ไทด์ เอกพันธ์ จบชีวิตคู่กับเมีย 10 ปี เตรียมหย่าในเร็ววัน อยู่กันไปไม่มีประโยชน์

          ไทด์ เอกพันธ์ รับแยกกันอยู่กับภรรยามา 2 ปีแล้ว เผยเคยรักมากแต่จืดจางเพราะทะเลาะกันบ่อย อีกฝ่ายท้าหย่า ลั่นพร้อมหย่าเพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ 

          ทำเอาหลายคนอดตกใจไม่ได้ หลังมีข่าวลือส่อแววเตียงหักของนักแสดงรุ่นใหญ่ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และภรรยาคนสวย ยุ้ย คนึงนิจ ศิริพงษ์ปรีดา ที่ถึงทางตันหลังใช้ชีวิตคู่กันมา 10 กว่าปี และมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน 3 คน คือลูกสาวฝาแฝด น้องใบเตย-น้องใบตอง อายุ 12 ปี และลูกสาวคนสุดท้อง น้องมู่หลาน อายุ 10 ขวบ จนถึงขั้นอาจจดทะเบียนหย่ากันในเร็ว ๆ นี้
          ล่าสุด (12 มกราคม 2560) ผู้สื่อข่าว บันเทิงเดลินิวส์ ได้สอบถามไปยัง ไทด์ เอกพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่าข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว สาเหตุมาจากเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ก่อนหน้านี้เราต่างก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน มีบางช่วงที่ตนรับงานละครและงานบันเทิงต่าง ๆ เยอะมาก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เขาก็อาจจะน้อยใจบ้างอะไรบ้าง แต่พอได้คุยกันเขาก็เข้าใจ ก่อนที่จะแยกกันอยู่ ตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นก็บึ้งตึงกันมาตลอดไม่คุยกัน 4-5 เดือน คือเป็นเรื่องที่สะสมมาเรื่อย ๆ อย่างเขาก็ไปได้ยินคนอื่นพูดถึงตนอย่างนั้นอย่างนี้ ตนก็ได้ยินคนอื่นพูดถึงเขามันฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดีทั้งคู่ เราก็เริ่มห่างกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นอยู่ในบ้านเดียวกัน วันหนึ่งเขาก็ขนที่นอนของเขาลงมาข้างล่างจากนั้นไม่กี่วันก็ขนเสื้อผ้าตนออกจากห้อง เหมือนบอกเป็นนัย ๆ ตนก็เลยหอบเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่บ้าน แถวพุทธมณฑล


          โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่มักจะมีปัญหาทะเลาะกันบ่อย จนผู้ใหญ่ในวงการต้องออกโรงมาเคลียร์ให้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทางไทด์ ก็ยอมรับว่า เราทะเลาะกัน 3 วันดี 4 วันไข้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหยุมหยิม ต่างคนต่างไม่ยอม มีทิฐิ เขาชอบท้าหย่า ตนเข้าใจเขาอาจจะพูดด้วยความโมโห แต่พูดบ่อย ๆ คนฟังก็เสียความรู้สึก ยิ่งทำให้รู้สึกว่าชีวิตครอบครัวไม่มีอะไรแน่นอน จู่ ๆ อยากจะหย่าก็หย่า ไม่มีความผูกพันอะไรเลยหรือ มีอยู่ 1-2 ครั้ง เขาทำเกินเหตุต่อหน้าลูก ตนรับไม่ได้จริง ๆ

          และเมื่อถามว่าทุกวันนี้ยังรักภรรยาอยู่หรือไม่ เจ้าตัวก็เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนรักเขามาก เพราะเขาก็เป็นคนจิตใจดี ขี้สงสาร เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่นี่เราแยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว แน่นอนความรักมันก็จืดจาง เพราะไม่ได้ติดต่อกันเลย นอกจากวันเสาร์-อาทิตย์ มีการตกลงกันว่า เราจะพาลูก ๆ ไปกินข้าว ไปเที่ยว ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ แต่ไม่มีความสัมพันธ์กัน พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังยอมรับว่า ชีวิตคู่ของตนล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่พยายามแก้ไขทุกวิถีทาง แต่เมื่อไม่เป็นผล สุดท้ายก็คงต้องเลิกรากันไป ตนคุยเรื่องหย่ากันแล้ว เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่างคนต่างไม่มีความสุข ลูก ๆ เองก็เข้าใจ เพราะเขาโตพอที่จะรับรู้เรื่องของพ่อแม่


ภาพจาก Instagram tide2tide
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก