x close

ดาวิส ดีไซเนอร์ดังแฉหมดเปลือก ปมดราม่าก้มกราบดารา พร้อมใบ้เป็นพระเอกจากช่องมากสี



          ดาวิส ปรานต์ลภณ ดีไซเนอร์คนดังเปิดใจปมดราม่าก้มกราบเท้าดาราพระเอกรุ่นลูกในงานแฟชั่นโชว์ ที่ สปป.ลาว พร้อมใบ้เป็นพระเอกที่มีชื่อเป็นวันหยุดจากช่องมากสี

          กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามองอยู่ไม่น้อย เมื่อ แชน ดาวิส ปรานต์ลภณ  จากห้องเสื้อ dVIS เจ้าของรางวัลนาฏราชเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ที่ออกมาแฉแบบจัดเต็ม ว่า ตนต้องก้มกราบเท้าพระเอกจากช่องมากสีให้หยุดโมโห ในงานแฟชั่นโชว์ ที่ สปป.ลาว หลังจากดาราดังขู่ว่าจะไม่ร่วมเดินแบบด้วย (อ่านเพิ่มเติม ดีไซเนอร์ดัง ก้มกราบเท้านักแสดง วอนหยุดเรื่องเยอะ ในงานแฟชั่นโชว์)

แซน เดวิท

          ล่าสุด (22 มีนาคม 2560) แชน ดาวิส ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้พร้อมแฉหมดเปลือกผ่านรายการ APOP บันเทิง 34 ช่อง AMARIN TVHD ว่า ตนได้เชิญดาราไปร่วมงานเดินแบบที่ สปป. ลาว 2 คน เป็น พระเอกจากช่องน้อยสี และ พระเอกช่องมากสี โดยแต่ละคนมีผู้จัดการของตัวเองมาด้วย ทั้งนี้ตนก็ได้ดีลกันเรียบร้อยว่าจะมีการเดินทางไปอย่างไร ทำงานที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรบ้าง แต่เรื่องมาเกิดที่ทีมงานของเราไม่ได้ไปรับเขาตรงเวลา ทำให้เขาดีเลย์ไป 2-3 ชั่วโมง และต้องนั่งรอเราไปอีก
          จนเมื่อเขาไปถึงลาวแพลนทุกอย่างที่วางไว้ก็ดีเลย์ไปเรื่อย ๆ ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งตนก็ยอมรับผิดตั้งแต่ตอนนั้น แต่เรื่องก็มาเกิดที่มีทีมงานวิ่งไปหาตนให้รีบไปคุยกับ พระเอกคนหนึ่งจากช่องมากสี เพราะเขาจะไม่ยอมเดินแบบให้เรา ทั้ง ๆ ที่ในเวลานั้นงานมันเริ่มแล้ว และเป็นเวลาก่อนที่เขาจะต้องขึ้นเดินแบบ 30 นาที


          โดยเมื่อตนเข้าไปคุยกับเขาก็เจอกับบรรยากาศมาคุ ตนก็โดนใส่ตั้งแต่ผู้จัดการส่วนตัวมาจนเขาที่บอกว่า ดาราจะกลับไทยในวันรุ่งขึ้นและต้องเป็นไฟลท์เช้าด่วนที่สุด ทั้ง ๆ ที่ตนดีลไว้ว่า เขาจะต้องมาเดินแบบวันนี้และไปกินข้าวเที่ยงกับสปอนเซอร์ก่อนในวันพรุ่งนี้แล้วค่อยบินกลับพร้อมกันในช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ไม่ยอม จนเราบอกให้ใจเย็นและเจรจากันเนื่องจากไฟลท์เช้านั้นราคาค่อนข้างสูง เขาก็บอกว่าไปไฟลท์บ่ายก็ได้ ซึ่งตนก็บอกว่ามันเป็นไฟลท์ใกล้เคียงกับที่เราจะให้เขากลับตั้งแต่แรกแล้ว สุดท้ายตนก็ให้ทีมงานไปหาตั๋วเครื่องบินให้เขาใหม่เสียไป ณ ตอนนั้นตนยอมควักเงิน 17,000 บาท เพื่อให้เรื่องจบ

          อย่างไรก็ตาม ดาราทั้ง 2 คน ตนได้ติดต่อผ่านผู้จัดการของพระเอกน้อยสีที่ตนรู้จักมา 4-5 ปีและสนิทกัน พระเอกจากช่องน้อยสีนั้นตนรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่เขาจะมาเป็นพระเอกแล้ว ส่วนพระเอกช่องมากสีนั้น ตนขอใช้คำว่าไม่รู้จักมาก่อนเลย แต่ได้รับการแนะนำมาจากผู้จัดการช่องน้อยสีว่าคนนี้โอเค ซึ่งก็จะทำให้เขามีผลงานดีกว่าไปอยู่เฉย ๆ

แซน เดวิท

          และคนที่มีปัญหาในวันนั้นคือ "พระเอกจากช่องมากสี" ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วตอนแรกตนก็ยังไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร แต่ตนก็ต้องขอออกตัวก่อนว่าตนเป็นคนไม่ดูทีวีเลยไม่ทราบว่าคนไหนดังไม่ดัง ซึ่งคนนี้ตอนแนะนำให้รู้จักเขาว่าดัง เราก็ว่าดัง พร้อมใบ้ว่าพระเอกคนดังกล่าวมี "ชื่อเล่นเป็นวันที่ต่อจากวันเสาร์" ซึ่งคนที่ตนก้มกราบก็คือพระเอกจากช่องมากสี เพราะเขาไม่หยุดโมโหใส่และงานก็จะเริ่มแล้ว ซึ่งหากเขาไม่หยุดเรียกร้องเขาก็จะไม่ได้แต่งตัว เขามีข้ออ้างที่เหมือนเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่อัดอั้น ซึ่งตนก็เข้าใจเขา แต่มองว่ามันไม่ใช่เวลาที่เราจะมาต่อรองกัน ณ เวลานั้น คำถามคือ ถ้าตนไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เรื่องจบก็คงไม่ได้ทำงาน ตนจึงมองว่าหากเขาอยากได้ความเป็นซุปตา ร์ตนก็ถอดหัวโขนที่เป็นดีไซเนอร์ทำงานมากว่า 20 ปี ได้รับรางวัลต่าง ๆ และก้มกราบเขา ให้เขาเห็นว่าขนาดตนยังกราบเขาได้ ให้เขารู้ว่าควรทำตัวอย่างไรต่อ

          เขาก็ถามว่าทำไมตนต้องทำแบบนี้ ซึ่งตนก็บอกว่าตนสบายใจที่ทำแบบนี้ ให้ดูว่าเราก็คือคน ๆ หนึ่ง พี่อายุ 45 เธออายุ 19 แล้วมองในแง่ที่ว่าตนเป็นคนผิดก็ทำให้คุณสบายใจแล้ว แต่ที่จะไม่สบายใจก็คือคุณมากกว่า ที่มองกลับมาแล้วจะรู้ว่าการโมโหด้วยอารมณ์ชั่ววูบ หรือการมีผู้จัดการห่วย ๆ จนทำให้เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้


          และที่ตนเรียกว่าผู้จัดการห่วย ๆ เพราะตนมองว่าผู้จัดการคือคนที่คอยมาประสานงานระหว่างดาราของตัวเองและผู้จัดงาน ไม่ได้มีหน้าที่แค่ต่อรองรับเงิน ไม่ว่าตัวดาราจะดี จะโมโหอย่างไร ผู้จัดการควรเป็นคนออกหน้า ผู้จัดการที่ดีควรหาวิธีแก้ไข คุยกับทีมงานเพื่อให้ดาราของตัวเองได้ทำงาน ไม่ใช่มานั่งเป็นองค์ประธานแล้วปล่อยให้ดารามาพูด ๆ โมโหใส่ผู้จัดงาน แถมยังใส่ไฟเพิ่มให้มีปัญหามากขึ้น ทำไมถึงไม่บอกให้ดาราของตัวเองสงบสติอารมณ์ ทำงานใส่เสร็จ แล้วจบงานค่อยเคลียร์กับเราทีเดียว สรุปในวันนั้นเขาก็เดินแบบให้เรา แต่ในตอนจบแทนที่เราซึ่งเป็นดีไซเนอร์จะเดินควงเขาทั้งคู่ออกมาเพื่อให้คนรู้ว่าเขาคือที่สุดของงาน เราก็ไม่กล้าเดินไปแตะตัวเขา ต่างคนต่างเดิน

          พอจบงานก็ไม่มีการถ่ายรูปคู่ออกมาเลย ซึ่งในภาพข่าวของแต่ละสำนักที่ลาวก็ไม่มีรูปเขาเลยทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้สื่อว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เพราะเขาเฟดตัวออกไปเองและตัวเขาเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในฝั่งนั้นด้วย


          ทั้งนี้ แชน ดาวิส เผยว่า ในคืนหลังจากที่จบงานก็มีปาร์ตี้ ซึ่งตนก็ได้แต่ร้องไห้เพราะรู้สึกอัดอั้นด้วยความที่เราเตรียมงานกับทีมงานกว่า 80 ชีวิตมาเป็นเวลานานถึง 3 เดือน แต่กลับมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งพอกลับไปโรงแรมพระเอกคนนั้นก็ได้มีการพูดคุยเคลียร์กันแล้ว โดยเขาบอกว่า รู้สึกไม่สบายใจที่ตนไปกราบเขาเลยรู้สึกว่าต้องมาไหว้ขอโทษกลับ แล้วเขาก็ยกมือบอก ขอโทษครับ ตอนนั้นตนก็รู้สึกว่า เขาทำเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งในความรู้สึกตนนั้นตนมองว่าเขาควรพูดอะไรที่เยอะกว่านี้

          ส่วนโอกาสที่จะร่วมงานในครั้งต่อไปนั้น ตนมองว่าอยู่ในวงการเดียวกันก็ต้องเจอกันอีก อย่างผู้จัดการส่วนตัวเขาเราก็รู้จักกัน ตนเคยร่วมงานกับดาราระดับท็อป ๆ มาเยอะ ก็เห็นว่าเมื่อเขามาอยู่ในงานที่ใหญ่คนเยอะเขาจะยิ่งทำตัวให้เล็ก ไม่แสดงพาวเวอร์ ไม่พอใจก็จะไปอยู่ในมุมเงียบ ๆ ของตัวเองซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี จึงมองว่านี่เป็นบทเรียนให้กับพระเอกคนดังกล่าวและทีมงานทั้งสองฝ่ายว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราจะต้องทำอย่างไรต่อไป ผู้จัดการต้องแก้ไขสถานการณ์ได้ไม่ใช่ไปตกอยู่ที่ตัวดารา



ภาพและข้อมูลเพิ่มเติมจาก  AMARIN TVHD

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดาวิส ดีไซเนอร์ดังแฉหมดเปลือก ปมดราม่าก้มกราบดารา พร้อมใบ้เป็นพระเอกจากช่องมากสี โพสต์เมื่อ 23 มีนาคม 2560 เวลา 19:41:17 39,917 อ่าน
TOP