วรุฒ : ตอนนั้นไม่คิด สมัยก่อนไม่ได้คิด สมัยก่อนมันยังไม่มีแฟน ไม่มีอะไรมันก็กินไปเรื่อย ตื่นมาปุ๊บมันก็ยังทำงานได้ แต่หลัง ๆ พอกินเพียว ๆ หนัก ๆ มันทำลายประสาท ทำลายอวัยวะทุก ๆ ส่วน ทำลายเส้นประสาท ทำลายตับ ยิ่งสมองเนี่ยสำคัญที่สุด มันทำลายสมองโดยตรง
จำบทไม่ได้ ?
โอ วรุฒ : บทยังจำได้อยู่ แต่มันทำลายในส่วนการควบคุมการเดิน การทรงตัว เดินไม่ตรง
ช่วงที่หายไปไม่มีงานเพราะติดเหล้าไปอยู่ไหนมา ?
โอ วรุฒ : ไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ เป็นปี ๆ เลย ก็ไปนั่ง ๆ นอน ๆ ไปอยู่กับคุณแม่ คุณแม่บอกว่าถ้าลูกเป็นอย่างนี้ลูกมาอยู่กับแม่ดีกว่า อย่างน้อยแม่พ่อก็ดูแลลูกได้ อยู่กรุงเทพฯ มันไม่มีใคร อย่างที่เราบอกว่าคนเราเวลาตกต่ำมันก็มักจะไม่มีใครมาเหลียวแล แต่ไม่ใช่เพื่อน ๆ นะ เพื่อนยังคอยดูแลผมอยู่ตลอด แต่ว่าพอช่วงที่มันไม่ไหวแล้ว ที่ผมเริ่มดื่มเป็นขวดลิตร แม่ก็บอกให้ไปอยู่ เชียงใหม่ คือไปอยู่โน่นเนี่ย ก็ไม่ได้ดัดจริตนะครับ ไปกับคุณแม่ เข้าวัดเข้าวา จะมีพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศผมต้องไปสวดที่นั่นทุกวันอาทิตย์ สวดเป็นเรื่องเป็นราว เป็นหลาย ๆ ชั่วโมง
เข้าวัดแล้วดีขึ้นไหม ?
โอ วรุฒ : ดีขึ้น แล้วก็ไปวัด พระธาตุโน้นพระธาตุนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อนะว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนพูดกับเราว่าธรรมะหรือการสวดมนต์ การเข้าวัดเข้าวามันจะช่วยได้จริง ๆ มันทำให้เราปล่อยวาง ทำให้เรามีสติ แม้จะเป็นสติสั้น ๆ ก้าวแต่ละก้าว ถ้าเราใช้สติมันจะไม่มีข้อผิดพลาดเลย
คิดตอนไหนว่าจะเลิกเหล้า ?
โอ วรุฒ : คิดตอนที่ร่างกายมันไม่ไหว ไม่ใช่ที่วัดนะ ตอนนั้นยังไม่คิด ออกจากวัดมาเข้าบ้านก็กิน กินอยู่เหมือนเดิม แต่ว่าพอมาถึงจุดจุดหนึ่งที่เหล้ามันทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายของเรา โดยเฉพาะประสาท วันสุดท้ายที่ผมหยุดกินคือผมลุกขึ้นมา แล้วล้มซี่โครงหัก ล้มแล้วข้อศอกขวาผมมันกระแทกเข้าไปตรงซี่โครง ลุกขึ้นมาก็ทรุด เดินเป๋ไม่เป็นทาง ขอโทษนะครับ ปัสสาวะ กับอุจจาระเนี่ย หลุดออกมาเอง มันอุบาทว์มาก สมองมันไม่สั่งงาน กว่าจะเดินได้ปกติใช้เวลาอาทิตย์หนึ่ง แต่ว่าสมองที่มันเสียไป เรื่องของความจำหมด กว่าจะฟื้นเป็นเดือน
แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง ?
โอ วรุฒ : ไปตรวจสุขภาพมา ณ วันนี้ ก็ดีหมด ทุกอย่างปกติ หมอยังงงเลย คุณโอทำได้ไง”
แล้วคุณทำได้ยังไง ?
โอ วรุฒ : ก็หยุดกินครับ แล้วก็ออกกำลังกายพอสมควร แล้วก็กินอาหารที่มีประโยชน์
เหล้าเนี่ยตอนเลิก คุณงดทันทีหรือค่อย ๆ ลด ?
โอ วรุฒ : ตอนที่ผมหยุดคือหยุดเลย หักดิบไหม มันไม่ได้ติดไง ไม่ใช่ว่าตื่นมาแล้วหาเหล้ากิน กินเหล้าแล้วสบายไม่ใช่ เพียงแต่ว่าตื่นมาแล้ว หันไปทางไหนมันก็... กินเหล้าดีกว่า มันเป็นแบบนี้ เหตุผลที่กินเหล้า ไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาแล้วมันอยากเหล้า แต่เหตุผลมันคือความเหงา ความว้าเหว่
คุณเคยเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของวงการ จากที่อยู่สูงสุด มาถึงจุดต่ำสุด ?
โอ วรุฒ : อันนี้ผมไม่คิดมาก ตอนที่ผมอยู่สูงสุดผมคิดไว้แล้วว่าวันหนึ่งเราต้องตก ไม่เรียกว่าทำใจ เรียกว่าเข้าใจวงจรของชีวิตการเป็นดารา ในช่วงชีวิตที่ผมอยู่ในวงการ ผมสูงสุด ไม่ได้สูงปรี๊ดแล้วก็ลงมาเลย ผมสูงปรี๊ดแล้วผมไปค้างอยู่บนโน้น 20 กว่าปี ช่วง 20 กว่าปีผมคิดมาตลอดว่ายังไงวันหนึ่งเราก็ต้องตกลงมา แต่ตกลงมาแค่ไหนไม่รู้ ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันจะตกแค่ไหน แต่ผลมันคือตอนตกมันทะลุลงไปข้างล่างเลย (หัวเราะ) ลงไปโน่นเลย
ณ เวลานั้นคือพีคมาก มีทุกอย่าง หน้าตา ชื่อเสียง เงิน สังคม ?
โอ วรุฒ : พูดง่ายๆ ไม่มีอะไรที่ผมไม่เคยทำ ขับเครื่องบิน เรือยอชท์ก็มี เครื่องบินเกือบซื้อแล้ว ที่ไม่ซื้อเพราะกลัวตาย ซื้อแล้วต้องบิน บินแล้วต้องกินเหล้า ถ้ากินเหล้าแล้วขับเครื่องบินตายแน่นอน
ตกต่ำที่สุด ?
โอ วรุฒ : ทะลุลงดินไปเลย ไปโน่นใต้บ่อบาดาล ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็เราทำตัวเอง ใครเขาทำเราที่ไหนล่ะ เราทำเราก็รับไปสิ
ไม่คิดทำอาชีพอื่นเหรอ ?
โอ วรุฒ : ขอโทษนะครับ ตั้งแต่จบโรงเรียนการบินมา ที่เมืองไทยไม่จบ แต่ที่อังกฤษจบ มันทำอะไรไม่เป็น กลับมาเมืองไทยมาเรียนการบินต่อ เรียน ๆ ไปก็ไปถ่ายแบบ ถ่ายละคร ไปถ่ายหนัง หยุดเรียนไปเลย แล้วหลังจากนั้นมาก็คืออยู่ในวงการละคร วงการหนัง วงการทีวีมาตลอด จนทำอะไรไม่เป็น ทำไม่เป็น คิดไม่ออก ถ้าทำร้านอาหารทำได้ เพราะว่าตอนอยู่อังกฤษเป็นเชฟ ไม่ใช่ธรรมดานะ (หัวเราะ) ไม่ใช่แค่เชฟ เป็นเฮดเชฟด้วย (ยิ้ม)
ตอนนี้ได้โอกาสกลับมาเล่นละครอีกครั้ง ?
โอ วรุฒ : เล่นละครของพี่โน่ (นีโน่ เมทนี) เขาเป็นพี่ชายของผม เป็นพี่ชายจริง ๆ ก็หลังจากที่กลับไปอยู่เชียงใหม่ แกก็จะโทรเช็กตลอดว่าเราดีขึ้นหรือยัง ทำงานไหวไหม (หัวเราะ) อันนี้เราพูดภาษาพี่น้องนะครับ ขอโทษที ทำงานไหวไหมมึงไอ้โอ ผมก็บอกไหวแล้วพี่ ชัวร์ มึงชัวร์แน่นะ กูเอามึงมา มึงเล่นไม่ได้ เดินไม่ตรงกูตายเลยนะ ผมก็รับรองสัญญา ก็กลับมาก็ได้เล่น ตอนนี้ละครก็จบไปแล้ว
กลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง ?
โอ วรุฒ : ก็ดีใจมาก คือพี่โน่ให้โอกาสให้ความกรุณาที่เอาเราไปให้ผู้จัดคนอื่น ๆ หรือว่าประชาชนทั่วประเทศได้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นแล้ว ไม่มาสายแล้ว ก็น่าจะมีละครเรื่องต่อไป ก็น่าจะเป็นของพี่โน่อีกนั่นแหละ เพราะว่าผู้จัดท่านอื่นยังไม่ไว้ใจ
แล้วคุณไว้ใจตัวเองไหม พร้อมร่วมงานกับผู้จัดท่านอื่นแค่ไหน ?
โอ วรุฒ : ผมทดสอบตัวเองมาแล้ว (หัวเราะ) อย่างเช่นผมไปเที่ยวโคโยตี้ คือผมมีเมมเบอร์อยู่ ผมก็เที่ยวได้ทุกที่แถบเกษตรนวมินทร์อะไรพวกนี้ ก็ไป การที่นั่งอยู่บ้านเฉย ๆ เราก็คิดว่ามันไม่ควรนะเราควรได้ออกไปพบปะกับใครบ้าง ปรากฏว่า สาว ๆ (โคโยตี้) เซ็ง เพราะเราไม่เมา พอไม่เมาคนที่เราเคยนั่งอยู่ด้วย เขาก็จะบอกพี่โอเล่านิทานให้ฟังหรือยัง เราก็ถามนิทานอะไร เขาบอกพี่โอเล่านิทานตลกมาก เขาก็จะบอกว่าพี่เป็นอย่างนี้แหละ ไม่เมาแล้วจะไม่ค่อยพูด
ติดตามรายการ “เปิดโปง” ได้ทาง “ช่อง 2” ข่าวลึก บันเทิงร้อน ทุกวันจันทร์-ศกร์ เวลา 07.00/14.00/22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00/15.30/22.00 น. และติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ที่ เฟซบุ๊ก Thaich2channel
