วู้ดดี้ วุฒิธร เคลียร์ชัด ปมดราม่าสึกกลางพรรษา บอกสามารถสึกได้เพราะไม่ได้ปวารณาตัวเข้าพรรษา รู้สึกมีความสุขมากที่ไปบวช เผยมีแพลนกลับไปบวชอีกครั้ง แนะสามารถบวชได้ทุกปีขึ้นอยู่ที่่ความตั้งใจ
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย กรณีการสึกของ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าพิธีอุปสมบทไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2558 และไม่มีกำหนดการสึกออกมาอย่างแน่ชัด แต่ต่อมาก็มีภาพของวู้ดดี้ไปโผล่ที่คอนเสิร์ตในญี่ปุ่น กับสาวกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ พิธีกรร่วมรายการ ทำให้เกิดดราม่าเบา ๆ เกี่ยวกับการสึกของวู้ดดี้ว่าเป็นการสึกกลางพรรษาหรือไม่
โดยวันนี้ (1 ตุลาคม 2558) เวลา 09.00 น. ที่โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9 อสมท) วู้ดดี้ วุฒิธร ได้ออกมาเปิดใจและเคลียร์ชัดถึงกรณีดราม่าดังกล่าวว่า หลังจากสึกออกมาก็มีเวลาพักผ่อน 2 อาทิตย์ ก่อนจะมาจัดรายการวันนี้เป็นวันแรก บรรยากาศยังแปลก ๆ แต่เราก็คิดถึงทีมงานแล้วก็นึกถึงตัวเองว่าเราจะอยู่ในสภาพอย่างไร ต้องพูดแบบไหน เพราะสึกออกมาก็ยังมีความนิ่ง ๆ อยู่ แต่ทีมงานก็อยากให้ทำออกมาแบบสนุก ๆ ยอมรับว่างง ๆ นิดหน่อย เหมือนยังไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไร แต่หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง ก็เข้าสู่ภาวะปกติ
ต้องปรับตัวเยอะไหม ?
วู้ดดี้ : ปรับตัวเยอะครับ เพราะตั้งแต่ตื่นมาตอนเช้าเราก็คิดว่าต้องมาออกทีวีอีกครั้งและต้องเข้าใจว่าไปบวชมาเราก็เป็นเหมือนอีกคน ลืมไปเลยว่าเคยเป็นคนร่าเริง เฮฮามาก แต่พอคนเห็นว่าเรากลับมาเป็นแบบเดิมเขาอาจจะคิดว่าเราไม่ได้อะไรเลยหรือเปล่า ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราคิดขึ้นไปเอง เพราะเมื่อเรามาถึงรายการก็คิดได้ว่าเราเป็นคนแบบไหนก็เป็นแบบนั้น
ความรู้สึกตอนบวช เป็นอย่างไรบ้าง ?
วู้ดดี้ : รู้สึกดีมาก และไม่คิดว่าจะได้อะไรเยอะขนาดนี้ ทั้งได้เรียนและได้ฝึกรวมทั้งได้อ่านใจตัวเอง ได้ฟังเสียงตัวเองว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นคนแบบไหน ยกตัวอย่างเช่น ผมเป็นคนที่หงุดหงิดง่ายมาก ทุก 5 นาที ก็จะหงุดหงิดแล้ว หรือฟังใครพูดไม่เข้าหูก็จะมีปฏิกิริยาในใจจนเก็บมาเรื่อย ๆ พอเราไปฝึกมาก็เหมือนเป็นการบำบัดจิตด้วย ได้เห็นตัวเองมากขึ้น เพราะก่อนบวชเราเหมือนใช้ชีวิตแบบหลอกตัวเอง
ธรรมมะช่วยได้เยอะไหม ?
วู้ดดี้ : ช่วยได้เยอะครับ เพราะธรรมะไม่ใช่แค่ธรรมะ แต่คือมันคือศาสตร์การใช้ชีวิต เราจะรู้เลยว่าพอเราตื่นขึ้นมา หรือเวลาที่เราเจอกับสถานการณ์อะไรก็จะรู้เลยว่าเราสามารถรับมือกับมันได้
ไปบวชครั้งนี้เคร่งมากเลยหรือเปล่า ?
วู้ดดี้ : ที่ไปบวชมาก็เคร่งครับ มีอยู่บางช่วงที่ไม่พูดกับใคร รวมทั้งปิดมือถือ แล้วก็ไม่อ่านข้อความเป็นวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะทำให้เราไม่ต้องใช้โซเชียล ไม่ต้องใช้มือถือ ไม่ได้คุยกับใครเลย แม้กระทั่งฉลากบนกล่องก็ไม่มีให้อ่าน เพราะอยู่แต่ในป่า มันจะทำให้ได้ฟังเสียงตัวเอง โดยปกติมนุษย์เรามักจะฟังแต่เสียงคนอื่นจนกลายเป็นคนอื่นโดยที่เราไม่รู้ตัว
จากการที่วู้ดดี้เป็นคนไฮเปอร์มาก่อน พอไปบวชต้องปรับตัวเยอะไหม ?
วู้ดดี้ : ปรับไม่เยอะครับ เพราะเมื่อปิดมือถือปุ๊บก็ไม่ต้องทำอะไรมากแล้ว เหมือนเป็นอีกขั้วหนึ่งเลย รวมทั้งเราเตรียมใจไว้แล้วพอบวชก็เลยไม่มีปัญหา แต่หากไปบวชโดยไม่มีการเตรียมใจไว้ก็อาจจะกังวล พอบวชไปได้ 1 อาทิตย์ ทำให้เราเกือบลืมไปว่าเราเป็นพิธีกร ลืมไปว่าเรามีรายการทีวี เพราะช่วงนั้นเราไม่ได้คิดถึงงาน แค่คิดว่าเราเป็นพระและต้องปฏิบัติธรรม
หลังจากสึกก็มีกระแสดราม่าว่าทำไมสึกกลางพรรษา ?
วู้ดดี้ : หลังจากที่เราเห็นกระแสตรงนั้นออกมา ตอนแรกก็รู้สึกเป็นกังวลว่าทำไมคนให้ความสนใจเรื่องนี้เยอะมาก แล้วก็ไปหาข้อมูลเพิ่มด้วย ก็มีไปคุยกับพระอาจารย์ โดยพระอาจารย์บอกว่า ถ้าผิดก็คงไม่ให้สึกหรอกนะ หรือไม่ให้บวชตั้งแต่แรก และเราก็ไม่ได้ปวารณาตัวเข้าพรรษา นั่นหมายถึงเราไม่ได้บวชเต็มพรรษา แต่สิ่งที่อยู่ในใจคือเราตั้งใจบวช ว่าจะเป็นการบวช 1 วัน หรือทั้งชีวิต แต่ถ้าเราตั้งใจบวชผมก็คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี และการที่คนให้ความสนใจเรื่องนี้ก็ดีเพราะจะทำให้วันนี้เขารู้ว่าการบวชไม่จำเป็นต้องบวชเต็มพรรษาถ้าคุณไม่ได้ปวารณาตัวเข้าพรรษา และสุดท้ายทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง ลองไปหาใน Google ดู ซึ่งวันนี้เราก็ได้ความรู้ใหม่แล้วแทนที่จะถกเถียงกัน
มีการอ่านคอมเม้นท์หรือเปล่า ?
วู้ดดี้ : อ่านครับ ซึ่งเราก็รู้สึกโอเคมาก เราเข้าใจว่าเขาไม่รู้ และเมื่อคนไม่รู้อะไรก็จะเกิดการถกเถียงซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะถ้าไม่เถียงกันเราก็จะไม่รู้ หากเป็นสมัยก่อนเราคงคิดว่าทำไมต้องตีกันด้วยแต่หลังจากบวชก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ทำไมถึงบวชแค่ 1 เดือน ไม่คิดบวชเต็มพรรษาเหรอ ?
วู้ดดี้ : เรื่องจริงก็คือเรามีรายการ มีบริษัท เราไม่ได้เผื่อใจไว้ว่าการบวชมันจะดีขนาดนี้ ไม่คิดว่ามันจะสุขขนาดนี้ ที่จริงบวชเกินกำหนดด้วยนะ เพราะผมบวช 1 เดือนครึ่ง ตอนที่ผมต่ออายุบวช ทางสถานีกับทางทีมงานก็ตกใจ ทำให้เราก็รู้สึกทุกข์เพราะสิ่งนั้นคือความสุขของเราแต่กลับเป็นความทุกข์ของคนอื่น จะเอาพิธีกรคนไหนแทน ต้องไปอ้อนคนอื่นมาจัดแทน ซึ่งเป็นความทุกข์ของทีมงาน ผมต้องขอโทษทางทีมงานด้วย ไม่ได้มีเจตนา และวันนี้ก็กลับมาทำหน้าที่แล้วก็จะทำให้ดีที่สุด และอีกสิ่งที่ไม่ได้บอกใครคือตอนแรกจะบวชยาวแต่เราก็คือวู้ดดี้ยังไงก็ต้องกลับมาเป็นพิธีกร ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกของมายา ทุกสิ่งเป็นเรื่องปรุงแต่งหมดเลย แต่เราก็ยังมีสติว่าเรามีคนที่ต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องเรา ครอบครัวของลูกน้อง ครอบครัวเรา ตอนนี้ก็กลับมาทำให้เต็มที่แล้วผมจะกลับไปบวชเพราะได้สัญญากับพระว่าจะกลับไปเจอกัน
มีความคิดว่าจะบวชอีกครั้ง ?
วู้ดดี้ : ผมมีความคิดใหม่ด้วยซ้ำว่าเราไม่จำเป็นต้องบวชครั้งเดียวในชีวิต ผมเชื่อว่าทุกพรรษาต่อจากนี้ไปผมสามารถบวชได้อีก บวชทุกปีหรือบวชปีละครั้ง เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยนึกถึงมาก่อน อย่างเช่นปีใหม่ก็บวชได้ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการบวชพระห่มเหลืองเป็นเรื่องมี่สมมติหมดเลย อย่างไรก็ตามคุณก็ยังเป็นคนเพียงแต่ถือศีล หากทำได้ทุกปีก็เป็นเรื่องดี ได้ความรู้มากขึ้น อย่างเช่นเมื่อก่อนผมมายืนหน้าไมค์ก็จะกลัวว่าจะต้องพูดอย่างไรให้คนชอบเราหรือพูดแบบไหนให้ดูเท่ดูดี แต่วันนี้ผมรู้สึกสบาย ๆ คิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น ไม่ต้องสร้างภาพ รู้แบบนี้น่าจะบวชก่อนหน้านี้จะได้อยู่ในวงการได้สบายขึ้น
ธรรมะช่วยได้เยอะเลยหรือเปล่า ?
วู้ดดี้ : ใช่ครับ ช่วยได้เยอะเลย ตื่นมาตอนเช้าเราก็มีความสุข เมื่อก่อนเดินหน้าบึ้งมาใครจะอยากทำงานด้วย พิธีกรคนอื่น ๆ ก็ต้องฝืนทำงานด้วย เราก็รู้ เรื่องครอบครัวก็หงุดหงิด
ทุกวันนี้ได้เอาธรรมะมาใช้ด้วยหรือเปล่า ?
วู้ดดี้ : พยายามเอามาใช้ตลอดเพราะเราต้องฝึก ทุกวันนี้ก็ยังทำได้ไม่เต็มที่เพราะยังมีหงุดหงิดบ้าง ก็จะพยายามปรับปรุง และผมเชื่อว่าใครเข้าใจธรรมะก็จะรับรู้ได้
ภาพจาก Instagram woodytalk
