จอย ศิริลักษณ์ เปิดใจเหตุห่างหายจากวงการบันเทิง เพราะกำลังมุ่งเรียนต่อปริญญาเอก และมีปัญหาสุขภาพรุมเร้า ปัดทิ้งงานละคร เพราะเหตุผลทางการเมือง
กลับมาสร้างรอยยิ้มให้กับแฟน ๆ อีกครั้ง เมื่อนางเอกสาว จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค เซอร์ไพรส์คนดูกับการแปลงโฉมเป็นหน้ากากหงส์ดำ จับไมค์ขึ้นร้องเพลงในรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้องซีซั่น 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เห็นผลงานของเธอมานานมาก ทำให้หลายคนสงสัยว่าเธอหายไปไหน ในขณะที่งานในวงการบันเทิงกำลังไปได้สวย หรืออาจจะเป็นเพราะประเด็นด้านการเมือง
ล่าสุด (15 พฤษภาคม 2560) จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ APOP บันเทิง ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ว่า ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่หายไปนั้น เป็นเพราะตนกำลังมุ่งหน้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาชญาวิทยาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยการเรียนสาขานี้ทำให้รู้ถึงสาเหตุของคนว่า เพราะเหตุผลใดมนุษย์ถึงตัดสินใจกระทำเรื่องราวที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากเรียนจบ อาจารย์และเพื่อน ๆ ก็ต่างสนับสนุนให้เรียนต่อ เพราะยังมีเรื่องที่ควรจะศึกษาลึกเข้าไปอีก ตนจึงตัดสินใจศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก สาขาเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่างที่เรียนก็ทำให้ได้เรียนรู้สังคมและคนมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเข้าใจในกระบวนการยุติธรรมเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่กำลังเรียนตนก็เริ่มป่วยเป็นโรคเส้นประสาทดึงรั้งผ่านต้นคอ เกิดจากความเครียดสะสม อดนอน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจเป็นโรคนี้อยู่ แต่ไม่รู้ตัว เพราะโรคยังไม่แสดงอาการออกมา ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ จู่ ๆ ก็เริ่มมีอาการมึนงง กลอกตาไปมารู้สึกว่าหน้ามืด เหมือนจะทรงตัวไม่ได้ เลยต้องเรียกรถพยาบาลมารับไป เมื่อกลับถึงไทยก็รักษาด้วยวิธีการไปฝังเข็มและทำกายภาพบำบัดจนหายขาด
หลังจากนั้นไม่นานก็ป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้ออีก เป็นเวลา 3 เดือน เกิดจากสภาพอากาศ ภูมิคุ้มกันน้อย รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ และถัดมาอีก 3 เดือน ก็ตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร จึงเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งตอนนี้ก็หายเป็นปกติแล้ว
สำหรับกระแสที่บอกว่าตนหายไปเพราะเหตุผลทางการเมือง ยืนยันว่าไม่เกี่ยว สำหรับตัวเองค่อนข้างรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร เลยรีบพุ่งไปตรงนั้น อยากทำเรื่องเรียนให้ดีที่สุด เพราะถ้าทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน ตัวเราเองจะไม่ไหว เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่ และตนยังรักการแสดงเหมือนเดิม แม้ว่าจะอายุเยอะขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเล่นละครไม่ได้ เพราะละครก็ยังมีหลายบทบาทให้ท้าทาย หากมีผู้จัดติดต่อเข้ามาเสนอบท ก็อาจต้องคุยตามความเหมาะสม สุดท้ายตนต้องขอขอบคุณแฟน ๆ ที่ติดตามและให้กำลังใจ ซึ่งถ้ามีโอกาสก็อาจจะได้เห็นผลงานทางหน้าจอโทรทัศน์อย่างแน่นอน
ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ ทีวี
