สาว ๆ เคยเป็นกันไหมคะ ที่บางครั้งตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่บวมเป่ง คล้ายกับลูกซาลาเปายังไงอย่างงั้น ซึ่งกว่าจะรอให้หน้ากลับเข้าที่ก็ปาไปหลายชั่วโมง จนไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน เล่นทำเอาเสียความมั่นอกมั่นใจกันยกใหญ่ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหน้าบวมได้นั้น มาจากการที่มีน้ำไปสะสมอยู่ที่ใต้ผิวหนังของเรามากเกินไป พูดง่าย ๆ คือน้ำไหลเวียนในร่างกายได้ไม่ดี จึงทำให้ของเสียคั่งค้างอยู่ใต้ผิว เป็นสาเหตุให้เกิดอาการบวมน้ำได้นั่นเองค่ะ
1. ดื่มน้ำมาก ๆ
หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งดื่มน้ำมาก ยิ่งทำให้หน้าบวม ซึ่งความจริงแล้ว การดื่มน้ำน้อยต่างหากที่ทำให้หน้าบวมขึ้น นั่นก็เพราะว่าเมื่อผิวขาดน้ำ ร่างกายจะทำการกักเก็บน้ำไว้ไม่ให้ผิวแห้ง เมื่อน้ำถูกเก็บมากจนเกินไป จึงทำให้เกิดอาการหน้าบวมได้นั่นเอง ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำประมาณวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ
การดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ จะทำให้ร่างกายกระหายน้ำ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ความเข้มข้นของเลือดก็จะสูงขึ้น ร่างกายจึงต้องดูดน้ำจากส่วนอื่นเข้ามาในเส้นเลือดมากขึ้นเพื่อปรับสมดุล เกิดน้ำคั่งค้าง จนทำให้หน้าบวม บางรายถึงขั้นบวมทั้งตัวเลยก็มี ถ้าสาว ๆ ไม่อยากหน้าบวม ควรงดดื่มแอลกอฮอล์จะดีที่สุดค่ะ
3. ลดอาหารเค็ม
การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมมาก เช่น อาหารสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารกระป๋อง อาจทำให้ร่างกายได้รับเกลือมากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้โปแตสเซียม (แร่ธาตุที่จำเป็นต่อการปรับสมดุลเกลือ) ในร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายต้องกักเก็บน้ำเอาไว้เพื่อที่จะขับโซเดียมออกจากร่างกายนั่นเอง ทางที่ดีสาว ๆ ควรลดทานอาหารที่มีความเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมมาก ๆ จะดีที่สุดค่ะ
สาว ๆ ลองหันหน้าสลับซ้ายขวาไปทีละข้าง จากนั้นหันไปด้านหลังจนสุดเพื่อบริหารคอ เงยหน้าขึ้น ก้มลงจนคางชิดอก ท่าบริหารเหล่านี้จะช่วยให้น้ำและของเหลวต่าง ๆ ไหลเวียนได้ดีขึ้น และยังช่วยลดอาการหน้าบวมได้อีกด้วยค่ะ
5. นวดหน้า
บางครั้งอาการหน้าบวมอาจเป็นเพราะเลือดไหลเวียนไม่ดี ให้สาว ๆ ลองนวดหน้าระหว่างล้างหน้า โดยใช้ปลายนิ้วนวดใบหน้าเป็นวงกลมเบา ๆ ตั้งแต่ปลายคาง แก้ม หน้าผาก และปิดท้ายที่บริเวณรอบดวงตา หรืออาจนวดพร้อมกับการทาครีมบำรุงไปด้วย ไล่ตั้งแต่ช่วงต้นคอ ถึงกกหู ก็จะช่วยลดอาการหน้าบวมได้เร็วขึ้นค่ะ
ใส่น้ำแข็งลงในอ่างล้างหน้าประมาณ 10-15 ก้อน หรือตามสะดวก แล้วค่อย ๆ จุ่มหน้าลงในอ่าง ค้างไว้ครั้งละ 10-15 วินาที ทำกี่ครั้งก็ได้ตามใจชอบ น้ำเย็นจัดจะช่วยให้เส้นเลือดฝอยหดตัวและลดอาการหน้าบวมได้ หรือถ้าไม่กล้าเอาหน้าจุ่มน้ำแข็ง ให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดผืนเล็กห่อน้ำแข็ง 2-3 ก้อน แล้วนำมาประคบบนใบหน้าสักครู่
7. คอนทัวร์หน้าให้ดูหน้าเรียว
ต้องขอบคุณเครื่องสำอางสมัยนี้ที่ช่วยเนรมิตใบหน้าให้ดูผอมเพรียวได้ เพียงใช้วิธีคอนทัวร์หน้า ลบแก้ม เน้นกรามให้เห็นเด่นชัดมีมิติ โดยเริ่มจาก คอนทัวร์บริเวณไรผม หน้าผาก ไล่ลงมาช่วงโหนกแก้ม และปิดท้ายด้วยช่วงกราม ก็จะช่วยพรางให้หน้าดูผอมเพรียว ไม่บวมมากแล้วค่ะ
นอกจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้ง่ายแล้ว ยังมีโอกาสทำให้สาว ๆ หน้าบวมตอนตื่นนอนได้อีกด้วยค่ะ เพราะว่าเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะผลิตสารเคมีกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ อย่างไรแล้วควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมงจะดีที่สุดค่ะ
9. นอนให้ถูกท่า
สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าท่านอนก็มีผลที่ทำให้หน้าบวมได้เช่นกัน โดยเฉพาะ การนอนหนุนหมอนที่ต่ำเกินไป จะทำให้เลือด น้ำ และของเหลวต่าง ๆ ในร่างกายหมุนเวียนได้ไม่ดีพอ จึงเป็นสาเหตุให้หน้าบวมได้นั่นเอง ทางที่ดีควรนอนให้ถูกท่า ด้วยการหนุนหมอนที่พอดี ไม่สูง ไม่ต่ำจนเกินไป และไม่ควรนอนคว่ำหน้าค่ะ
อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการหน้าบวมได้ นั่นก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง เพียงแค่เคลื่อนไหวร่างกาย หรือ ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การวิ่งยืดเส้นยืดสาย จะช่วยให้ของเหลวที่มากองอยู่บนใบหน้าไหลเวียนไปที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ก็จะช่วยลดหน้าบวมได้ค่ะ
หากวันไหนที่สาว ๆ ตื่นมาพร้อมกับอาการหน้าบวม ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ ลองสังเกตตัวเองดูก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้หน้าบวมนั้น ตรงกับที่เราได้กล่าวไปหรือไม่ หากใช่ก็สามารถลดอาการหน้าบวมตามวิธีดังกล่าวได้แบบง่าย ๆ เลย แต่หากเป็นอาการหน้าบวมที่เกิดจากการแพ้ยา แพ้ครีม หรือนอกเหนือจากนั้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและทำการรักษาต่อไปค่ะ
ข้อมูลจาก : health.com, instyle.com, makeup.com
