โรสแมรี่ จากนักร้องดัง กลายเป็นซิงเกิลมัม ขายเครปเลี้ยงลูกได้เดือนละ 8,000

          หายหน้าไปจากวงการไปนานมาก สำหรับอดีตนักร้องดัง โรสแมรี่ คาฮันดิง ที่คอเพลงยุคอินดี้รู้จักกันดีในชื่อ โรสแมรี่ เจ้าของเพลงฮิต ให้ฉันทำอย่างไร ซึ่งในยุคนั้นเป็นเพลงที่คุ้นหูแฟนเพลงหลายคน ล่าสุด (11 กันยายน 2560) เธอได้มาเปิดใจเล่าถึงชีวิตในช่วงที่หายหน้าไปจากวงการกว่า 20 ปี ตอนนี้เป็นซิงเกิลมัม ขายเครปหาเลี้ยงตนเองและลูก อีกทั้งยังเล่าถึงภาวะเป็นโรคซึมเศร้า ถึงขั้นคิดเขียนจดหมายสั่งเสียลูกไว้อีกด้วย โดยเธอได้มาเปิดใจถึงชีวิต ในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง one 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เต๋อ รัฐนันท์ เป็นพิธีกร

ตอนนี้งานร้องเพลงหายหมด ?
          โรสแมรี่ : ไม่ค่อยว่างหาใคร ไม่ค่อยมีคอนเน็คชั่น ก็เลยไม่ได้ติดต่อใคร เขาก็คิดว่าเราไม่รับงานแล้ว ถ้ามีคนติดต่อมา ก็ร้องค่ะ มีคนช่วยอยู่ เริ่มอยากวิ่งเข้าหางานแล้วค่ะ มีทำซิงเกิลกับค่ายเล็ก ๆ

ห่างมากี่ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นที่ออกเทปแรก ๆ ?
          โรสแมรี่ : ประมาณเกือบ 20 แล้วค่ะ

ตอนที่ไม่ได้ร้องเพลงแล้ว ทำอะไรอยู่ ?
          โรสแมรี่ : ก่อนที่จะมีน้องนะคะ ไปร้องเพลงกลางคืนค่ะ ร้องอยู่ 7 - 8 ปี จนมีน้องก็เลยพัก พอเลิกร้องเพลงก็ย้ายไปอยู่อรัญประเทศกับเพื่อนค่ะ ไปทำงานโรงแรมของเพื่อน ไปช่วยคุมซาวด์ให้ค่ะ เพราะว่าพอท้องปุ๊บ ผู้ชายก็ไม่อยู่แล้ว


แสดงว่าเป็นซิงเกิลมัม เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด 5 ปี ?
          โรสแมรี่ : ใช่ค่ะ

เห็นว่าตั้งขายเครปหน้าบ้าน ?
          โรสแมรี่ : ค่ะ ตั้งขายในบ้านเลย ขายที่ตลาดแฮปปี้แลนด์สาย 2 ค่ะ ขายมาจนทุกวันนี้ ชื่อร้านว่า เครปดาวเหนือ บาย โรสแมรี่ ค่ะ ถามว่าเงินดีไหม ตอนแรกก็ดีนะ แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ก็แย่กันทั้งซอย เพราะขายอาหารกันทั้งซอย เฉลี่ยแล้วได้ประมาณเดือนละ 8,000-10,000 บาท ถ้าขายดี ๆ ก็มากกว่านั้นนะคะ แล้วก็มีคนเรียกไปร้องเพลงบ้าง ทุกวันนี้อยู่กันสองคนค่ะ ตั้งแต่พ่อเสีย

ที่บอกว่าคุณพ่อของน้องหายไป เขาได้มาดูแลลูกไหม ?
          โรสแมรี่ : เขาเพิ่งมาเจอเมื่อตอน 3 ขวบ เพราะเราไปอยู่อรัญประเทศ เพิ่งกลับมาตอนน้อง 3 ขวบกว่า เขาก็ไม่กล้าโทร. มานะ เพราะเราไม่เคยไปเซ้าซี้อะไร เขาก็เจอกัน แล้วไม่กล้ามาหาน้อง เราก็บอกว่าเราไม่โกรธอะไร เลยบอกว่ามาหาได้เลย เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามอะไร


ถ้าเงินไม่พอ เราจะหาเพิ่มจากไหน ?
          โรสแมรี่ : เอาจริง ๆ ก็มีคนยื่นมือมาช่วยเยอะนะคะ จะเป็นพี่ ๆ ที่สนิทกัน บอกให้ยกหูหาเลย เพราะเขารู้ว่าเราเป็นคนไม่เกี่ยง กินเหล้า หรือเล่นการพนัน เพราะเงินทุกอย่าง เราให้ลูกหมดเลย ถามว่าอึดอัดไหมที่จะโทรหา อึดอัดค่ะ แต่ถ้าเพื่อลูกแล้ว เราต้องโทร. ค่ะ

เราเครียดถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า จริงไหม ?
          โรสแมรี่ :  ตอนแรกโรสประเมินตัวเองว่าเป็นนะ เวลาที่เราเห็นคนตายด้วยวิธีฆ่าตัวตาย เราเริ่มเข้าใจเขา จะร้องไห้ตาม เขาทำได้ แต่เราไม่กล้าทำหรอก เคยคิดจะทำเหมือนกัน มันเครียดเยอะ แต่ไม่เคยคิดที่จะทำจริง ๆ บางคนที่ไม่ได้เป็น ก็เหมือนวูบหนึ่งคิดที่จะอยากทำเช่นกัน แต่ของเราก็ไม่ได้คิดที่จะวางแผนทำ มีช่วงหนึ่ง เราหายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนคนวิ่งมาเป็นร้อย ๆ กิโล แน่นไปหมด หายใจไม่ออก เป็นมา 3 วัน เรานั่งมองลูกแล้วทำอย่างไรดี เพราะพ่อเขาก็ไม่ได้เซ็นรับลูก เราเซ็นอยู่คนเดียว ถ้าวันหนึ่งเราล้มแล้วเป็นอะไรไป เขาจะไปตกอยู่ที่ไหน ก็เลยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าถ้าโรสไม่อยู่ ขอคนที่สามารถส่งเสียเลี้ยงดูเขาได้ ช่วยหน่อยนะ ตอนนี้พ่อเขาก็มีน้องเล็ก ๆ ถ้าเขาไปก็จะกลายเป็นคนอื่น ไม่ใช่ว่าพ่อเขาไม่รัก แต่ถ้าผู้หญิงเขาก็ต้องรักลูกเขา ก็เลยเขียนจดหมายฝากไว้ จากนั้นก็ไปหาหมอเช็กทุกอย่างในร่างกาย หมอถามว่าตัวเราเป็นอะไร ก็บอกว่าน่าจะเป็นอาการตื่นตระหนก สารในสมองหลั่งผิดปกติ ใจมันจะหวิว ๆ ไม่ได้ตายแต่เหมือนจะตาย แต่โรคนี้รักษาได้ค่ะ หมอบอกว่าน่าจะมาจากภาวะเครียดเรื้อรัง ภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง มาออกทางร่างกายแทน ด้วยความที่เราคิดว่าเราไหว เราแข็งแรง ไม่ได้ซึมเศร้า เราก็ฝืนมัน แต่ร่างกายบอกว่า เราไม่ไหวแล้ว ราคาในการรักษาไม่แพงนะคะ ร้อยกว่าบาทเอง


ทุกวันนี้เป็นยังไงบ้าง หลังจากได้รักษาแล้ว ?
          โรสแมรี่ : มันก็เหวี่ยง ๆ มันก็มีร้องไห้บ้าง แต่ไม่ได้บ่อย แต่ก็มีบางทีเราร้องไห้ ลูกก็เข้ามาเช็ดน้ำตาให้ค่ะ
 
          ติดตามรายการ "คุยเช้า Show" ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 07.00-08.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยเช้าShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama