ชาเขียวนอกจากจะป้องกันโรคมะเร็ง ลดความดัน ลดไขมันในเส้นเลือดแล้ว ยังช่วย รักษาสิว อีกด้วยนะ
"สิว" ปัญหาผิวหน้าอันดับหนึ่งของวัยรุ่น ซึ่งจะพบได้เยอะกว่าวัยอื่น ๆ เพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงสาเหตุอื่น ๆ เช่น ล้างหน้าไม่สะอาด หน้ามัน ความเครียด ผิวบอบบาง ล้วนแต่ก่อให้เกิดสิวได้ทั้งนั้น ทว่าสำหรับบางคนพอล่วงเลยมาวัยผู้ใหญ่ สิวกลับไม่หายไป ยังคงกวนใจสร้างรอยแผลให้กับใบหน้าของเรา รักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ก็ไม่หาย คลินิกไหนที่ว่าดังก็ไปมาหมดแล้ว แม้จะหายก็จริง แต่พอผ่านไปสักพักสิวก็กลับมาเยือนใบหน้าเราใหม่ เฮ้อ จะทำยังไงดีล่ะที่นี้ ? สาว ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาบอกให้ทุกคนรู้แล้ว
เพื่อพิสูจน์ว่าชาเขียวสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้จริง ดอกเตอร์ทั้งสองจึงได้ทำการทดลอง โดยให้หญิงสาวจำนวน 80 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 25-45 ปี รับประทานยาที่มีสารสกัดจากชาเขียวและปราศจากคาเฟอีน 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ซึ่งผลที่ออกมาคือใบหน้าของหญิงสาวจำนวน 64 คนดูดีขึ้น รอยแผลและรอยแดงต่าง ๆ จางลง
ทั้งนี้เป็นเพราะในชาเขียวนั้นมีสาร Epigallocatechin-3-gallate (EGCG) ซึ่งช่วยต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย และลดระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ แอนโดรเจน (Androgen) สนับสนุนข้อสมมติฐานของผู้วิจัยว่าสาร EGCG เป็นผลดีต่อหญิงสาววัยทำงานที่มีปัญหาเรื่องสิวแน่นอน
ถ้าสาว ๆ เกิดคำถามว่า ต้องเป็นชาเขียวเท่านั้นหรือ ? ดื่มชาดำ ชาอู่หลง หรือชาเอิร์ลเกรย์แทนได้ไหม ? คำตอบคือการดื่มชาชนิดอื่นอาจจะทำให้สาว ๆ ไม่ได้รับสาร EGCG ในปริมาณที่เพียงพอต่อการยับยั้งสิว เพราะในชาเขียวนั้นมีปริมาณสาร EGCG ที่สูงกว่าชาชนิดอื่น ๆ แถมคาเฟอีนยังน้อยกว่าครึ่งต่อครึ่งด้วยค่ะ ถ้าหากสาว ๆ อยากลองดื่มเพื่อลดสิวดูบ้าง ต้องดื่มชาเขียวประมาณ 12 แก้วต่อวัน และต้องเป็นชาเขียวที่ชงเองด้วยนะคะ เพื่อให้ได้รับสาร EGCG 1,500 มิลลิกรัม เท่ากับปริมาณในบทความวิจัย แต่นั่นอาจจะทำให้คุณปวดชิ้งฉ่องตลอดทั้งวันเลยล่ะ
อย่างไรก็ตาม การดื่มชาเขียวเพื่อลดสิวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบรรเทาและยับยั้งไม่ให้เกิดสิว เพราะการเกิดสิวนั้นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง สาว ๆ ต้องสำรวจตนเองและหาต้นตอดูนะคะว่าเกิดจากอะไร ถ้าหากล้างหน้าสะอาดแล้ว ไม่นอนดึกก็แล้ว แต่ทำไมยังมีสิวอยู่ สาว ๆ อาจจะลองนำวิธีการดื่มชาเขียวไปใช้ดูก็ได้นะคะ เผื่อจะได้ผลดีจนสิวไม่มากวนใจอีกก็ได้
ข้อมูลจาก : metro.co.uk, clearskinforever.net
