หลังจากที่ก่อนหน้านี้ น้องภู ลูกชายของตั๊ก ศิริพร และนุ้ย เชิญยิ้ม มักจะถูกล้อเลียนว่าเป็นกะเทย โดยที่ตั๊กบอกว่า เรื่องนี้มันเกิดมาจากนุ้ยที่ชอบล้อลูก ล้อไปล้อมาก็กลายเป็นว่าคนอื่นเอาไปล้อต่อ และต่อมา นุ้ยก็บอกว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร ตนก็รับได้เสมอ (อ่านเพิ่มเติม นุ้ย เชิญยิ้ม เปิดใจ รับได้หาก น้องภู ไม่แมน ขอแค่ลูกเป็นคนดี พ่อก็สุขใจ)
อย่างที่เคยพูดมาก่อนว่า ตั๊ก นุ้ย ต้องมาให้สัมภาษณ์ว่า รับได้ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร ทำให้ตนคลางแคลงใจว่า ยุคนี้แล้ว...ทำไมถึงยังมามองแต่เรื่องเพศ ทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม ก็อยากได้ลูกที่เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่น ๆ แต่หากลูกเกิดมาแล้วจะไม่แมน ไม่สาว ก็ต้องให้เกียรติเขา ให้ที่ยืนกับเขา เขาเกิดมาแล้วไม่ได้ทำอะไรผิด
อย่างไรก็ตาม การที่นุ้ยและตั๊ก ออกมาบอกว่ารับได้ถ้าลูกเป็นกะเทยนั้น เป็นการด่วนสรุปเร็วเกินไป เด็กอายุ 13 ปีเขาเองยังไม่รู้ตัว และถ้าน้องโตมากกว่านี้แล้วรู้ตัวว่าแมน แล้วจะทำอย่างไร เรื่องแบบนี้พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องพูด รอให้ลูกโตขึ้นแล้วแสดงออกด้วยความมั่นใจจะดีกว่า สังคมควรรับรู้จากตัวของเด็กเองดีกว่าและฝากไปถึงคนในวงการที่ล้อเรื่องเพศเพื่อความสนุกสนาน ตนจะบอกว่า คนที่ถูกล้อเขาไม่สนุกหรอก ใครจะไปรู้ว่าในอนาคต น้องภูอาจจะเป็นคนใหญ่คนโต มีหน้ามีตาในสังคม แต่ต้องเริ่มต้นชีวิตวัยเด็กด้วยการถูกเพื่อนล้อ ดังนั้น อย่าทำกับเด็กเลย หยุดเถอะ
อย่างตนเองนั้น ก็เคยถูกเพื่อนล้อตั้งแต่เด็ก ถูกเพื่อนล้อว่าเป็นกะเทย แต่ตนแต่งงานและมีครอบครัวได้ก็เพราะตนมีบุคลิกแบบนี้ อย่างลูกสาวของตนคนหนึ่งก็เป็นทอม แมนมาก แต่กำลังเรียนปริญญาเอก ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเรายังต้องสนใจว่า ใครจะเกิดมามีเพศอะไร ทั้ง ๆ ที่โลกนี้มีอะไรที่น่าสนใจตั้งเยอะ หากพูดเพื่อความรู้ตนก็ยินดี แต่หากพูดเพื่อล้อเลียนตนไม่ชอบ ตนมีพ่อมีแม่ มีการศึกษา มีเงิน ไม่ได้ขอใครกิน ไม่ใช่เรื่องที่จะนั่งเอาตนมาล้อเล่น
เวลาตนถูกล้อ ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าเพื่อนจะล้อทำไม เราทำอะไรเหมือน ๆ กัน แต่กลับมีชีวิตวัยรุ่นที่ลำบาก มันทำให้ตนไม่อยากไปโรงเรียน และเรียนไม่เก่ง อย่างไรก็ตาม ตนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากอดทน
ความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องที่คนควรทำความเข้าใจ อย่างลูกของตนอาจจะเป็นทอม แต่ไม่ได้ติดยาเสพติด เป็นโจรหรือทำผิดกฎหมาย ลูกของตนเพอร์เฟคท์หมด เรียนจบจากจุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับ 1 และดูแลพ่อแม่ บุพการี ดูแลคุณย่าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมีสื่อที่กล้ามาพูดเรื่องเพศของตน เรื่องลูกของตน ตนก็พร้อมออกมาฉะ เพราะตนมองว่า สมัยนี้ใครอยากจะหยิบอะไรมาเม้าท์ก็เม้าท์ได้ สมัยนี้สื่อควรมีจรรยาบรรณ ถ้าเรารุกล้ำเข้าไปในชีวิตส่วนตัวของคนอื่นจนทำให้เขาไม่มีความสุข และคุณจะมีความสุขได้อย่างไร
