หญิงแย้ ปล่อยโฮ เล่าจุดแตกหัก หมอนพรัตน์ หลังแต่ง 3 เดือน

          หญิงแย้ : จริง ๆ แล้วเรื่องราวของแย้ไม่อยากจะป่าวประกาศให้สังคมได้รับรู้เลย ด้วยความที่ในเน็ต คิดถึงความคิดเห็นของคน คนทั่วไปว่ามองเราเป็นอย่างไร แล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก จริง ๆ ตั้งแต่เลิกกับคุณหมอมาแย้ไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ และแย้ไม่อยากจะพูดอะไรด้วย อยากเก็บไว้ให้เป็นความลับเฉย ๆ เพราะมันก็เสียหายกับแย้มากแล้ว แต่ด้วยความที่กระแสโซเชียลมันออกมา มันไม่ได้กระทบที่ตัวแย้คนเดียว แต่มันไปถึงคุณพ่อคุณแม่ และก็ญาติวงศ์ตระกูลของแย้ด้วย เลยอยากจะขอให้พี่ ๆ สื่อฟังคำชี้แจงของแย้ด้วย


สาเหตุที่เลิกกันเพราะอะไร

          หญิงแย้ : เป็นเรื่องของทัศนคติและไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกัน

9 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันเลยเหรอ

          หญิงแย้ : แย้เรียนรู้มาตลอด แย้ค่อนข้างจะปรับเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น เพราะแย้รักเขามากตั้งแต่เป็นแฟนกันใหม่ ๆ แย้รักเขามาก และแย้ยังเด็ก แย้ก็เชื่อฟังเขาทุกอย่าง สิ่งที่เขาสั่ง เขาสอนทุกอย่าง แย้ทำตามหมด จริง ๆ แล้ว สมัยที่แย้มีป๊อปปี้เลิฟ แย้ไม่ใช่คนแบบนั้น แย้เป็นผู้นำ สั่งแฟนให้ทำนู่นทำนี่ ตอนนี้ยอมรับว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองมาก จากคนชี้นิ้วสั่ง กลายเป็นคนที่นอบน้อมทุกอย่าง ด้วยวุฒิภาวะ ด้วยอายุอะไรต่าง ๆ ก็เลยเชื่อฟัง


          การใช้ชีวิตคู่ แย้คิดว่าเราต้องเปลี่ยนตัวเองอยู่แล้ว มันต้องใช้ความอดทน แย้รักเขา แย้ทำแบบนี้เพราะแย้รักเขา แย้เปลี่ยนตัวเองเพราะอยากให้เขามีความสุข และแย้คิดว่าความรักของแย้ จะทำให้อุปสรรค นั่นก็คือสิ่งที่แย้อดทน สิ่งที่เราไม่ได้เป็นตัวเอง มันสามารถก้าวข้ามผ่านได้ แต่สุดท้ายมันก็ต้องทำให้เราถอยออกมา นอกจากสิ่งที่มันสะสมเนี่ย มันยังมีจุดแตกหักด้วยที่ทำให้แย้เลิกกับเขา

จุดแตกหักคืออะไร ใช่ปาร์ตี้ใช่ไหม

          หญิงแย้ : ประเด็นเรื่องสังสรรค์แย้ถูกทุกคนมองว่าแย้เป็นคนปาร์ตี้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเนี่ยมันไม่ใช่ แย้มีเคอร์ฟิวที่คุณหมอสั่งสอนมาตลอด เป็นกฎอยู่แล้วว่าแย้ต้องกลับบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง แย้ปฏิบัติมาตลอด ทุกคนจะรู้ เพื่อนจะรู้ ถ้าอยู่เลยสี่ทุ่มครึ่ง คุณหมอก็จะมาอยู่ด้วยตลอด แล้วก็อีกอย่างปาร์ตี้ ถ้ามีโอกาสเข้าไปดูในอินสตาแกรมแย้ จะเห็นว่าแย้ทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งหุ้นส่วนร้านอาหาร เครื่องสำอาง บริษัทโฆษณา ร้านขนมด้วย ด้วยที่ธุรกิจเราเยอะ ทำให้เราไม่สามารถอยู่บ้านได้ คนที่ทำงานพวกเอเจนซี่จะรู้ เดี๋ยวนี้การประชุมกลางวันมันน้อย เริ่มทีก็ทุ่มสองทุ่ม เราก็ต้องเอาใจลูกค้า การประชุมก็เกิดขึ้นสองทุ่ม สามทุ่ม ประมาณนั้น แต่ก็ไม่เคยกลับ 4 ทุ่มครึ่ง ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าแย้ไม่มีคุณหมอแล้ว แย้ก็ยังเชื่อฟังในคำสั่งสอนเขาที่เคยปูทางให้กับแย้

ล่าสุดคุณหมอบอกว่าแย้ใจร้อนไปเองล่ะเรื่องอะไร

          หญิงแย้ : แย้ใจร้อนจริงมันเป็นสิ่งที่สะสมมานาน ขอย้อนไปยังจุดที่แตกหัก แย้ปกติกลับบ้านสี่ทุ่มครึ่ง วันนั้นเพื่อน ๆ จะไปเที่ยวที่ทองหล่อ เพื่อนก็ชวนแย้ แย้ก็อยากไปต่อเพราะไม่ได้เที่ยวมานานแล้ว แย้ก็ได้โทรหาคุณหมอว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะ จะตามมาด้วยไหม ก็ตามมา แต่คุณหมอไม่รับสายเลย ตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนก็ติดต่อไม่ได้ โทรก็โทรไม่ติด ทิ้งไลน์ไว้ว่า แย้จะไปเที่ยวนะยังไงตัวเองตามมานะ ปกติคุณหมอก็ไปด้วยตลอด จากนั้นคุณหมอโทรกลับมาตอนเที่ยงคืน แย้ก็รับสาย ก็บอกว่าอยู่ที่นี่ค่ะกำลังเที่ยวอยู่ แล้วเขาก็ว่าแย้ ว่าทำไมยังไม่กลับบ้าน ทำไมยังเที่ยวอยู่ ทำไมยังสำมะเลเทเมา จะไม่ปาร์ตี้สักวันได้ไหม เป็นสิ่งที่คุณหมอพูดมา แล้วแย้ก็ถามว่า คือจริง ๆ ไม่ได้อะไรเลย พยายามจะชวนคุณหมอแล้ว ส่วนแย้ยอมรับว่าอยากไปจริง พอเขาว่าแย้ก็โอเครับฟังคำที่เขาว่าเรามาก่อนเขาจะได้ใจเย็น รับฟังแล้วก็ค่ะ โอเคค่ะ กลับบ้านมา เขาก็ยังว่าต่อเป็นแพทเทิร์นมาเลย แย้อึดอัดมาก แย้ก็เลยนึกถึงสิ่งที่แย้สะสมมานาน แย้เปลี่ยนแปลงตัวเอง นู่นนี่ แย้ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้น ถอดแหวนแต่งงาน แล้วก็วางไว้ที่เขา ไว้ที่หน้าเขา แล้วเก็บของบางส่วนสำคัญเท่าที่เก็บได้ แล้วก็เปิดประตูไปบอกคุณหมอว่า "เค้าคงไม่ดีพอสำหรับตัวเองหรอก"


คือไม่ใช่เก็บเสื้อผ้าย้ายออกมาใช่ไหม

          หญิงแย้ : เอามาบางส่วน ไม่มีทางจะเก็บได้หมดอยู่แล้ว คุณหมอมองหน้าอย่างเดียว ไม่พูดอะไร ไม่ได้ห้ามอะไร คิดว่าคงจะกลับมา หลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกันเลย ตั้งแต่คืนวันที่ 16 เมษายน และวันที่ 20 เมษายน คือวันเกิดแย้ มันเป็นวันเกิดที่เศร้ามาก แย้คิดว่ามันต้องมีเซอร์ไพรส์ป่ะ คือเราหายไปจากบ้าน เราหายไปจากหมอ 4 วัน ไลน์ก็ไม่บล็อก โทรศัพท์ไม่ได้บล็อก พร้อมให้เขาติดต่อ อยากให้เขาง้อบ้าง ถามว่า 4 วันนั้นแย้เครียดมาก ทำไมเขาไม่ห่วงเราเลยเหรอ จะเป็นตายร้ายดียังไง แล้วนึกภาพที่แย้ขับรถออกไปตอนเที่ยงคืนเสียใจ เขาควรจะต้องเป็นห่วง เขาก็รู้ที่ว่าแย้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีการติดต่อไม่มีอะไรเลย แล้ววันที่ 20 เมษายน แน่นอนผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งแต่งงานมันก็มีความหวัง ว่าแบบเขาจะมา แต่สุดท้ายเซอร์ไพรส์ตัวเอง ไม่มีอะไรเลย วันนั้นมันเป็นวันที่สำคัญ เราอยู่ด้วยกันในวันเกิดมาตลอด 9 ปี


หลังจากนั้นมีการพูดคุยติดต่อกันมาบ้างหรือเปล่า

          หญิงแย้ : หลังจากวันนั้น แย้ก็ตัดสินใจของแย้เอง แย้คงต้องออกจากชีวิตผู้ชายคนนี้แล้วล่ะ แย้คิดว่าชีวิตคู่มันต้องห่วงกันมากกว่านี้ไง เขาไม่มีตามไม่มีอะไรเลยมันแปลก ก็โอเคคิดว่าออกดีกว่าและตั้งปณิธานว่าไม่กลับไป จนวันที่ 26-27 เมษายน ก็ไม่แน่ใจวัน ตอนนั้นพ่อแม่กลับจากต่างประเทศพอดี นัดพ่อแม่กินข้าว เนี่ยแย้เลิกกับคุณหมอแล้วนะ พ่อแม่แย้ก็ไม่ได้ขัดอะไร อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจ แล้วแย้ก็ดีลีทคุณหมอออกจากกรุ๊ปไลน์ครอบครัว จากนั้นเขาก็ไลน์มาหาพ่อแม่แย้ พ่อแม่แย้อยากให้ทำความเข้าใจกัน ถ้าจะจบก็จบลงด้วยดี ไม่มีการดิสเครดิตอะไรกัน ไม่มีใครอยากสร้างศัตรู แล้วสักพักก็โทรหาแย้ มาง้อ ทำไมต้องเลิกกัน มาขอคืนดี มันกลับไม่ได้แล้ว แย้คิดว่าตัดสินใจถูกแล้ว ที่แย้ถอยออกมา

 เห็นในอินสตาแกรมว่าเรานอกใจ ไปเกาหลีกับผู้ชาย

          หญิงแย้ : เรื่องนอกใจเรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอน ไปเกาหลีไปกันเยอะมากครอบครัวทั้งหมด และมีทีมงานของแย้ไปด้วยเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่มีอะไรไปกันเยอะ ส่วนฝ่ายคุณหมอก็ไม่มีค่ะ ไม่มีแน่นอน

  
ความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

          หญิงแย้ : ก็เสียใจค่ะ มันคือตอนนี้แย้ก็อายุ 29  เราอยู่กับเขามา 9-10 ปี เราไม่โทษเขานะ คนเรามันก็มีข้อเสีย แย้ผิดเองที่คิดว่าความรักมันจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ แล้ว 10 ปี ที่เราอยู่ตรงนี้ ภาพไหนมันก็คือหมอ หมอหมดเลยอะ แล้วไม่นึกว่าวันหนึ่งเราจะมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว ทั้ง ๆ ที่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มันก็อยู่ด้วยกัน

จากที่ฟังแย้พูดปัญหามันคือเรื่องเที่ยว แต่แค่เรื่องเที่ยวทำไมถึงตัดสินใจเดินออกมา

          หญิงแย้ : สำหรับแย้มันไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แย้เคยบอกเลิกกับคุณหมอแล้วก็ไม่สำเร็จ แล้วก่อนวันที่ 17 มกราคม แย้ก็บอกคุณหมอแล้ว แต่ยอมรับว่ายังรักอยู่ แล้วพอเขาพูดอะไรนิดหน่อย ๆ ก็คล้อยตามเขาทุกอย่าง พอแย้บอกเลิกไปวันรุ่งขึ้นคลิปขอแต่งงานก็ถูกแชร์

 
ใช้ชีวิตมา 9 ปี ทำไมถึงมาอดทนไม่ได้ตอนนี้

          หญิงแย้ : มันเป็นเรื่องทัศนคติซึ่งแย้ไม่อยากจะแจกแจงว่าเป็นเรื่องอะไรบ้าง เป็นเรื่องค่อนข้างจะส่วนตัวมาก ๆ

ด้วยอายุหรือเปล่า

          หญิงแย้ : แย้คิดว่าอายุไม่เกี่ยวนะคะ หลัก ๆ เลยเพราะทัศนคติ งาน และไลฟ์สไตล์ เพราะว่าแย้ทำธุรกิจ ส่วนคุณหมอจะชอบอยู่บ้านมาก เขาชอบดูหนัง เขาจะสร้างทุกสิ่งที่เขามีความสุขอยู่ในบ้าน มันไม่ตรงกันหลายอย่าง

แต่มัน 9 ปีนะ  แล้วทำไมถึงแต่งงาน

          หญิงแย้ : แย้รู้มาตลอด แย้เปลี่ยนตัวเองมาตลอด เป็นคนที่สนุกสนานตลกโปกฮา แต่แย้ก็ทำให้เขาทุกอย่าง ถึงแย้จะไม่ใช่คนที่เทคแคร์ใครเท่าไร จริง ๆ เขาก็เข้าใจไลฟ์สไตล์ของแย้ ตอนนี้มันเหมือนกันช้างเท้าหน้าทั้งแย้และหมอ แต่ช้างเท้าหน้าอย่างแย้ พยายามจะเป็นช้างเท้าหลังซึ่งไม่สำเร็จ ส่วนเรื่องโปรโมทสินค้า ไม่เลยไม่ใช่แน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องเซ็นซิทีฟมาก (หากถัดไปอีกเดือนหากคืนดีกันแล้วคนจะคิดว่าโปรโมทสินค้าเหมือนคู่อื่น ๆ หรือเปล่า) แย้มองว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย ถ้าแย้กล้าทำอย่างนั้นมันทุเรศตัวเอง

 
แล้วเรื่องสินสอดล่ะ

          หญิงแย้ : เรื่องสินสอด ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร ไม่เกี่ยวข้องกับการเลิกในครั้งนี้ คนคบกันมา 8-9 ปี สินสอด 100 ล้าน คือโรงพยาบาลและเรือนหอ เป็นของคุณหมอแต่เพียงผู้เดียว ชื่อหมอ และไม่ใช่สินสมรสด้วย ส่วนพวกรถยนต์ ของคุณหมอทั้งหมดไม่มีชื่อแย้ ส่วนสินสอด 30 ล้านตรงนี้แย้ต้องขอประทานอภัยสื่อและสังคมมาก ๆ ตอนมีพิธีหมั้น แย้ได้ให้สัมภาษณ์ไปพร้อมคุณหมอว่า สินสอดทั้งหมด 30 ล้านจริง ๆ แล้วแย้ไม่ได้อะไร นอกจากแหวนเพชรซึ่งคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรที่อยู่บ้านคุณหมอ และกำไรเพชรที่อยู่กับแย้ ตัวสินสอด แย้ไม่ได้อะไรเลย แย้ไม่ได้เป็นเหตุผลในการเลิกกัน เนื่องจากเรื่องสินสอด ก่อนเข้าพิธีได้คุยกับคุณหมอและตกลงกันตั้งแต่แรกว่า อยากให้สมเกียรติสมฐานะของแย้ อยากให้การแต่งงานครั้งนี้ดูยิ่งใหญ่ แย้ก็เชื่อฟังคุณหมออยู่แล้ว ก็เลยโอเค

ถ้าคุณหมอดูอยู่ จะฝากอะไรถึงคุณหมอ

          หญิงแย้ : ก็ขอบคุณมากตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา ก็สั่งสอนแย้ให้แย้ได้เข้มแข็ง ให้แย้ดูแลตัวเองได้อย่างที่หมอเคยบอกว่า ถ้าวันหนึ่งหมอไม่อยู่ แล้วแย้มีลูก แย้จะต้องเข้มแข็งดูแลลูกให้ได้ ทุกวันนี้ได้รับคำสั่งสอนจากคุณหมอมาเยอะ อยากให้เก็บแต่ความทรงจำดี ๆ เรื่องราวดี ๆ มันผ่านมาเยอะค่ะ บทเรียนของแย้ก็คือความรักไม่ใช่ทุกอย่าง ชีวิตคู่มีองค์ประกอบเยอะมาก ใครที่ตัดสินใจหุนหันพลันแล่น ช่วยกันถอยหลังคนละก้าว ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองมาก ๆ เพื่อใครสักคน สักวันหนึ่งเราก็ต้องทนไม่ได้อยู่ดี ต้องเป็นตัวของตัวเองอยู่ดี เข็ดกับการแต่งงาน ถ้าแย้ไม่ได้อยู่ตรงนี้หรือมีคนรู้จักแย้อาจจะโอเคกว่านี้ แต่มีกระแสสังคมมากเลย ในโซเชียล มาดูถูกเราว่าเกาะหมอกินอะไรหลาย ๆ อย่าง มันเสียใจ ทำไมผู้หญิงเราจะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้เหรอ